'ฟิล์ม รัฐภูมิ'ย้อนอดีต! เคยเสียพนันหมด 1 ล้านภายในวันเดียว


เพิ่มเพื่อน    

 

          ใครจะเชื่อว่าผู้ชายมาดดีอย่าง ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ครั้งหนึ่งในชีวิต เคยหลงผิดติดในวังวนของการพนัน โดยเจ้าตัวได้เปิดใจผ่านรายการ Club Friday Show  ผลิตโดย CHANGE2561  ว่าสมัยไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษเคยเข้าบ่อนคาสิโน หมดไป 1 ล้านบาท ภายในวันเดียว

         “ตอนที่ผมไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ผมพลาดไปเข้าคาสิโน (ซึ่งเป็นบ่อนที่ถูกกฎหมายที่บ้านเขานะครับ) ความบรรลัยเกิดเลยครับ เราคิดแค่ว่าสนุกๆ แล้วด้วยความที่เราไม่เคยเข้าไปเล่น พอได้เล่นแล้วมันสนุกมาก ผมก็เริ่มติดเลยครับ ช่วงแรกมันได้มันเลยสนุกไปหมด ทำให้เรารู้สึกว่าเราเจอช่องทางในการหาเงินของเราแล้ว พอเรียนเสร็จมาเล่นเพราะเราคิดว่านี่แหละคือช่องทางหารายได้ของเรา

          แล้วมีช่วงหนึ่งคือหน้ามืดครับ โดนจนหมดตัวเลย ซึ่งเป็นงบที่เราเตรียมเพื่อเอาไปเรียนไปใช้ที่นั่น ผมเตรียมไว้ 1 ปี แล้วมันมาหมดช่วงแบบประมาณ 3-4 เดือนแรก เพราะว่าผมดันพลาดดันสนุกไป ผมเลยเล่นไม่หยุด แล้วมันเสียปุ๊บ ผมก็หน้ามืดเพราะว่าเราอยากได้คืน ก็เลยเอาเงินเก็บของผมไปเล่นต่อๆ  นี่คุณแม่ไม่รู้เลยนะครับ หมดไป 1 ล้านบาท ภายในวันเดียว

          ตอนนั้นก็เกือบบ้าเลยครับ ผมก็แบบซวยแล้วทำไงดี ซึ่งผมเข้าใจเลยว่าคนหน้ามืดแล้ววินาทีสุดท้ายชีวิตเป็นยังไง ผมก็นั่งท้อๆ อยู่เราจะไปยังไงงานแสดงก็ไม่มี ถูกพักงานเกือบๆ 2 ปี แล้วเหลือเวลาอีกเป็นปีกว่าเราจะได้มีโอกาสกลับไปทำงานใหม่ ทำอะไรก็ไม่ได้วันๆ ล้างแต่จาน เราก็รีบโทรหาพี่ชายเลยว่าขายรถให้หมดเลย พี่ชายก็รีบขายรถให้แล้วเขาก็รีบโอนเงินส่วนหนึ่งมาให้เพื่อให้ผมประคองชีวิตต่อ

          แต่ทีนี้สะดุดแล้วกับการที่ผมกะว่า 2 ปีจะเพียงพอแต่หลังจากที่เสียไปหมดคือไม่เพียงพอล่ะเราก็ทำไงดี พอเราได้สติกลับคืนเราก็เริ่มหางาน ทำงาน  ซึ่งตอนนั้นไม่ได้บอกคุณแม่เลยว่าเราไปเล่นพนัยแล้วเสียหมด เพราะว่าเราทำให้คุณแม่เสียใจอีกไม่ได้แล้ว เขาเสียใจมามากแล้ว  ผมก็เริ่มไปทำงานตามผับบาร์ที่แบบชงเบียร์ ชีวิตของผมในแต่ละวันคือ เช้าเรียน ช่วงบ่ายว่างอยู่ ช่วงเย็นเสิร์ฟอาหาร ช่วงหลังสี่ทุ่มไปอยู่บาร์เบียร์ แล้วก็คำนวณเวลาว่าเราเหลือเวลาตรงไหนอีก เหลือเวลาช่วงบ่ายอีกเราก็ไปสมัครส่งgrab ปั่นจักรยานส่งข้าวตามบ้าน ยังเหลือเวลาอีกไปยืนขายตั๋วฟุตบอล เพราะว่าร้านอาหารที่ผมอยู่จะอยู่ติดกับสนามฟุตบอลเชลซี ก็จะมีตั๋วฟรีที่สปอนเซอร์เขาให้ร้านอาหารไทยมาแล้วเขาเบื่อที่จะไปดูกันแล้วผมเลยไปขอพี่สาวมาว่าผมขอไปดูนะ ผมก็ไปยืนขาย

          ก็มานั่งคำนวณเวลาจันทร์ถึงศุกร์ ตารางเวลาของผมคือเต็มแน่นมากแต่เสาร์ถึงอาทิตย์ยังเหลือเวลาอยู่ เลยประกาศทางเฟซบุ๊กว่าผมอยู่ที่นี้นะ ใครอยากให้ผมไปร้องเพลงตามร้านอาหารไหม คือตอนนั้นผมทำทุกอย่างเลยครับ แล้วพอเราประกาศไปเสร็จคือร้านอาหารไทยจองคิวเราเต็มเลย ใจเราก็ชื่นใจขึ้นมา มีรายได้แล้ว แต่มันมาปั่นทอนผมตรงไหนรู้ไหมครับ เมื่อก่อนขึ้นเวทีคือ 200,000 บาท แต่ที่นั่นคือ 50,000 บาท ไม่มีอะไรเลยโล่งๆ ไม่มีเวที เราก็ยืนร้องกับลำโพงตัวเดียว

          ตอนแรกเราก็รับไม่ได้แต่เราก็ต้องอดทนสู้เพื่อเงิน เพื่อแม่ เพื่อทุกคน เรารู้สึกว่าการร้องเพลงของเราที่นั่นเราเหมือนเด็กนั่งดริ้งก์มากกว่าเพราะเดี๋ยวโต๊ะนั่นเรียก โต๊ะนี้เรียก เราก็กลับมานั่งคิด ได้เงินเราก็ดีใจ แต่เราก็รู้สึกว่ามันขนาดนี้เลยเหรอชีวิต ก็มานั่งคิดเพราะความโลภ ความที่เราไปเล่นเสียอย่างนี้ เพราะการกระทำที่เราทำทั้งนั้น พอวันนั้นผมกลับมาบ้านแล้วผมมานั่งกำเงินคิดจะไปต่อหรือว่าอย่างไร นั่งคิดแล้วพลิกชีวิตผมเลยวันนั้นว่ามันจะต้องไม่พลาดอีกแล้วชีวิตนี้ คือถ้าพลาดอีกมันอาจจะไม่มีดวงประคองชีวิตนี้ไปได้อีก การพนันเลิกหมดเลยครับ พอพลิกชีวิตวันนั้นเราบอกกับตัวเองว่าเราต้องสู้ หลังจากนั้นเราก็มาวางแผนเลยว่าผมต้องทำธุรกิจอะไร ก็เลยทำให้เราเริ่มที่จะสร้างธุรกิจที่เป็นตัวเป็นตนขึ้นมาเลยครับ“


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"