กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

 

      "ไม่เจ็บเลย" คำยืนยันชัดๆ จาก บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน หลังการเดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทีมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ และข้าราชการตำรวจที่เข้ารับวัคซีนซิโนแวค ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นเข็มที่  2 พร้อมฝากถึงข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ "ตำรวจในฐานะประชาชนคนหนึ่งและเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ให้ตระหนักถึงคนรอบข้างอยู่เสมอ พวกเราตำรวจไม่ได้ฉีดวัคซีนเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เราทำเพื่อครอบครัวและพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเร็ว เราทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน"....ยกนิ้วโป้งชื่นชมหัวหน้าทัพสีกากี ๐

            เกือบกลายเป็นประเด็นดรามา กรณี ดาบตำรวจ สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ทำหนังสือถึง ผกก.ขอสมัครใจไม่ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 โดยชี้แจงเหตุผลว่าภรรยาของตนเองได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 แต่เกิดอาการชาครึ่งซีก ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน โดยแพทย์ระบุว่าอาการไม่ค่อยดีเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก แม้ผ่านไป 2-3 วันก็ยังมีอาการชาครึ่งซีกอยู่ ต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงขอแสดงความประสงค์ไม่ขอฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แต่ถัดมาเพียง 1  วันหลังจากทำหนังสือ ภรรยาของ "ดาบตำรวจ" คนดังกล่าวที่พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ก็มีอาการดีขึ้น โดยแพทย์โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ยืนยันเป็นเพียงผลที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และปัจจุบันอาการชาเหมือนอัมพฤกษ์ครึ่งซีกที่เคยเกิดขึ้นในช่วงแรกนั้นได้หายจนเป็นปกติแล้ว มีเพียงอาการตึงที่น่องขาซ้ายเท่านั้น ทำให้ ดาบตำรวจ มั่นใจการฉีดวัคซีนมากขึ้น พร้อมประสงค์ที่จะรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 ตามกำหนด เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวและเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ ๐

            นี่ก็ต้องชื่นชม ตำรวจ โควิดก็หวาดหวั่น หน้าที่ตำรวจก็ต้องทำ ตัวเลขการปราบปรามยาเสพติดรอบ 6 เดือนที่ผ่านมายังคงต้องปรบมือให้ดังๆ ผบ.ปั๊ด ที่นำทีม บิ๊กนู-พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ บิ๊กป๋อ-พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. แถลงปฏิบัติการปราบปรามขุดรากถอนโคน กดดัน ปูพรมไล่ล่า จับกุม ยึดทรัพย์สินขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ในรอบ 6  เดือนพบว่ามีจำนวนคดียาเสพติดทั้งสิ้น 192,749 คดี ส่วนใหญ่จะเป็นคดีเสพ รองลงมาเป็นครอบครอง และครอบครองเพื่อจำหน่าย สามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาได้ 193,604 คน  เป็นเพศชายร้อยละ 89.6 เพศหญิงร้อยละ 10.4 ตรวจยึดยาเสพติด ยาบ้า 301,056.263 เม็ด, กัญชา 24,425.23 กก., เฮโรอีน 2,747.30 กก., ไอซ์ 19,875.02 กก., เคตามีน  948.45 กก., ยาอี 248,991 เม็ด ประเภทคดีครอบครองจำนวน 52,538 คดี, ครอบครองเพื่อจำหน่าย 38,061 คดี, จำหน่าย 5,811 คดี, ผลิต 7,321 คดี, นำเข้า/ส่งออก 184  คดี, เสพ 88 คดี, 481 คดี, สมคบ/สนับสนุน 275 คดี อื่นๆ  78 คดี

คลิปประชาสัมพันธ์ของกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา  หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษที่ดูแล้ว ไม่อวย-ไม่เอียน  แฝงด้วยไอเดียในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ซับซ้อนในการสื่อสาร คงเป็นคลิปของ หมู่เอิร์ธ มนุษย์เจ้าปัญหา กับ  หมอภาคย์-พ.อ.นพ.ภาคย์ โลหารชุน นายแพทย์ใหญ่  หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จังหวัดลพบุรี ที่เล่นมุกแบบสามบาท-ห้าบาท แต่ฮาโดนใจคนดู ซึ่ง “หมอภาคย์”  ตบท้ายด้วยการใช้คำง่ายๆ เชิญชวนฉีดวัคซีน ถือเป็น  Ep.2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้สไตล์ “แรป” ของทหารหมวกแดงออกมาบอกกล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในระลอกก่อน ในส่วนของบุคลากรด้านการแพทย์ และเสนารักษ์ที่มีอยู่ทุกหน่วย ตอนนี้ช่วยภาครัฐทำงานตามการร้องขอ และ “สแตนด์บาย” รอเข้าสนับสนุนฉีดวัคซีนให้ประชาชนในเดือนหน้าด้วย ๐

ถึงสถานการณ์โรคระบาดจะยังไม่หยุด แต่ทุกเหล่าทัพก็ต้องทำการฝึกเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรการป้องกัน และบางช่วงเวลาต้องมีหน้ากากอนามัย  โดยเฉพาะ ทหารพันธุ์พิเศษ ที่มีคุณลักษณะเฉพาะเข้าไปช่วยคลี่คลายบางสถานการณ์ อย่างเช่นนักทำลายใต้น้ำจู่โจม มนุษย์กบ ที่กองทัพเรือต้องผลิตขึ้นมาทดแทนรุ่นต่อรุ่น สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้สำเร็จหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม  SEAL รุ่นที่ 49 จำนวน 45 นาย ประกอบด้วย กองทัพเรือ 40 นาย กองทัพบก 2 นาย กองทัพอากาศ 2 นาย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 นาย โดยมี บิ๊กปู-พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถนักทำลายใต้น้ำจู่โจม  (ปีกแข็ง) เรียบร้อยแล้ว สำหรับหลักสูตรดังกล่าวต้องฝึกภาคที่ตั้ง ภาคทะเล เพื่อทดสอบร่างกาย จิตใจ การทำงานร่วมกันเป็นทีม ทั้งภาคทฤษฎี ปฏิบัติ ระยะเวลา 31 สัปดาห์  จบเป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจมชั้นต้น (นทต.ชั้นต้น) โดย  นทต.ชั้นต้นที่เป็นข้าราชการกองทัพเรือ 40 นายจะเข้ารับการฝึกในหลักสูตร นทต.ชั้นสูง 12 สัปดาห์ จึงจะสำเร็จเป็น  นทต.ที่สมบูรณ์ ๐

ช่วงนี้กองทัพถือว่างานเข้าหลายทาง ทั้งถูกเหน็บเรื่อง  หลังรั่ว จากการซีลชายแดน เมื่อพบเชื้ออินเดียในแรงงานต่างด้าวย่านหลักสี่ รวมถึงผลพวงจาก แก๊งตุ๋นพันล้าน ของ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ถูกจับกุมดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน เพราะ “ประสิทธิ์” เคยให้กองทัพเช่าเซิร์ฟเวอร์ทำไอโอ ด้วยภาพความน่าเชื่อถือของผู้จงรักภักดีและสวมเสื้อจิตอาสา แถมยังได้เรียน หลักสูตรจิตอาสาพระราชทาน รหัสประจำตัว 3 ก 355 ทำหน้าที่เป็นวิทยากรในหน่วยงานรัฐและเอกชนหลายแห่ง นอกจากตำรวจต้องสืบสวนเรื่องเส้นทางการเงินแล้ว นักสืบโซเชียลก็พยายามขุดหาที่มาที่ไป ก่อนหน้าที่นายประสิทธิ์จะเข้ามาสู่วงในได้แบบแนบเนียน โดยเฉพาะการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของจิตอาสา ได้รับการกลั่นกรองอย่างไร และได้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมื่อสวมหมวกจิตอาสาหรือไม่ แม้จะเป็นเรื่องที่ ไม่ใหญ่-ไม่เล็ก แต่ก็ควรทำให้กระจ่าง

ที่ร้อนแรงอีกเรื่องยังคงเป็นแนวรบด้านตะวันตก เมื่อกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงลูกระเบิด ค.60 มม.มาตกในฝั่งไทย บริเวณทุ่งนา บ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  3 ลูก ทำให้ประชาชนต้องอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย  ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 กองกำลังนเรศวร ที่รับผิดชอบพื้นที่ ได้ส่งเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ค.120  มม.เข้าเสริมแนวชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย โดย พ.อ.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7  กองกำลังนเรศวร เปิดเผยว่าลูกระเบิดมีทิศทางมาจากบริเวณฐานด๊ากวิน ของทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เข้ามาตกทางเหนือบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่งมีฐานทหารเมียนมาตั้งอยู่ และยังมีกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นของฝ่ายใด...

...กระนั้นก็มีรายงานว่า กองทัพได้ตรวจสอบที่มาของกระสุนดังกล่าว พบว่าทิศทางมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ของฐานด๊ากวิน ซึ่งโดยรอบยังเป็นฐานที่มั่นของเคเอ็นยู  ที่ผ่านมามีการโจมตีฐานและยึดอาวุธหนักจากทหารเมียนมาไปได้จำนวนมาก การเสริมอาวุธของทหารไทยตามกฎการปะทะ ก็เพื่อรักษาอธิปไตย ภายใต้การประเมินสถานการณ์ซึ่งเป็นแนวทางสากลที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จะไปตั้งป้อมสัประยุทธ์กัน เชื่อมั่นว่าจะไม่มีการขยับกำลังให้เข้าทางใครในช่วงนี้อย่างแน่นอน ๐


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"