กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

ระฆังสัญญาณการแต่งตั้งตำรวจระดับ นายพล วาระประจำปี 2564 เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา  หลัง ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากี ประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ถึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประจำปี 2564 ถือเป็นขั้นตอนแรกในการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง นายพล ซึ่งจากวันประกาศไปอีก 7 วัน หากไม่มีใครร้องค้านการจัดลำดับอาวุโสในตะกร้าแต่งตั้งครั้งนี้ ก็จะเข้าสู่การทำบัญชีแต่งตั้งตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ลงไปถึง ผบก.ทั่วประเทศ ตามกฎ ตามเกณฑ์คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วาระประจำปี ระดับ นายพล ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30  ก.ย.เพื่อให้ทุกตำแหน่งเริ่มงานต่อเนื่อง แทนผู้ที่เกษียณอายุราชการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป โดยเช็กเก้าอี้ว่างจากผู้เกษียณอายุราชการและขึ้นแทนผู้ได้รับการแต่งตั้งสูงขึ้น รวมทั้งการโยกระนาบเดียวกัน ก็น่าจะเกิน 200  ตำแหน่งอย่างแน่นอน ซึ่งกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือ  นายพลภาค 2 ทั้งผู้บังคับการจังหวัด และผู้บัญชาการภาค 2 ที่โดนเด้งเข้ากรุไปนั่งตบยุงจากปมบ่อนพนันเกลื่อนเมือง อันเป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดโควิดรอบ 2  จะไปนั่งตำแหน่งไหน เพราะแว่วๆ มี นายพล ชายทะเลบางคนวิ่งสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่อยากนั่งเก้าอี้ประจำหรือจเรตำรวจ ขอเป็นหน่วยบุ๋นที่มีกำลังบ้างก็ยังดี ๐
    ยึดตามกฎ ตามเกณฑ์การแต่งตั้ง นายพล วาระประจำปี 2564 ยังคงหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายตำรวจตามหลักอาวุโส โดยผู้ที่มีคุณสมบัติและมีรายชื่อในประกาศลำดับอาวุโส ถือว่ามีความอาวุโส สามารถเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นได้ ซึ่งการแต่งตั้งเป็นไปตามอาวุโสในสัดส่วนร้อยละ 33 นอกนั้นเป็นความรู้ ความสามารถ ดังนั้นระดับ ผู้บัญชาการ ที่อยู่ในลำดับอาวุโส 1-4 ประกอบด้วย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. เข้าตามกฎ ตามเกณฑ์ ที่จะต้องขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.  แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวแว่วๆ ผู้บัญชาการเก้าอี้หลักๆ บางคนยังไม่อยากขึ้น บางคนอยากขออยู่ต่ออีกปีรอเกษียณอายุราชการ แต่ถ้ายึดตามหลักเกณฑ์ 33% ดูท่าความอยากกับความถูกต้องจะไม่สัมพันธ์กัน เห็นทีต้องโดนดันขึ้นกราวรูด เหมือนสมัย ผบ.แป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.ทำบัญชีแต่งตั้งนายพลปีสุดท้าย ที่ดัน ผู้บัญชาการอาวุโสขึ้นผู้ช่วยกราวรูด ตามหลัก ตามเกณฑ์เป๊ะ ๐
    ช่วงมีข่าวลือแรกๆ หลายคนก็เชื่อว่า ก.ตร.น่าจะไฟเขียวรับเรื่องร้องเรียน กรณีของ บิ๊กต้อย-พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา สำรองราชการ ตร. ที่ให้ ก.ตร.พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงใหม่ตาม พ.ร.บ.วิธีการปฏิบัติราชการทางการปกครอง 2539 มาตรา 54 ในประเด็นการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งคณะกรรมการด้านวินัย และสำรองราชการ โดยมีเอกสารหลักฐานให้ ก.ตร.พิจารณาในประเด็นเหล่านี้ใหม่ เพื่อปูทางให้  บิ๊กต้อย กลับเข้าสู่ตำแหน่งหลักอีกครั้ง แต่พอหลังผลการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2564 ที่มี บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลจากทำเนียบรัฐบาล มายังห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ปรากฏว่าอนุ ก.ตร.ด้านวินัยได้พิจารณาแล้วผู้ออกคำสั่งคือ ตร. ซึ่ง ตร.จะต้องเป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่เรื่องของ ก.ตร. เรื่องที่ บิ๊กต้อย เสนอมาจึงถูกส่งไปให้ ตร.ดำเนินการอีกครั้ง ก็เลยเป็นอันว่า บิ๊กต้อย ต้องทำบุญตักบาตรพร้อมกับร้องเพลงรอต่อไป ๐
น่าจะทำให้แฟนๆ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) ได้หายคิดถึงกันบ้าง หลังเห็นภาพ บิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่โรงพักภาษีเจริญ ตรวจความพร้อมเตรียมดำเนินโครงการ Smart Safety Zone  4.0 ที่เจ้าตัวรับมอบหมายจาก ผบ.ปั๊ด ลุยงานตามนโยบายให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้วยการให้ชุมชนมีส่วนร่วมและนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการป้องกันอาชญากรรม Police 4.0  โดยจะมีการประเมินผลผ่านการสำรวจความคิดเห็นจากการทำโพล โครงการปลอดอาชญากรรม Smart  Safety Zone 4.0 สถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ  โดยในช่วงเดือน มิ.ย.เป็นขั้นเตรียมดำเนินการโครงการ  บิ๊กโจ๊ก เลยต้องมาตรวจเยี่ยม พบปะทำความเข้าใจกับประชาชนในชุมชนกำแพงทองพัฒนา ในการดำเนินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ๐
สนับสนุน ศบค.เพิ่มเตียงสนามไอซียูเร่งด่วน  พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ  อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เรียกประชุม กอ.รมน. หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC เพิ่มขีดความสามารถทางการแพทย์ทหารสูงสุด ด้วยการปรับเกลี่ยบุคลากรทางการแพทย์ทหาร เสริมโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ทางการแพทย์  เร่งขยายห้องผู้ป่วยไอซียูจำนวน 80 เตียงในโรงพยาบาลทหารในพื้นที่ กทม. โดยจะทยอยเปิดต่อเนื่องใน  30 วัน นอกจากนั้น มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11)  ได้จัดทำ รพ.สนามดูแลผู้ป่วยสีแดงและเหลืองเพิ่มเติม  โดยร่วมกับ รพ.ธนบุรีบำรุงเมืองจำนวน 178 เตียง และร่วมกับ รพ.พระมงกุฎเกล้าจัดตั้ง รพ.สนาม ดูแลผู้ป่วยสีเขียวเพิ่มเติม 176 เตียง โดยมีการส่งมอบไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ๐
ขณะที่โรงพยาบาลบุษราคัม ที่ต้องขยายจำนวนเตียงเพิ่มในพื้นที่อาคาร Challenger 2 เมืองทองธานี  พล.อ.นเรนทร์  สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) สั่งการ พล.ต.ธนินทร์ พู่ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุน นทพ.ประสานขอกำลังพลจากศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.), ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.), สำนักกองบัญชาการกองทัพไทย (สน.บก.ทท.), โรงเรียนช่างฝีมือทหาร (รร.ชท.สปท.), หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.), กรมป่าไม้ และจิตอาสา 904 รวม  600 คน เข้าประกอบเตียงกระดาษสำหรับใช้ในการขยายเตียงรองรับผู้ป่วยที่จะรับเข้ามาดูแลรักษา โดยเพิ่มเตียงในพื้นที่จำนวน 1,500 เตียง 
    ว่ากันด้วยเรื่องการฉีดวัคซีนให้กำลังพล ที่เริ่มมีเอกสารหลุดไปสู่ฝ่ายการเมืองให้พุ่งเป้าโจมตีว่าการขอวัคซีนจาก ศบค.เป็นการแย่งประชาชน แต่กลับกลายเป็นเรื่อง เตะหมูเข้าปากหมา ล่าสุด พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ร่อนเอกสารแจงการจัดลำดับความสำคัญให้กำลังพลด่านหน้า ขณะที่กำลังพลส่วนใหญ่และครอบครัวได้รับวัคซีนจากการลงทะเบียนผ่านระบบแอปของรัฐ ซึ่งในปัจจุบันได้รับวัคซีนเป็นบางส่วน และที่สำคัญแผนการขอวัคซีนยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ส่วนการฉีดวัคซีนให้ ทหารเกณฑ์ ก็เป็นการจัดสรรให้ในฐานะที่เป็นประชาชน ฟังแล้วกำลังพลในกองทัพซึ่ง ละล้าละลัง ไปลงชื่อกับหน่วยงานของตนเองและกำลังรอวัคซีน ต้องหันรีหันขวางหาทางลงทะเบียนเองเพราะตกขบวนมาแล้ว  กลายเป็นเสียงบ่นอื้ออึงเรื่อง ความเสียสละ ที่อยู่บนฐานของภาพลักษณ์ แต่กำลังพลในหน่วยพื้นที่ กทม.ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงต้องดิ้นรนกันเอง 
ขณะเดียวกัน มาตรการพิทักษ์กำลังพลอย่างเข้มข้นด้วยวัคซีน ซิโนแวค พอจะกล้อมแกล้มไปได้ในช่วงต้นๆ  แต่เมื่อเชื้อเดลตาเข้ามาระบาดหนัก กำลังพลด่านหน้าของกองทัพน่าจะต้องพิทักษ์ตัวเองอย่างแน่นหนาเช่นกัน  สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในหน่วยกองบัญชาการกองทัพบกที่มี คลัสเตอร์เล็กๆ เกิดขึ้น และได้รับการยืนยันว่าควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ล่าสุดต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว พ.อ.วสุริสศ์ สุคนธนเสนีย์ นายทหารสังกัดกรมกิจการพลเรือนทหารบก ที่เสียชีวิตจากการติดโควิด-19 โดยมีพิธีพระราชเพลิงศพในทันทีที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร วานนี้ โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธี 
    มาดูความเคลื่อนไหวในการเฟ้นหาตัวผู้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.คนใหม่ ในเดือนตุลาคมนี้แทน  พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่จะเกษียณอายุราชการ  หากดูตามสถิติหลังยุค คสช. ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้ามาจากกองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบก หลังจากถูกเบียดจากตำแหน่งสำคัญ และหากครั้งนี้ พล.อ.ณัฐพลเกษียณ ก็จะทำให้ตำแหน่ง เลขาธิการ สมช. ว่างลงไป พร้อมกับตำแหน่ง ผอ.ศปก.ศบค. ในสถานการณ์เช่นนี้จึงมีหลายสูตรที่พูดถึงทั้งการส่ง บิ๊กหน่อย-พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสนาธิการทหารบก ออกมาเป็นเลขาฯ สมช.แทน แต่คนที่มานั่งเป็น ผอ.ศปก.ศบค.อาจไม่ใช่ทหาร  หรืออีกสูตรหนึ่งคือการต่ออายุ พล.อ.ณัฐพลต่อไปอีกปี  เพราะเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไว้วางใจและเป็นมือประสานงานในเรื่องโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่ ผอ.ศปก.ศบค.ในช่วงศึกไวรัสต่อเนื่องไปถึงปีหน้า. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"