กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

         เคลียร์รันเวย์โล่งเรียบร้อย พร้อมรอรับการคลอดคำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" ตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร.-ผบก." วาระประจำปี 2564 หลังวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และวงประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ไฟเขียวเปิดตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร." (เฉพาะตัว) เพิ่มขึ้นมา 1 ตำแหน่ง ในการดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่มีคำสั่งให้ทุเลากรณีของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. โดยการเปิดตำแหน่งครั้งนี้เป็นการเปิดขึ้นมาชั่วคราว รวมทั้งเปิดตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ (สบ 8) เทียบเท่าผู้บัญชาการ 1 ตำแหน่ง และผู้เชี่ยวชาญ (สบ 7) เทียบเท่ารองผู้บัญชาการ 1 ตำแหน่ง ให้กับสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และกำหนดตำแหน่งนายแพทย์ (สบ 7) เทียบเท่ารองผู้บัญชาการ 5 ตำแหน่ง และทันตแพทย์ (สบ 6) เทียบเท่าผู้บังคับการ 3 ตำแหน่ง ให้กับหน่วยงานโรงพยาบาลตำรวจ

            อีกประเด็นที่สร้างความฮือฮาก่อนที่จะมีการประชุม ก.ตร. เรื่องที่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีหนังสือขอให้ ก.ตร.ยกเลิกเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 9) ตามมติ ก.ตร.ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 12 มี.ค.64 ให้เป็นตำแหน่งเฉพาะตัว ได้บทสรุปเรียบร้อย "บิ๊กแรก" พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงแจงมติ ก.ตร.พิจารณาแล้วเห็นว่า "ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 9) เป็นตำแหน่งที่สามารถและมีโอกาสก้าวหน้าในตำแหน่งใดๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ไม่ได้เป็นการปิดกั้นหรือเสียสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น"...นั่นแสดงว่าถึงจะอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 9) หากถึงเวลาเหมาะสม "บิ๊กโจ๊ก" สามารถขยับขึ้นรอง ผบ.ตร. หรือที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร.ได้โดยไม่ติดขัดอะไร เพราะมติ ก.ตร.การันตีไว้ให้เรียบร้อย เมื่อทุกอย่างลงล็อกแบบนี้ โผแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2564 ที่เดิมคาดกันว่า "บิ๊กโจ๊ก" จะโยกมาเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ในตำแหน่งหลัก ก็ดูท่าจะไม่จำเป็นที่จะต้องออกแรงโยกให้เสียเวลา เก็บเนื้อเก็บตัว เก็บพลังไว้รอจังหวะขยับขึ้นรอง ผบ.ตร. ติดยศ "พล.ต.อ." เลยทีเดียว น่าจะดีกว่าจริงปะ

            การแต่งตั้ง "สีกากี" รอบนี้ แม้เก้าอี้ "ผู้นำกรมปทุมวัน" ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะ "บิ๊กปั๊ด" พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ยังไม่เกษียณอายุราชการ โดยจะไปเกษียณอายุราชการปี 2565 แต่ที่น่าสนใจ น่าจับตา คือรายชื่อ "ผบช." ที่พาเลทกันขึ้น "ผู้ช่วย ผบ.ตร." ทั้ง 9 ตำแหน่งว่าง หากเป็นไปตามรายชื่อที่แพลมๆ ออกมา ต้องสะกิด "คอสีกากี" ขีดเส้นใต้รายชื่อทั้ง 9 เอาไว้ เพราะหลายรายถือเป็น "ดาวรุ่ง" กรมปทุมวัน มีโอกาสขยับขึ้นสู่เบอร์ 1 สีกากีทั้งสิ้น เพราะหลายคนอายุราชการอีกหลายปี ผนวกกับเส้นสายถือว่าไม่ธรรมดา ยกเว้นพวกเกษียณปี 2565 ที่ไปชนพอดีกับ "ผบ.ปั๊ด" โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เกษียณปี 2566, พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 เกษียณปี 2569, พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. เกษียณปี 2565, พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบช.สงป.เกษียณปี 2565, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เกษียณปี 2568, พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จตร. เกษียณปี 2565, พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภ.8 เกษียณปี 2569, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 เกษียณปี 2568 และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. เกษียณปี 2567

            งามหน้าอีกแล้ว "สีกากี" แตกแถว ด.ต.อดิศร ทุมมาโต ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ โดนผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหารีดเอาทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ลักทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย จน พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ ต้องสั่งเชือด เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เช่นเดียวกับตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี จับกุมตัว ร.ต.อ.กฤษฎา อินทร อายุ 60 ปี ตำรวจ สภ.บ้านหนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 35 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 28 นัด แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

มาดูความภูมิใจเล็กๆ ในเหล่าทัพหลัง “น้องเทนนิส” กำลังพลของกองทัพอากาศได้รับเหรียญทองโอลิมปิกจาก “เทควันโด” กลับมาฝากพี่น้องชาวไทยแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพเรือก็ได้ยิ้มเหมือนกัน จากผลสรุปแข่งขันกีฬามวยสากลหญิง ที่กำลังพลของ ทร.ได้รับเหรียญทองแดงกลับบ้าน โดยระหว่างการแข่ง “บิ๊กอุ้ย” พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ รับชมและเชียร์ “แต้ว” อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.หญิง) สุดาพร สีสอนดี ที่สู้กับ “เคลลี แอนน์ แฮริงตัน” นักชกจากจากไอร์แลนด์อย่างสมศักดิ์ศรี แม้จะพ่ายไปแค่ 1 คะแนน แต่ ผบ.ทร.เห็นว่า "แต้ว" ทำดีที่สุดแล้ว และขอแสดงความยินดีกับการต่อสู้อย่างเต็มที่ ขณะที่หน่วยงานต้นสังกัดต่างเร่งหาภาพแต้วใส่เครื่องแบบตามคำขอของสื่อมวลชนกันให้ควัก แต่ก็ไม่พบรูปอื่น นอกจากรูปติดยศเท่านั้น จึงคาดว่าหลังจากกลับถึงประเทศไทยคงต้องให้ “น้องแต้ว” แชะภาพเท่ๆ ในชุดทหารพรานนาวิกโยธินหญิงเก็บไว้เยอะๆ เพื่อส่งให้แฟนคลับได้ดู แต่ครั้งต่อไปคงเป็นภาพในเครื่องแบบที่ติดยศใหม่ ไม่ใช่อาสาสมัครทหารพรานเช่นเดิม

เนื่องจาก พล.ร.อ.วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ ได้ขออนุมัติรางวัลพิเศษและการบรรจุเข้ารับราชการ สำหรับแต้ว ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากคณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย และกำลังรออนุมัติการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ ซึ่งตามหลักเกณฑ์การขอเลื่อนยศและเลื่อนฐานะตามลำดับชั้นนั้น ในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป ให้เสนอขอปรับวุฒิและแต่งตั้งยศตามคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งตามหลักเกณฑ์ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจะเข้ารับการบรรจุในระดับสัญญาบัตร ได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรือตรี “กากีกะสีเขียว” ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วย

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว อส.ทพ.เกียรติขจร นาคดี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เสียชีวิตจากกรณีผู้ก่อความไม่สงบยิงเอ็ม 79 ใส่ฐานปฏิบัติการ ชป.จรยุทธ์ บริเวณ บ.แฆแบะ (สามแยก) ม.1 ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อกลางดึกเข้าวันที่ 3 ส.ค.64 และขอให้กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บหายโดยเร็ว ทั้ง จ.ส.อ.กฤษฎา แซ่บุ๋น, อส.ทพ.มานะ เร็วสูงเนิน, อส.ทพ.วุฒินันนท์ ภารกิจ และ อส.ทพ.วิทวัฒน์ อินทะระนก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กำชับ ทบ.และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้การช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นายอย่างดีที่สุด รวมทั้งขอให้ช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มกำลัง และสนับสนุนการจัดพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ ก่อนส่งร่างกลับไป จ.ขอนแก่น บ้านเกิดต่อไป อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้กำลังใจ อส.ทพ.และกำลังพลชั้นประทวนที่อยู่แถวหน้าเสี่ยงภัยสูงสุด เพื่อปกป้องดูแลความปลอดภัยให้กับคนไทยในทุกสมรภูมิ

นอกจากปรากฏการณ์จับยาเสพติดที่มาจากสินค้าที่ส่งจากไทยหลายกรณีนี้ ตามมาด้วยข่าวเรื่อง “พ่อค้าอาวุธไทย” ถูกอ้างจากชาวเมียนมาที่พาดพิงว่าอยู่เบื้องหลังการจ้างวานสังหารทูตเมียนมาประจำยูเอ็น ยิ่ง “แปลกแปร่ง” เข้าไปใหญ่ ส่าสุด “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมหน่วยงานผ่านระบบ VTC เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงชายแดนในห้วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศเมียนมาที่มีปัญหาการเมืองและสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ รวมทั้งการแพร่ระบาดของโควิดที่อยู่ในสภาวะวิกฤติและข้อจำกัดของระบบสาธารณสุข ที่อาจส่งผลให้มีการลักลอบเข้าเมือง “จึงสั่งการทุกจังหวัดชายแดนด้านเมียนมาเตรียมพร้อมและพัฒนาแผนรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมา โดยให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน จัดให้มีพื้นที่รองรับและสถานกักกันโรคอย่างเพียงพอ รวมทั้งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ให้ติดตามเฝ้าระวังและทำลายโครงสร้างขบวนการค้าอาวุธสงคราม เพื่อมิให้เป็นเงื่อนไขขยายความรุนแรงในเมียนมาอย่างเด็ดขาด”....

………

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"