ศาลฎีกาอินเดียยกเลิกกฎหมายคบชู้เป็นความผิดอาญา


เพิ่มเพื่อน    

ศาลฎีกาอินเดียพิพากษายกเลิกกฎหมายที่กำหนดให้คบชู้เป็นความผิดอาญา ระบุว่าเป็นกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญและเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง

อาคารศาลฎีกาของอินเดีย ที่กรุงนิวเดลี / AFP

    ตามกฎหมายอายุกว่า 100 ปี สมัยอินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ บัญญัติไว้ว่า ชายใดก็ตามที่ไปนอนกับหญิงที่แต่งงานแล้วโดยไม่ได้รับการยินยอมจากสามีของหญิงผู้นั้น เป็นผู้กระทำความผิดคบชู้ โดยมีโทษจำคุก 5 ปี แต่มีการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาอินเดียให้ยกเลิกกฎหมายนี้ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจและเป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง

    คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาอินเดียในกรุงนิวเดลีมีคำชี้ขาดอย่างเป็นเอกฉันท์ 5 เสียง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน ยกเลิกกฎหมายการคบชู้ โดยระบุในคำตัดสินว่า การมองการคบชู้ว่าเป็นความผิดอาญาเป็นความคิดล้าหลัง

    ภายใต้กฎหมายที่ล้าสมัยนี้ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงฟ้องชายในข้อหาคบชู้ แต่ผู้ชายฟ้องผู้หญิงในเรื่องนี้ได้ ซึ่งศาลฎีการะบุเป็นกฎหมายที่ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง และสิทธิ์ในการเลือกของปัจเจกบุคคล และเป็นกฎหมายที่อนุญาตให้สามีปฏิบัติต่อภรรยาไม่ต่างจากทรัพย์สมบัติที่เคลื่อนที่ได้

    ดี.วาย.จันทราจัต ผู้พิพากษาศาลฎีกา กล่าวถึงกฎหมายที่ศาลสั่งยกเลิกว่า เป็นกฎหมายที่เพิกเฉยต่อความเป็นอิสระทางเพศของผู้หญิงทุกคน และปฏิเสธหน้าที่ของผู้หญิงที่ได้รับมาจากการสมรส เป็นกฎหมายที่ทำให้ผู้หญิงเป็นทาสของผู้ชาย

    ทนายความของรัฐบาลอินเดียโต้แย้งว่า ควรมีกฎหมายนี้ไว้เพื่อป้องกันการคุกคามต่อสถาบันการแต่งงานและป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและครอบครัว แต่ศาลฎีกาชี้การมีสัมพันธ์นอกสมรส ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ชอบด้วยกฎหมายที่ชายหรือหญิงจะใช้ในการหย่า ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้ใหญ่

    เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ศาลฎีกาอินเดียตัดสินยกเลิกกฎหมายห้ามมีเซ็กซ์ของคนเพศเดียวกัน ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2404 ตั้งแต่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"