แฉ 'อีวานกา ทรัมป์' ใช้อีเมลส่วนตัวติดต่องานราชการ


เพิ่มเพื่อน    

แล้วกัน วอชิงตันโพสต์แฉ "อีวานกา ทรัมป์" บุตรีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งรับตำแหน่งที่ปรึกษาให้พ่อ ใช้อีเมลส่วนตัวในการติดต่องานของรัฐบาล ถือเป็นการละเมิดกฎหมายการบันทึกข้อมูลของรัฐบาลกลางสหรัฐ ทั้งที่ทรัมป์เคยถล่มนางฮิลลารี คลินตัน เรื่องนี้อย่างรุนแรงสมัยหาเสียงเลือกตั้งว่าทำผิดกฎหมายและเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ

แฟ้มภาพ อีวานกา ทรัมป์ / AFP

    รายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2561 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลตรวจพบว่า อีวานกา ทรัมป์ ใช้อีเมลส่วนตัวของเธอในการส่งจดหมายนับพันฉบับติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกี่ยวกับกิจธุระของทำเนียบขาวเมื่อปีที่แล้ว และถึงแม้ว่าอีเมลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะเป็นข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลด้านลอจิสติกเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางฉบับที่อาจละเมิดกฎหมายการบันทึกข้อมูลของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งระบุให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลส่งข้อมูลการติดต่อของราชการเข้าเก็บรักษาระเบียนของรัฐบาลกลางภายใน 20 วัน

    เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งในรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ชี้แจงกับซีบีเอสนิวส์ว่า อีเมลของอีวานกานั้นไม่ได้มีข้อมูลที่เป็นชั้นความลับ และเธอทำไปเพราะไม่เข้าใจกฎดังกล่าว อีวานกาเลิกใช้อีเมลส่วนตัวของเธอในการตอบโต้งานของรัฐบาลทันทีหลังจากเธอได้รับแจ้งว่าไม่สมควรปฏิบัติแบบนั้น ขณะที่ทนายความของอีวานกาอ้างว่า เธอได้ส่งมอบอีเมลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิจการของรัฐบาลเข้าสู่ระเบียนของรัฐบาลกลางแล้วตั้งแต่หลายเดือนก่อน

    วอชิงตันโพสต์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวนิรนามหลายราย กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวตรวจพบเรื่องนี้ระหว่างการทบทวนตรวจสอบอีเมล ภายหลังมีผู้ยื่นคำร้องขอให้เปิดเผยต่อสาธารณะ

    รายงานของบีบีซีอ้างคำกล่าวของออสติน เอฟเวอร์ส ตัวแทนจากกลุ่มอเมริกันโอเวอร์ไซต์ ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องนี้โดยอ้างมกฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสารจนนำไปสู่การค้นพบเรื่องนี้ ว่า "ครอบครัวของประธานาธิบดีไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย" เขากล่าวไว้ในแถลงการณ์ด้วยว่า มีคำถามจริงจังที่สภาคองเกรสควรสอบสวนทันทีทันใด ว่าอีวานกาได้ส่งมอบอีเมลทั้งหมดของเธอเพื่อเก็บรักษาตามที่กฎหมายกำหนดไว้แล้วหรือไม่ และเธอได้ส่งข้อมูลที่เป็นความลับผ่านระบบส่วนตัวด้วยหรือไม่

    การใช้อีเมลส่วนตัวติดต่องานราชการเคยเป็นประเด็นที่โดนัลด์ ทรัมป์ พ่อของเธอ โจมตีนางฮิลลารี คลินตัน อย่างรุนแรง เมื่อครั้งที่ทั้งสองเป็นคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 คราวนั้นทรัมป์ระบุว่า การที่นางฮิลลารีใช้อีเมลที่เก็บบันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในการติดต่องานราชการระหว่างที่นางดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อปี 2552 เป็นเรื่องอื้อฉาวที่ "ใหญ่โตกว่าคดีวอเตอร์เกต"

    ทรัมป์กล่าวว่า นางคลินตันทำให้สหรัฐตกอยู่ในอันตราย และกล่าวโจมตีพฤติกรรมของนางหลายครั้งว่า "ผิดกฎหมาย" และเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ ระหว่างการปราศรัยหาเสียงมีหลายครั้งที่ทรัมป์และผู้สนับสนุนเขาพากันร้องตะโกนให้จับนางขังคุก เขายังเคยเรียกร้องให้รัสเซียช่วยขุดคุ้ยอีเมลราว 30,000 ฉบับ ที่นางคลินตันไม่ได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สอบสวน หลังจากที่นางคลินตัน หรือทนายความของนาง ลงความเห็นว่าไม่มีความจำเป็นเนื่องจากเป็นข้อความส่วนตัว

    สำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เคยทำการสอบสวน 2 ครั้ง แต่ตัดสินใจไม่ตั้งข้อหานางคลินตัน เพียงแต่ตำหนิการกระทำนี้ว่าเป็นความสะเพร่าอย่างที่สุดในการจัดการข้อมูลที่เป็นความลับ ว่ากันว่า คำประกาศเปิดการสอบสวนครั้งใหม่ของเจมส์ คอมีย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอในตอนนั้นซึ่งโดนประธานาธิบดีทรัมป์สั่งปลดเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้าวันเลือกตั้งเพียง 11 วัน มีส่วนทำให้นางคลินตันพ่ายแพ้แก่ทรัมป์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"