รมว.กลาโหมสหรัฐลาออก ค้าน 'ทรัมป์' ถอนทหารพ้นซีเรีย


เพิ่มเพื่อน    

ไขก๊อกจนได้ พลเอกเจมส์ แมททิส ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี หนึ่งวันภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนทหารสหรัฐทั้งหมดออกจากซีเรีย และยังมีข่าวตามมาว่าจะถอนทหารจำนวนมากกลับจากอัฟกานิสถานด้วย

แฟ้มภาพ วันที่ 6 มกราคม 2561 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐมนตรีกลาโหม จิม แมททิส / AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561 กล่าวว่า แผนการถอนทหารอเมริกันทั้งหมดออกจากซีเรียที่ทรัมป์ประกาศอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาถูกวิจารณ์และคัดค้านทั้งภายในสหรัฐและจากชาติพันธมิตรที่ร่วมภารกิจปราบปรามนักรบญิฮาดกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย แต่ยังยกเว้นประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่ชมเชยการตัดสินใจของทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีว่าทำถูกต้องแล้ว

    ปูตินหนุนหลังรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด แห่งซีเรีย และสั่งการให้กองทัพรัสเซียเข้าแทรกแซงในซีเรียเพื่อค้ำจุนรัฐบาลอัสซาดมาตั้งแต่ปี 2558

    ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนกรานปกป้องการตัดสินใจถอนทหารว่า สหรัฐไม่ต้องการเป็น "ตำรวจของตะวันออกกลาง" อีกต่อไป และทหารอเมริกัน 2,000 นาย ซึ่งช่วยภารกิจฝึกฝนและแนะนำกองกำลังพันธมิตรอาหรับ-เคิร์ดเพื่อต่อสู้กับไอเอสในซีเรีย ก็ไม่มีความจำเป็นอีกเช่นกัน เพราะไอเอสพ่ายแพ้แล้ว

    พลเอกแมททิส อดีตนายพลกรำศึกวัย 68 ปี ผู้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของสายกลางในรัฐบาลของผู้นำที่หุนหันพลันแล่นอย่างทรัมป์ แสดงออกชัดเจนว่าเขาคัดค้านการตัดสินใจถอนทหาร จดหมายลาออกของเขากล่าวไว้ว่า "เนื่องจากท่านมีสิทธิที่จะตั้งรัฐมนตรีกลาโหมที่มีทัศนะในแนวทางเดียวกับท่าน ผมจึงเชื่อว่า เป็นเรื่องถูกต้องที่ผมควรลาออกจากตำแหน่ง"

    ทรัมป์และแมททิสมีความขัดแย้งกันอย่างเปิดเผยหลายเรื่อง ตั้งแต่กรณีรัสเซีย, อิหร่าน ไปจนถึงการยอมรับทหารข้ามเพศ ทรัมป์เคยเปรยเรื่องการแยกทางกับแมททิสเมื่อเดือนตุลาคมว่า แมททิสอาจจะพ้นจากตำแหน่งเพราะเขาดูจะเป็นเดโมแครตมากกว่า อย่างไรก็ดี หลังการยื่นใบลาออก ซึ่งจะมีผลสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ทรัมป์ได้ทวีตชมเชยแมททิสว่า สร้างความก้าวหน้าไว้มากมาย

    ในจดหมายลาออก แมททิสยังได้ยกย่องกองกำลังผสมที่ช่วยกันโค่นล้มไอเอส ซึ่งรวมถึงกองกำลังนาโต ที่เป็นองค์กรสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างยุโรปกับอเมริกาเหนือที่อายุเก่าแก่เกือบ 70 ปี แต่ประธานาธิบดีเศรษฐีนักลงทุนรายนี้มักตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการลงขันของสหรัฐ

    ทรัมป์ไม่เพียงสร้างความผิดหวังต่อพันธมิตรของสหรัฐในภารกิจต้านไอเอสที่ซีเรีย โดยเฉพาะนักรบชาวเคิร์ดในกองกำลังต่อต้านไอเอสในซีเรีย ที่รัฐบาลตุรกีมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายและจ้องเปิดปฏิบัติการโจมตีกวาดล้าง วันต่อมายังมีรายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐด้วยว่า ทรัมป์ตัดสินใจถอนทหารสหรัฐจำนวนมากพอสมควรออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นปฏิบัติการขนาดใหญ่กว่าที่ซีเรีย

แฟ้มภาพ วันที่ 12 สิงหาคม 2558 ทหารสหรัฐและเฮลิคอปเตอร์ของนาโตปฏิบัติการอยุ่ที่อำเภอค็อกยานี จังหวัดนันการ์ฮาร์ ภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน / AFP

    ปัจจุบัน สหรัฐมีทหารร่วมภารกิจสู้รบกับตอลิบันในอัฟกานิสถานอยู่ราว 14,000 นาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทำสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 17 ปีแล้ว เพื่อตอบโต้ที่เครือข่ายอัลกออิดะห์ของอุซามะห์ บินลาดิน ซึ่งกลุ่มตอลิบันให้ที่พักพิง ก่อวินาศกรรมในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่าสหรัฐอาจถอนทหารเกินครึ่งหนึ่งหรือมากกว่า 7,000 นาย

    เจ้าหน้าที่อาวุโสชาวต่างชาติในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีว่า สำหรับตอลิบันแล้ว คริสต์มาสมาถึงก่อนเวลา "คุณจะคิดเรื่องการหยุดยิงอีกทำไมในเมื่อศัตรูหลักของคุณเพิ่งถอนทหารกลับครึ่งหนึ่ง" เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว

    ยังไม่แจ้งชัดว่า ซัลมาย คาลิลซัด ผู้แทนสันติภาพของสหรัฐที่ร่วมในกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับตอลิบัน หรือรัฐบาลอัฟกานิสถาน ได้รับแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับแผนการถอนทหารของทรัมป์หรือไม่ แต่การตัดสินใจของทรัมป์เกิดขึ้นภายหลังคาลิลซัดพบผู้แทนตอลิบันที่กรุงอาบูดาบีสัปดาห์นี้ และเชื่อว่าข้อหารือหนึ่งของพวกเขาคือข้อเรียกร้องขอตอลิบันให้ถอนทหารต่างชาติออกจากอัฟกานิสถาน และการหยุดยิง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"