เพนตากอนยอมรับ อาวุธจีนล้ำหน้าคู่แข่ง


เพิ่มเพื่อน    

กระทรวงกลาโหมสหรัฐยอมรับผ่านรายงาน "แสนยานุภาพทางทหารของจีน" ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพจีนบางอย่างอยู่ในขอบข่ายที่มีความล้ำสมัยที่สุดในโลก และบางประเภทได้แซงหน้าคู่แข่งไปแล้ว

แฟ้มภาพ เมื่อเดือนเมษายน 2561 เครื่องบินขับไล่เจ 15 ของจีนจอดบนดาดฟ้าของเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง ระหว่างฝึกกลางทะเล / AFP

    รายงาน "แสนยานุภาพทางทหารของจีน" ของสำนักข่าวกรองกลาโหมในสังกัดเพนตากอนที่ไม่ได้ถูกปิดเป็นความลับ กล่าวว่า ช่วงหลายปีมานี้กองทัพของจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านอาวุธอย่างมโหฬาร โดยได้รับอานิสงส์อย่างมากจากกฎหมายของจีนที่บังคับให้หุ้นส่วนความร่วมมือจากต่างชาติต้องยอมเปิดเผยความลับทางเทคนิคเพื่อแลกกับการเข้าถึงตลาดอันใหญ่โตของจีน และผลจากการให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีโดยไม่คำนึงถึงวิธีการนี่เอง จึงทำให้ปัจจุบันจีนได้ยืนอยู่แถวหน้าด้านเทคโนโลยีทหารแล้ว

    เทคโนโลยีของจีนที่รายงานอ้างถึงนั้น มีอาทิ ด้านการออกแบบเรือ, มิสไซล์พิสัยกลางและพิสัยปานกลาง และอาวุธไฮเปอร์โซนิก ที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าความเร็วของเสียงหลายเท่าและสามารถหลบเลี่ยงระบบป้องกันมิสไซล์ได้

    "ผลลัพธ์ของการดำเนินการจากหลายแง่มุมเพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยี ทำให้พีแอลเอ (กองทัพปลดแอกประชาชนจีน) เริ่มจะมีระบบอาวุธสมัยใหม่ที่สุดในโลก" รายงานซึ่งข่าวเอเอฟพีเผยแพร่เมื่อวันที่ 16  มกราคม 2562 กล่าว "ในบางประเภทนั้น จีนได้เป็นผู้นำโลกแล้ว"

    การเพิ่มแสนยานุภาพทางทหารของจีนส่งผลให้จีนมีขีดความสามารถทางอากาศ, ทางทะเล,  อวกาศ และห้วงอากาศอวกาศเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้จีนสามารถแสดงเจตจำนงของตนในภูมิภาคนี้ได้ สิ่งที่จีนให้ความสำคัญมากที่สุดคือความเป็นไปได้ของการทำสงครามกับไต้หวัน ที่จีนถือว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีนและไม่ลังเลที่จะใช้กำลังทางทหารหากไต้หวันประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ หรือหากประเทศอื่นเข้าแทรกแซง

    เจ้าหน้าที่ข่าวกรองกลาโหมระดับอาวุโสรายหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวประจำเพนตากอนว่า เขากังวลว่าตอนนี้กองทัพจีนมีความก้าวหน้ามากเพียงพอที่พวกนายพลของพีแอลเออาจรู้สึกมั่นใจว่าพวกเขาสามารถรุกรานไต้หวันได้

    อย่างไรก็ดี รายงานนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่ากองทัพจีนไม่ได้ต่อสู้ในสงครามมานานถึง 40 ปีแล้ว และกองทัพอันใหญ่โตและโครงการของการบัญชาการร่วมก็ยังขาดประสบการณ์การรบในสงครามจริง ซึ่งพีแอลเอคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อให้แต่ละหน่วยของกองทัพสามารถทำงานสอดประสานกันได้ และสามารถรับมือกับปฏิบัติการที่ใหญ่และซับซ้อน

    รายงานข่าวกรองฉบับนี้กล่าวด้วยว่า จีนกำลังพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยกลางและพิสัยไกลที่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ทั่วภูมิภาคและทั่วโลก เครื่องบินเหล่านี้น่าจะพัฒนาถึงขั้นมีขีดความสามารถเชิงยุทธการเบื้องต้นได้ภายในปี 2568

    เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายเดิมเผยว่า จีนได้ปิดบังการพัฒนาทางทหารเป็นความลับโดยทำการค้นคว้าวิจัยในสถานที่ลับใต้ดินเพื่อหลบการตรวจจับของดาวเทียม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"