ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบโต้สื่ออเมริกันที่ลอบนำตารางงานของเขาออกมาเผยแพร่ ซึ่งเปิดโปงว่าเขากันเวลา 60% ของตารางงานไว้สำหรับทำกิจธุระส่วนตัว โดยเฉพาะการเล่นทวิตเตอร์ โดยผู้นำสหรัฐยืนกราน "เวลาผู้บริหาร" ที่ระบุไว้ในตารางนั้นเป็นการทำงาน ไม่ใช่เวลาผ่อนคลาย ทำเนียบขาวล่ามือปล่อยข่าว

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบโต้ข่าวนี้เป็นครั้งแรกผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากเขาตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องจริยธรรมในการทำงาน สืบเนื่องจากการถูกเปิดโปงตารางกำหนดการทำงานในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งพบว่า 60% ของกำหนดการนั้นถูกระบุไว้ว่าเป็น "เวลาผู้บริหาร" ซึ่งเป็นคำที่จอห์น เคลลี อดีตหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ประดิษฐ์ขึ้นสำหรับการหมายถึงเวลาที่ไม่มีกำหนดตายตัว แต่ปรากฏว่าช่วงเวลานั้นมักตรงกับช่วงที่ทรัมป์ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์

    ตามคู่มือกำหนดการประจำวันที่เผยแพร่ต่อสื่อเผยว่า ส่วนใหญ่แล้วทรัมป์จะเริ่มงานสาย และมักไม่มีกำหนดการอย่างเป็นทางการก่อนเวลา 11.00 น. และโดยปรกติการทำงานของเขาจะเริ่มต้นด้วยการฟังรายงานสรุปด้านการข่าว แต่จากตารางงานโดยละเอียดที่เผยแพร่โดยเว็บไซต์แอกซิออส ซึ่งอ้างว่าได้รับตารางส่วนตัวของทรัมป์ที่ครอบคลุมเวลา 3 เดือน ทำให้รู้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐผู้นี้ไม่ได้มีช่วงเวลางานวุ่นวายสักเท่าใด

    แอกซิออสกล่าวว่า 60% ในตารางงานระบุไว้เป็น "เวลาผู้บริหาร" ซึ่งหมายถึงงานที่ไม่กำหนดตายตัว เช่น เวลาในการโทรศัพท์, อ่านหนังสือพิมพ์, ทวีต และดูโทรทัศน์

    ในข้อความทวิตเตอร์ ทรัมป์กล่าวว่า เวลาอิสระเหล่านี้ควรถูกมองในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ เวลาผู้บริหารที่กล่าวถึงนี้เป็นเวลาที่โดยส่วนใหญ่เขาใช้ไปกับการทำงาน ไม่ใช่การผ่อนคลาย "อันที่จริงแล้ว ผมอาจจะมีชั่วโมงทำงานมากกว่าประธานาธิบดีส่วนใหญ่ในอดีต" ทรัมป์ทวีตเมื่อวันอาทิตย์

    เขายังร่ายรายการปัญหามากมายที่เป็นงานของเขา ไม่ว่าเรื่องกองทัพที่ขาดตกบกพร่องไป, สงครามที่ไม่รู้จบ,  โอกาสที่อาจเกิดสงครามกับเกาหลีเหนือ, กิจการทหารผ่านศึก, การเก็บภาษีอัตราสูงและกฎระเบียบหยุมหยิม, ปัญหาชายแดน, คนเข้าเมืองและประกันสุขภาพ และอื่นๆ

    ด้านมิค มัลวานีย์ รักษาการหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เวลาผู้บริหารนี้กันไว้เพื่อเป็นเวลาให้ประธานาธิบดีเตรียมการสำหรับการประชุมถัดไป หรือเพื่อสรุปผลการประชุมที่ผ่านมา

    มีรายงานด้วยว่า ทรัมป์สั่งการให้ตามล่าหาตัวแหล่งข่าวที่เผยแพร่ตารางงานของเขาแล้ว มัลวานีย์บอกกับฟอกซ์นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า น่าจะระบุตัวมือดีได้ในสัปดาห์นี้.