ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งถึงรัฐมนตรีต่างประเทศห้ามอดีตนักโฆษณาชวนเชื่อของไอเอสที่เกิดในสหรัฐ เดินทางกลับเข้าประเทศ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์เรียกร้องชาติยุโรปรับอดีตนักรบไอเอสที่เป็นพลเมืองของตนที่โดนคุมขังในซีเรียกลับคืน

โฮดา มูธานา ในภาพถ่ายที่ฮัสซัน ชิบลี ทนายความของเธอ เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 / AFP

    ทรัมป์ให้เหตุผลผ่านการประกาศผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ว่า โฮดา มูธานา หญิงวัย 24 ปีรายนี้ ไม่ได้เป็นพลเมืองอเมริกัน เขาจึงมี "คำสั่ง" ให้ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ "อย่าได้อนุญาตให้โฮดา มูธาดา กลับเข้าประเทศ"

    การลงมาล้วงลูกเองของทรัมป์ในกรณีของหญิงสาวรายนี้ถือเป็นการแหกกฎระเบียบขั้นตอนปกติของผู้นำสหรัฐที่จะไม่ให้ทัศนะเกี่ยวกับประเด็นปัญหาคนเข้าเมืองของปัจเจกบุคคล และการไม่ยอมรับสิทธิพลเมืองของหญิงรายนี้น่าจะนำไปสู่การต่อสู้ฟ้องร้องตามมา  รัฐธรรมนูญสหรัฐนั้นให้การคุ้มครองสิทธิความเป็นพลเมืองอย่างยิ่งยวด

    การปฏิเสธของทรัมป์ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขากำลังพยายามกดดันชาติพันธมิตรในยุโรป ให้ยอมรับนักโทษที่เป็นนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังผสมภายใต้การนำของชาวเคิร์ดในซีเรีย กลับคืนประเทศ หลังจากสหรัฐถอนทหารออกจากซีเรียแล้ว

    "โฮดา มูธานา ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐ และจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐ" ปอมเปโอกล่าวในแถลงการณ์สั้นๆ "เธอไม่มีกฎหมายใดรองรับ, ไม่มีหนังสือเดินทางสหรัฐที่ถูกต้อง, ไม่มีสิทธิที่จะขอหนังสือเดินทาง หรือขอวีซ่าเพื่อเดินทางมายังสหรัฐ"

    โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เกิดบนดินแดนของสหรัฐทุกคนจะได้สัญชาติอเมริกัน เชื่อว่ามูธานาเกิดที่สหรัฐและโตที่รัฐแอละแบมา โดยเธอใช้พาสปอร์ตสหรัฐเดินทางไปซีเรีย แต่เอเอฟพีรายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งว่า การสอบสวนในเวลาต่อมาพบว่า มูธานาไม่สามารถขอพาสปอร์ตได้ ฉะนั้น เธอจึงไม่ได้ถูกเพิกถอนสัญชาติ เพราะเธอไม่เคยเป็นพลเมืองอเมริกัน

    พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ได้ให้ทัศนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีของเธอ แต่กฎหมายสหรัฐมีช่องที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการต่อสู้ของรัฐบาล สืบเนื่องจากพ่อของมูธานาเคยเป็นนักการทูตจากเยเมน ซึ่งตามหลักแล้วลูกของนักการทูตจะไม่ได้รับสัญชาติในประเทศที่ถือกำเนิดโดยอัตโนมัติ

    ด้านฮัสซัน ชิบลี ทนายความของเธอ นำสูติบัตรของเธอมาแสดง เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเกิดที่นิวเจอร์ซีย์เมื่อปี 2537 และพ่อของเธอยกเลิกสถานะนักการทูตหลายเดือนก่อน เธอเกิด สหรัฐไม่อาจถอนสัญชาติของบุคคลใดเพียงเพราะว่าคนผู้นั้นทำผิดกฎหมาย

    กรณีของมูธานาเกิดไล่หลังกรณีของชามินา เบกัม พลเมืองชาวอังกฤษเชื้อสายบังกลาเทศ ที่หนีออกจากบ้านไปเข้าร่วมกับไอเอสที่ซีเรีย และต้องการกลับบ้านเกิด แต่รัฐบาลอังกฤษถอนสัญชาติเธอแล้ว และเมื่อวันพุธ รัฐบาลบังกลาเทศก็ปฏิเสธจะให้สัญชาติเธอ ทำให้เบกัมกลายเป็นบุคคลไร้รัฐโดยปริยาย.