กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

               ปรบมือดังๆ ชื่นชมความกตัญญูต่อบุพการีของ พ.ต.อ.จเร สุปิรยะ ผกก.สส.ภ.จว.สุรินทร์ ไม่ห่วงยศ ไม่เสียดายตำแหน่ง โพสต์ลาออกก่อนเกษียณเพราะมีภารกิจที่ให้ใครทำแทนไม่ได้ พร้อม #ขอเลือกดาวที่อยู่ใกล้ โดยระบุเรียน หน.สภ.ทุกท่าน "ผมต้องลาออก เพราะมีภารกิจที่ให้ใครทำแทนไม่ได้ จะรอเกษียณแล้วค่อยไปดูแล ก็กลัวจะเสียใจภายหลัง ผมถึงดวงดาวแล้ว เพราะเลือกดาวที่อยู่ใกล้ ขอให้ทุกท่านโชคดี มีความสุขครับ"...พอข้อความและภาพที่ ผู้กำกับการจเร ป้อนข้าวคุณแม่ในวัยชรา เผยแพร่ออกไป โลกโซเชียลต่างชื่นชมถึงความกตัญญู ไม่เว้น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดร.วิระชัย ทรงเมตตา ระบุตอนหนึ่งว่า "วันนี้ผมได้ยินข่าวคราวของเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง (นรต.รุ่น37) ชื่อ พ.ต.อ.จเร สุปิรยะ ผกก.ส.ภ.จว.สุรินทร์ ตัดสินใจลาออกจากราชการ เพื่อคอยดูแลคุณแม่ที่อยู่ในวัยชรา ถือว่าเป็นพระอรหันต์ในบ้าน... ภาพของเพื่อนจเรนั้น ผมจำได้ดี ตั้งแต่สมัยที่เราเรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วยกัน เขาเป็นคนที่รักครอบครัว รักเพื่อน และมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจมาโดยตลอด สิ่งที่ตัดสินใจทำ คือสิ่งที่คิดทบทวนอย่างรอบด้านที่สุด ผมยินดีกับสิ่งที่เพื่อนผมเลือก และเชื่อมั่นว่าเขาจะมีความสุขและมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างแน่นอนครับ"

                บ่นกันอุบกับคำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ สารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี  2561 ที่บอร์ดกลั่นกรองพิจารณารายชื่อตีตราประทับผ่านฉลุย รวมทั้งวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก็ไฟเขียวบัญชียกเว้นหลักเกณฑ์แล้วตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. คำสั่งแต่งตั้งก็ยังไม่มีการแจกจ่ายให้เห็นกันเสียที ไม่รู้ทำไมออกยากออกเย็นเช่นนี้ จนมาฟัง บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.บอกเหตุผลที่คำสั่งต้องแจกจ่ายในสัปดาห์หน้า ทำเอาหลายคนถึงบางอ้อ "คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายรองผู้บังคับการถึงสารวัตรวาระประจำปี 2561 นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางธุรการ เร่งอยู่ ภายในสัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จ แจกจ่ายและมีคำสั่งให้เดินทางไปปฏิบัติราชการได้เลย ส่วนที่ออกคำสั่งไปแล้วนั้นก็ให้มีผลในวันที่ 1 มี.ค.ก็คนละส่วนกัน แต่ในภาพรวมสัปดาห์หน้าจบได้เดินทางไปทำงาน ทั้งหมดออกคำสั่งสัปดาห์หน้าจบเลย ตอนนี้คืบหน้า 95 เปอร์เซ็นต์แล้ว ต้องดูให้เรียบร้อยเพราะจำนวนเป็นพัน เดี๋ยวแต่งตั้งคนตายก็เอาอีกแล้ว ก็ต้องดูให้รอบคอบ การทำการแต่งตั้งก็ไม่ได้หนักใจอะไรเหมือนทุกๆ ปี" แหม...ผบ.กลัวผีตามหลอนก็ไม่บอก ปล่อยลูกน้องเดากันไปเรื่อย (ฮาฮา) ๐

                อพิโธ่พิถัง กะละมังตั้งเด่ ตำรวจกว่า 10 นายตกเป็นเหยื่อ 2 ผัวเมียขายอะลูมิเนียม ใช้แอปพลิเคชันไลน์ ภาพหน้าปกเป็นภาพ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล  ผบช.สตม. จากนั้นติดต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายอ้างสามารถช่วยวิ่งเต้นตำแหน่งให้สูงขึ้น หรือโยกย้ายอยู่ในพื้นที่ที่ดีได้ จนมีตำรวจกว่า 10 นายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเสียเงินกว่า 1.5 ล้านบาท กระทั่งพอใกล้ๆ คำสั่งจะออกเกิดความสงสัยน่าจะโดนหลอกแน่ เลยมาแจ้งต่อ ปอท. กระทั่ง พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น  ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ร่วมกับตำรวจ บก.สส.บก.น.7 ตามจับตัว 2 ผัวเมียที่ต้มตุ๋นตำรวจมาได้...แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาดูจะตอก  บิ๊กแป๊ะ และ บิ๊กโจ๊ก ที่ประกาศไว้อย่างชัดเจนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจพิจารณาจากผลงาน ความรู้ ความสามารถนั้น ลูกน้อง ไม่เชื่อน้ำคำ ต้องเลือกวิธีวิ่งเต้นเสียเงินเสียทองหวังจะได้ตำแหน่งดีๆ จนมาโดนหลอก เสียทั้งเงิน เสียทั้งหน้า..วังเวง ๐

                งามหน้าจริงๆ ตำรวจสุราษฎร์ธานี ที่มีคลิปเผยแพร่ภาพและเสียง ตั้งด่านตรวจใบขับขี่น้องนักเรียนหญิงซึ่งกำลังจะไปสอบ พอตรวจเสร็จปรากฏว่ารถน้องสตาร์ตไม่ติด ขอให้ตำรวจช่วยสตาร์ตให้ เพราะต้องใช้แรงถีบสตาร์ตเครื่อง แต่ตำรวจกลับไม่ช่วย จนมีบทเจรจราปรากฏในคลิปดังกล่าว “ตำรวจ เป็นอะไรให้น้องจอดรถตรวจใบขับขี่แล้วรถนางดับ ให้ช่วยสตาร์ตก็ไม่ช่วย คือมันต้องสตาร์ตตีน ช่วยแค่นี้ยากตรงไหน ยังมีหน้ามาบอกว่าถ้าสตาร์ตไม่ติดก็เดินไป" จน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้การสุราษฎร์ธานีได้เห็นคลิปและรับทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ก่อนสั่งลงโทษลงทัณฑ์ตำรวจจราจรที่ใช้กิริยาวาจาไม่ดีต่อประชาชน พร้อมให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้านจราจร 30 วัน และเข้าอบรมระเบียบวินัยในการพูดการจากับประชาชน เฮ้อ..เห็นแล้วอยากกระซิบ ผบ.แป๊ะ น่าจะส่งตำรวจจราจรสุราษฎร์ฯ กลุ่มนี้ไปฝึกธำรงวินัยที่หนองสาหร่ายเหมือนตำรวจที่กระทำผิดรายอื่นๆ เพราะการรับใช้ประชาชนคือพื้นฐานเบื้องต้นของตำรวจยังไม่มี หน้าที่อื่นๆ ก็ไม่ต้องไปทำแล้ว ขายขี้หน้าจริงๆ ๐

                เรียกว่าเป็นช่วงเดือนที่ ผู้นำทางทหาร ต้องเก็บตัวเป็นพิเศษ กำหนดการในกองทัพเน้นหนักเฉพาะแต่ภารกิจในหน้าที่ทหาร หลีกเลี่ยงเข้าสู่วงผู้สื่อข่าวที่จะสัมภาษณ์ความคิดเห็นทางการเมือง โดยช่วงสัปดาห์ก่อน บิ๊กแดง-พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปเปิดร้านค้าสะดวกซื้อภายในกองบัญชาการกองทัพบก ก็ของดเว้นสื่อเช่นเดียวกัน ขณะที่การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (วังเดิม) ซึ่งตามปกติผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะนำ ผบ.เหล่าทัพแถลงข่าว แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาแจ้งยกเลิก ปล่อยให้รองโฆษก บก.ทท.แถลงแทน ตอกย้ำคำสัมภาษณ์ของทั้ง บิ๊กกบ-พล.อ.พรพิพัฒน์  เบญญศรี ผบ.ทสส. และ บิ๊กแดง เรื่อง "ทหารต้องเป็นกลางทางการเมือง"

                ทว่า "ประชาธิปไตยในหน่วยทหาร" คงไม่ได้เหมือนสังคมภายนอก เพราะการปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเป็นเรื่องของวินัยที่ทหารตระหนักกันดี เมื่อการประกาศตัวต่อสังคมเรื่อง "ทหารต้องเป็นกลางทางการเมือง" แต่การลงคะแนนนั้น ฟรีโหวต ไม่บังคับให้เลือกพรรคการเมืองไหน แต่บรรยากาศในแต่ละหน่วยดูเหมือนว่าจะมี ไกด์ไลน์ ต่อกำลังพล ที่แม้จะไม่ใช่การบังคับกลายๆ แต่ปรากฏการณ์หลายอย่างก็ตีวงให้กำลังพลเลือกพรรคการเมืองหนึ่งไปโดยปริยาย โดยเฉพาะการ เช็กคะแนน ของหน่วยทหารที่แม้จะทำได้ยาก แต่ก็สามารถจะกำหนดทิศทางได้ นั่นก็คือการให้กำลังพลทั้งหมด ทหารกองประจำการ หรือพลทหาร ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าให้ได้ทั้ง 100% ดังนั้นวันที่ 17 มี.ค.ที่มีข่าวว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีจะเดินทางมาเลือกตั้งล่วงหน้าที่ รร.สุโขทัยแล้ว  ในหน่วยเลือกตั้งใกล้หน่วยทหารคงเห็นเหล่ากำลังพลออกไปใช้สิทธิ์กันให้พรึ่ดไปหมด

                ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมตรี การทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายบริหารก็ยังดำเนินต่อไป ในการประชุมผู้บัญชาการทางทหารที่มีขึ้นก่อนการประชุม ผบ.เหล่าทัพ พล.อ.พรพิพัฒน์ รวมถึง ผบ.เหล่าทัพ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เห็นชอบให้เรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นประธาน การฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ (C-mex19) ในวันที่ 15 มี.ค.นี้ที่โรงเรียนเตรียมทหาร โดยการฝึกดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15  มี.ค.62 เพื่อเตรียมพร้อมในการเป็นประธานอาเซียนและเตรียมพร้อมสำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้งนี้เป็นการฝึกขนาดใหญ่ที่มีกำลังพลเข้าร่วมถึงจำนวน 1,670 คน จาก 52 หน่วยงาน ๐

                เมื่อวานนี้เป็นสนามที่ 2 ของ บิ๊กลือ-พล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ จากผืนทะเลสู่ภูผา จากฟากฟ้าสู่มหานที เดอะซีรีส์ ซึ่งหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เป็นเจ้าภาพ เส้นทางการแข่งขันครอบคลุมพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดย บิ๊กลือ ลงแข่งในประเภทระยะสั้น ว่ายน้ำ 0.75 กิโลเมตร  ปั่นจักรยาน 20 กิโลเมตร วิ่ง 5 กิโลเมตร สามารถเข้าเส้นชัยได้ โดยทำเวลา 3 ชั่วโมง 26 นาที ส่วน  บิ๊กกบ-พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทสส.ก็นำทีมกำลังพลเปิดชมรมปั่นจักรยาน บก.ทท "Green  bike White Society" ปั่นไป 24 กม.จากกองทัพไทยไปทางศูนย์ราชการ ถึงสนามกอล์ฟราชพฤกษ์  ขณะที่ก่อนหน้า บิ๊กแดง-พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ก็ทดสอบร่างกาย ยึดพื้น-ลุกนั่ง เป๊ะตามแบบฉบับทหาร ฉก.ทม.รอ.904...เห็น ผบ.เหล่าทัพแต่ละคนแล้ว ล้วนแต่แข็งแกร่ง และ ขาแรง ทุกคน ๐ 

               

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"