ร็อกแลนด์เคาน์ตีในรัฐนิวยอร์กประกาศภาวะฉุกเฉินจากโรคหัดระบาดเมื่อวันอังคาร ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข้าสถานที่สาธารณะ

ภาพ knysnaplettherald.com

    เมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม ร็อกแลนด์เคาน์ตีซึ่งอยู่ทางเหนือของนิวยอร์กซิตีราว 40 กิโลเมตร ประกาศภาวะฉุกเฉินจากโรคหัดระบาด หลังจากพบเด็กที่เป็นโรคนี้แล้ว 153 ราย โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18  ปีที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข้าสถานที่สาธารณะ มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธเป็นเวลา 30 วัน ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 15,900 บาทและจำคุกไม่เกิน 6 เดือน

    คำประกาศนี้นิยามสถานที่สาธารณะว่า คือที่ใดก็ตามที่มีบุคคลรวมตัวกันมากกว่า 10 คน เช่น โรงเรียน, ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหารและศาสนสถาน

    เอ๊ด เดย์ ผู้บริหารร็อกแลนด์เคาน์ตี กล่าวว่า เราต้องทำทุกสิ่งเท่าที่มีอำนาจเพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรคหัด เพื่อปกป้องสุขภาพของผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนด้วยเหตุผลด้านสุขภาพและเด็กๆ ที่ยังเล็กเกินไปที่จะรับวัคซีน เขายังวิจารณ์บางชุมชนที่ไม่ยอมให้เยาวชนที่ติดเชื้อโรคหัดรับวัคซีนเมื่อเจ้าหน้าที่สอบสวนสาธารณสุขไปเยี่ยมบ้าน ซึ่งพวกเขาบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่คุยเรื่องนี้และเจ้าหน้าที่ไม่ต้องกลับมาอีก ซึ่งเป็นเรื่องรับไม่ได้และไร้ความรับผิดชอบ

    ร็อกแลนด์เคาน์ตีมีประชากรมากกว่า 300,000 คน ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโรคหัดแล้ว 153 ราย แม้โรคนี้จะได้รับการประกาศว่าหมดสิ้นไปอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2543 เดย์เผยว่ามีการรณรงค์การฉีดวัคซีนครั้งใหญ่หลังพบโรคหัดระบาดตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ราว 27% ของเด็กอายุ 1-18 ปีที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

    นิวยอร์กไทม์รายงานพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคหัดสูงในร็อกแลนด์เคาน์ตีคือชุมชนชาวยิวที่เคร่งศาสนามากที่ไม่ยอมให้เด็กรับวัคซีน เชื่อว่าโรคหัดแพร่มาจากชุมชนชาวยิวเคร่งศาสนารอบๆ นิวยอร์ก  และมีการระบาดของโรคหัดในรัฐอื่นด้วย ได้แก่ วอชิงตัน, แคลิฟอร์เนีย, เทกซัส และอิลนินอยส์.