รัฐบาลเวียดนามประกาศจะปราบปรามอย่างเข้มงวดไม่ปล่อยให้สินค้าที่ผลิตในจีนเปลี่ยนป้ายแหล่งผลิตใหม่เป็น "เมดอินเวียดนาม" แล้วส่งออกไปขายในประเทศอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แฟ้มภาพ ธงชาติเวียดนามแขวนในตลาดสดที่กรุงฮานอย / AFP

    รายงานของเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2562 กล่าวว่า มาตรการเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจีน 25% ของรัฐบาลทรัมป์ทำให้ผู้ส่งออกสินค้าเริ่มเปลี่ยนฐานการผลิตจากจีนมายังเวียดนาม แต่แถลงการณ์ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนามเมื่อวันอาทิตย์เปิดเผยว่า ศุลกากรเวียดนามพบว่ามีสินค้าส่งออกจากเวียดนามจำนวนหนึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตในจีนแต่ปลอมป้ายผลิตเป็นผลิตเวียดนาม

    "การปลอมแหล่งผลิตและการเปลี่ยนถ่ายสินค้าอย่างผิดกฎหมายเกิดบ่อยที่สุดกับสินค้าในภาคสิ่งทอ, อาหารทะเล, ผลิตภัณฑ์เกษตร, แผ่นกระเบื้อง, น้ำผึ้ง, เหล็กและเหล็กกล้า, อะลูมิเนียม และผลิตภัณฑ์ทำจากไม้" กรมศุลกากรของเวียดนามกล่าว

    คำแถลงกล่าวว่า ผู้นำเข้าบางรายนำสินค้าจากจีนมาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่อย่างผิดกฎหมายว่าเป็นสินค้า "เมดอินเวียดนาม" แล้วก็ยื่นขอหนังสือรับรองแหล่งผลิตเวียดนามเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่น มีกรณีหนึ่งซึ่งศุลกากรสหรัฐตรวจพบ เป็นผลิตภัณฑ์ไม้ที่โรงงานผลิตในเวียดนามนำเข้าไม้จากจีน แล้วเปลี่ยนฉลากใหม่ส่งออกไปขายสหรัฐ

    รายงานของทางการเวียดนามอ้างคำกล่าวของรองนายกฯ ฝ่าม บิ่งห์ มิงห์ ด้วยว่า แนวโน้มที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงธุรกิจและสินค้าเวียดนาม "เราจะเพิ่มการลงโทษเพื่อขัดขวางไม่ให้เกิดกรณีสินค้าที่อ้างว่าเป็นสินค้าเวียดนามเข้าสู่ตลาดอื่นๆ" เขากล่าว

    คำแถลงระบุว่า กรมศุลกากรเวียดนามกำลังพัฒนากระบวนการในการระบุแหล่งผลิตให้ดีขึ้นและลงโทษธุรกิจที่ฝ่าฝืน

    รัฐบาลเวียดนามหวั่นเกรงว่าเวียดนามจะโดนสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของเวียดนามลงโทษ หากเวียดนามไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้

    เวียดนามเป็นแหล่งผลิตราคาถูกของสินค้าหลากหลายประเภทมาช้านาน ตั้งแต่รองเท้าอาดิดาส, เสื้อผ้าเอชแอนด์เอ็ม ไปจนถึงสมาร์ทโฟนซัมซุง และโปรเซสเซอร์ของอินเทล การส่งออกสินค้าเวียดนามมีปริมาณเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเป็นผลจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ โดยไตรมาสแรกนั้น สหรัฐนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเกือบ 16,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว.