กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

       ควันหลงงานมอบคืนโฉนดและทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม  ครั้งที่ 12 ที่หอประชุมพระนารายณ์ อาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ที่ จ.ลพบุรี เมื่อวันพฤหัสบดี 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากเกิดเหตุชาวบ้านจากจังหวัดนครราชสีมามาทวงถามความจริงใจในการคืนโฉนดที่ดิน ก็ยังสงสัยตำรวจมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนแค่ไหน จนทำให้ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมที่ไปเป็นประธานในพิธี ต้องสั่งให้ตำรวจไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ในงานดังกล่าวยังมีภาพผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามหนี้นอกระบบฉายขึ้นจอเวที ซึ่งภาพของ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปรากฏเป็นภาพเก่าสมัยที่ยังผมยาวอยู่ เมื่อ บิ๊กแป๊ะ เห็นจึงควันออกหู ทำให้ พล.ต.ต.สุนทร โตรอด ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ต้องรีบชี้แจงว่าภาพถูกส่งมาจาก ส่วนกลาง ตำรวจลพบุรีไม่ได้ทำเอง แต่ส่วนกลางที่ว่าเป็นใคร ที่ไม่รอบคอบ ที่ไม่ดูความเรียบร้อยให้นาย  "บิ๊กแป๊ะ" น่าจะหาตัวไม่ยาก...จริงมั้ย ๐

                เล่นเอา กรมปทุมวัน แทบแตก! หลังมีเอกสารประกาศคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ก.ตร.เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบที่ บิ๊กป้อม ลงนามคำสั่งในฐานะประธาน ก.ตร.  ลงวันที่ตั้งแต่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย 1 ในคณะอนุกรรมการ ก.ตร.ชุดนี้ ในลำดับที่ 3.6 ปรากฏชื่อ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นอนุกรรมการ ก.ตร.ด้วย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม กลายเป็นประเด็นร้อนถึงขนาดต้องรีบยัดวาระ บิ๊กโจ๊ก เข้าวงประชุม ก.ตร.แบบเร่งด่วน สุดท้าย บิ๊กต้อย-พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานอนุกรรมการ ก.ตร.เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ต้องออกมาแจ้งมติ ก.ตร.ถอนชื่อ บิ๊กโจ๊ก ออกจากการเป็นอนุกรรมการ ก.ตร.เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ พร้อมอ้างเหตุผล บิ๊กโจ๊ก ถูกคำสั่งโอนย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกฯ แล้ว อาจไม่สะดวกในการเดินทางไปประชุมอนุ ก.ตร. ...ฟังแล้วก็อมยิ้ม เพราะเซ็นคำสั่งตั้งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ทั้งที่ บิ๊กโจ๊ก ถอดเครื่องแบบสีกากี ออกจากรั้ว กรมปทุมวัน ไปเกือบ 2  เดือนแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าไม่สะดวกในการเดินทางมาประชุม (เฮ้อออ) ๐

                ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว สุชาติพงษ์ ในการสูญเสีย ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.มาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร ที่ก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมภายในบ้านพัก และหากทุกอย่างเป็นไปตามที่ ภรรยาผู้กองพิเชษฐ์ บอกไว้ถึงสาเหตุครั้งนี้ว่ามาจากความเครียด ที่ถูกย้ายจากรองสารวัตรปราบปรามไปเป็นรองสารวัตรสอบสวน ซึ่งเป็นงานที่ไม่ถนัด ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องงานสอบสวน ในวาระการแต่งตั้งระดับ รองสารวัตร (รอง สว.) - ผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) วาระประจำปี  2560 ที่เพิ่งแต่งตั้งไปเมื่อเดือนมกราคม 2562 ก็ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์  จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะแม้การแต่งตั้งตำรวจในยุคที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) การแต่งตั้งจะเปลี่ยนรูปแบบไปจากปรกติ แต่ ม.44 ก็ให้อำนาจ ผบ.ตร.เป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งทุกระดับ ซึ่ง ผบ.แป๊ะ ก็เป็นคนเซ็นทุกคำสั่ง รวมทั้งคำสั่งของ "ผู้กองพิเชษฐ์" ด้วย กระนั้นจะมารื้อฟื้นหาคนผิดก็ใช่ที่ ทางที่ดี ป้องกัน ไม่ให้มีเหตุการณ์ ผู้กองพิเชษฐ์ 2 น่าจะดีกว่า ยิ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าคำสั่งแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2561 จะคลอดออกมาแล้ว ผบ.แป๊ะ รวมทั้ง ผบช. ที่ได้รับมอบอำนาจในการแต่งตั้งไป เวลาจะโยก เวลาจะย้ายใคร ก็ต้องคิดและตรึกตรองให้รอบคอบ จะได้ไม่เกิดความสูญเสียขึ้นอีก ๐

                ยังเมาธ์กันให้แซ่ดในแวดวงสีเขียว...สำหรับงานคืนโฉนดที่ดิน ตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในรัฐบาล คสช.ที่ลพบุรี มีการระดมตำรวจมาดูแลความปลอดภัยกว่าพันนาย เรียกได้ว่าอลังการงานสร้างรับ อีเวนต์เพื่อนาย อย่างแท้จริง แต่น่าแปลกก็ตรงที่มาตรการรักษาความปลอดภัยในอาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เข้มข้นชนิดที่เชื้อโรคยังเล็ดลอดเข้ามาไม่ได้ แต่เหตุใดจึงมีกลุ่มชาวบ้านจากอีสานไปดักรอหน้าลิฟต์ชั้น 4 เพื่อร้องเรียน บิ๊กป้อม  ในระยะประชิดตัวได้ หรืองานนี้อาจมีอะไรซับซ้อนกว่าที่คิด โดยเฉพาะนัยแห่งการเตะตัดขา ตร.ภาคอื่น  แต่ถ้าเกิดจากปมเล็กๆ ในปัญหาสร้างผลงานกัน ก็ถือว่างานนี้ "บิ๊กป้อม" เจอวิบากกรรมไปเต็มๆ เพราะกลายเป็นวาระการตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติจากหลายส่วน

                หลังจาก พล.ท.อ่อง โซ่ ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการพิเศษที่ 4 ประธานร่วมคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา (อาร์บีซี) มาประชุมอาร์บีซี ครั้งที่ 33 ที่โรงแรมดิอิมพีเรียล ภูแก้ว ฮิลล์ รีสอร์ท อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยมี พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ทำหน้าที่เป็นประธาน เสร็จสิ้นแล้ว ก็ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการกองทัพบกเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์  ผู้บัญชาการทหารบกอย่างไม่เป็นทางการ โดยใช้ห้องรับรองภายในพิพิธภัณฑ์กองทัพบกที่ได้ปรับปรุงใหม่เป็นสถานที่พบปะพูดคุย ถือเป็นการออกงานแบบเงียบๆ แต่ก็ เคลียร์ ข่าวลือไปได้ในระดับหนึ่ง เพราะเหล่าบรรดาคนในแวดวงการเมืองก็ถามไถ่กันเซ็งแซ่ว่า "บิ๊กแดง" มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะเวลา ผบ.ทบ.เดินทางไหนก็กลายเป็นนัยแห่งการขับเคลื่อนเหตุการณ์ในบ้านเมืองได้เหมือนกัน  จาการปรากฎตัวรับแขกต่างประเทศจึงยืนยันว่า "บิ๊กแดง" ยังอยู่ทำงานที่ตึกกองบัญชาการกองทัพบก แบบเงียบๆ ไม่ได้แวบหายไปภารกิจพิเศษที่ไหน

                เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทหาร เมื่อครบรอบวันเกิดของอดีตผู้บัญชาการทหารบกที่เกษียณอายุราชการแล้ว มักจะมีตัวแทนของเหล่าทัพไปอวยพรวันเกิดเป็นประเพณีทุกปี ล่าสุด พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทหารบก ครบรอบ 74 ปี จึงมี พล.อ.วรวิทย์  วรรธนะศักดิ์ ประธานที่ปรึกษากองทัพบก และ พล.ร.อ.พัชระ พุ่มพิเชฏฐ์ รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยเข้าอวยพร และด้วยความที่สวมหมวกเป็นที่ปรึกษาพรรคพลังปวงชนไทย สื่อจึงยิงคำถามเรื่องการเมืองเป็นปกติ และคำตอบของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ที่มีไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ที่ต้องเข้ามาบริหารประเทศต่ออีกวาระ จึงฟังเข้มข้นเป็นปกติเช่นกัน โดยเฉพาะฝากให้  "บิ๊กตู่" ดูแลประชาชนคนยากจน ไม่ใช่ดูแลแต่เจ้าสัว เจอเหน็บดอกนี้เข้าให้ คอนเฟิร์มนามสกุล "ชินวัตร" ถูกต้องทุกประการ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"