สื่อโสมแดงประโคมข่าว 'คิม' พบ 'ทรัมป์' ดันฟื้นเจรจานิวเคลียร์


เพิ่มเพื่อน    

สื่อทางการเกาหลีเหนือยกย่องการพบกันระหว่างคิม จองอึน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่หมู่บ้านปันมุนจอมเมื่อวันอาทิตย์ ว่าเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ยืนยันผู้นำทั้งสองเห็นพ้องผลักดันการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ขณะกุนซือทรัมป์โต้ข่าวยอมอ่อนข้อเรื่องนิวเคลียร์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่ดินแดนของเกาหลีเหนือตามคำเชิญของคิม จองอึน หลังจากทั้งคู่จับมือทักทายกันเหนือเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารในพื้นที่รักษาความมั่นคงร่วม (เจเอสเอ) ที่หมู่บ้านปันมุนจอมในเขตปลอดทหาร เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 / AFP

    ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกที่เหยียบดินแดนเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากเขาเชื้อเชิญคิม จองอึน ผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ การพบปะแบบฉุกละหุกมีขึ้นที่หมู่บ้านปันมุนจอมภายในเขตปลอดทหาร (ดีเอ็มซี) ที่คั่นกลางระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

    คิมและทรัมป์จับมือกันเหนือแนวคอนกรีตเตี้ยๆ ที่เป็นเส้นแบ่งเขตทางทหาร แบ่งพรมแดนเหนือ-ใต้ตลอด 66 ปีที่ผ่านมา นับแต่สงครามเกาหลียุติลงโดยไม่มีการทำสนธิสัญญาสงบศึก หลังจากจับมือคิมได้เชิญทรัมป์ก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดนนี้และเดินเข้าไปยังดินแดนของเกาหลีเหนือ จากนั้นทั้งคู่เดินกลับมาฝั่งเกาหลีใต้ และหารือกันเป็นการส่วนตัวที่อาคารฟรีดอมเฮาส์นานร่วมชั่วโมง

    ทรัมป์เปิดเผยว่าเขาและคิมเห็นพ้องกันว่าจะรื้อฟื้นการเจรจาระดับคณะทำงานอีกครั้ง และตัวเขาได้เชิญคิมไปเยือนทำเนียบขาวด้วย

    การพบกันระหว่างทั้งสองนับเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากซัมมิตที่สิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว และซัมมิตที่กรุงฮานอยของเวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ซึ่งไม่สามารถบรรลุความเห็นพ้องใดๆ กันได้

    เมื่อวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานข่าวการพบกันระหว่างคิมและทรัมป์หนล่าสุด โดยกล่าวว่า ผู้นำทั้งสองได้จับมือกันครั้งประวัติศาสตร์ที่หมู่บ้านปันมุนจอมถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ หมู่บ้านสงบศึกแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เคยรับรู้กันว่าคือสัญลักษณ์ของการแบ่งแยก และสะท้อนความสัมพันธ์ที่น่าอับอายระหว่างสองประเทศ

    รายงานกล่าวด้วยว่า คิมและทรัมป์เห็นพ้องกันว่าจะติดต่อกันอย่างใกล้ชิดต่อไปในอนาคต และจะรื้อฟื้นและผลักดันการสานเสวนาอย่างสร้างสรรค์เพื่อบรรลุความก้าวหน้าครั้งใหม่ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีและในด้านความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

    ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนออกเดินทางจากเกาหลีใต้ว่า การเจรจารอบใหม่น่าจะมีขึ้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และผู้แทนเจรจาของฝ่ายเกาหลีเหนือจะเป็นนักการทูตจากกระทรวงการต่างประเทศ

    ภาพข่าวของเคซีเอ็นเอเมื่อวันจันทร์เผยให้เห็นว่า ปอมเปโอ และรี ยองโฮ รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือ นั่งอยู่เคียงข้างทรัมป์และคิมที่อาคารฟรีดอมเฮาส์ด้วย

    ข่าวของสื่อทางการเปียงยางบอกด้วยว่า ระหว่างการสนทนากันนั้น ทรัมป์และคิมได้กล่าวถึงประเด็นการผ่อนคลายความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี, ประเด็นความวิตกร่วมกันและความสนใจร่วมกันที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการแก้ไขประเด็นปัญหาเหล่านี้ และทั้งคู่ยังได้แสดงความเข้าใจและเห็นใจกันอย่างเต็มเปี่ยม

    รายงานอ้างคำกล่าวของคิมว่า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขากับทรัมป์ทำให้การประชุมที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับเป็นไปได้ในเวลาเพียงแค่ 1 วัน และความสัมพันธ์นี้จะดำเนินต่อไปเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี

    ขณะเดียวกัน จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ปฏิเสธรายงานข่าวของนิวยอร์กไทมส์เมื่อวันจันทร์ ที่ว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังผ่อนปรนท่าทีในการต่อรองกับเกาหลีเหนือ ด้วยแนวคิดที่จะยอมรับการหยุดนิวเคลียร์ แทนที่การล้มเลิกอย่างสิ้นเชิง และจะยอมรับสถานะของเกาหลีเหนือว่าเป็นรัฐนิวเคลียร์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"