สหรัฐงดวิจารณ์ อ้างเรื่องภายใน กรณีจีนยืดอำนาจ 'สีจิ้นผิง'


เพิ่มเพื่อน    

ทำเนียบขาวปฏิเสธจะวิจารณ์กรณีที่จีนเตรียมแก้ไขกฎหมายยกเลิกการจำกัดสมัยการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี ซึ่งจะส่งผลให้ "สีจิ้นผิง" ครองอำนาจได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทางการจีนปิดกั้นเสียงคัดค้านในประเทศ เซ็นเซอร์สื่อออนไลน์ที่พาดพิงถึงสี

จานที่ระลึกภาพประธานาธิบดีสีจิ้นผิง วางอยู่ด้านหลังรูปปั้นจำลองของประธานเหมาเจ๋อตง ภายในร้านขายของที่ระลึกในกรุงปักกิ่ง ภาพ AFP

พรรคคอมมิวนิสต์จีนเตรียมเสนอให้แก้ไขบทบัญญัติในกฎหมายที่กำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกัน เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) สัปดาห์หน้า ซึ่งค่อนข้างแน่นอนว่าเอ็นพีซีจะให้ความเห็นชอบข้อเสนอดังกล่าว และจะทำให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง สามารถครองอำนาจต่อไปได้ภายหลังครบวาระสมัยที่ 2 ในปี 2566

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ว่าทำเนียบขาวของสหรัฐระมัดระวังท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นกิจการภายในของจีน และว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยกล่าวไว้หลายครั้งระหว่างการหาเสียงเกี่ยวกับการจำกัดสมัยการดำรงตำแหน่งของข้าราชการการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทรัมป์สนับสนุนให้เกิดในสหรัฐ แต่การตัดสินใจของจีนก็ขึ้นอยู่กับจีนเอง

ประธานาธิบดีสีถูกยกว่าเป็นผู้นำจีนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบ 30 ปี แต่การยืดอำนาจยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด จะทำให้สีเทียบชั้นกับเหมาเจ๋อตง และน่าจะเป็นการดีสำหรับการนิยามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนในอีกหลายสิบปีนับจากนี้     

ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ ภาพ AFP

ปฏิกิริยาที่ระมัดระวังของสหรัฐสะท้อนความเป็นจริงข้างต้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังสะท้อนท่าทีของทรัมป์ที่อึกอักต่อการวิจารณ์รัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รวมถึงความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนระหว่างเขากับสี

ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐ มหาอำนาจฝ่ายประชาธิปไตย ไม่วิพากษ์วิจารณ์ความเคลื่อนไหวยืดการครองอำนาจแบบไม่มีที่สิ้นสุดของผู้นำจีน ภายในประเทศจีนเอง กลับมีกระแสต่อต้านวิจารณ์อย่างท้าทายความพยายามเซ็นเซอร์ของทางการ

หลี่ต้าถง อดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไชนายูธเดลีของทางการจีน โพสต์ร่างจดหมายฉบับหนึ่ง เรียกร้องให้สมาชิกเอ็นพีซีลงมติคัดค้านการแก้ไขบทบัญญัติ ซึ่งกำหนดไว้ในยุคของประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิง เมื่อปี 2525 เพื่อป้องกันไม่ให้จีนหวนกลับไปสู่ยุคแห่งความโกลาหลวุ่นวายภายใต้การปกครองของประธานเหมา

ร่างจดหมายฉบับนี้ ซึ่งไม่ได้ส่งถึงสมาชิกเอ็นพีซี แต่ได้แบ่งปันต่อสมาชิกหลายร้อยคนในกลุ่มส่วนตัวทางแอพพลิเคชันวีแชตของจีน กล่าวว่า บทบัญญัติที่จำกัดการดำรงตำแหน่งนี้มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดผู้นำเผด็จการอำนาจนิยม หรือยกสถานะของบุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่เหนือพรรคและประเทศ

"การยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้นำประเทศจะทำให้อารยประเทศทั่วโลกเยาะเย้ยเรา และยังเพาะเมล็ดพันธุ์ของความโกลาหลวุ่นวายในจีนด้วย" ข้อความโพสต์ไว้เมื่อวันจันทร์

ผู้ใช้แอพวีแชตที่พยายามจะแชร์ภาพถ่ายหน้าจอของจดหมายฉบับนี้กลับถูกบล็อกโพสต์ นอกจากนั้น คำวิจารณ์ต่อต้านทั้งหมดในโซเชียลมีเดียก็ถูกทางการจีนบล็อกไว้เช่นกัน หรือแม้แต่คำบางคำ เช่น "ไม่เห็นด้วย" แต่เมื่อวันอังคาร ผู้ใช้เว็บไซต์เว่ยป๋อ หรือทวิตเตอร์เวอร์ชันจีน หลายรายยังคงท้าทายการเซ็นเซอร์ของทางการจีน

"น่าสมเพชจริงๆ เรามีประชากร 1,300 ล้านคน แต่ไม่มีคนขัดขืนได้แม้แต่คนเดียว" ผู้ใช้เว่ยป๋อรายหนึ่งโพสต์ไว้

การเซ็นเซอร์ของทางการจีนยังลามถึงคำหรือวลีหลายสิบคำที่เกี่ยวโยงถึงสีด้วย หน่วยงานสำรวจความเคลื่อนไหวทางอินเทอร์เน็ตของจีน ไชน่าดิจิทัลไทมส์ จากสหรัฐ กล่าวโดยยกตัวอย่างคำเช่น "จักรพรรดิของฉัน", "ครองบัลลังก์", "ฉันไม่เห็นด้วย" และ "วินนีเดอะพูห์" ซึ่งเป็นการ์ตูนที่ใช้เปรียบเทียบกับสี.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"