แฉเกาหลีเหนือลอบส่งวัสดุอุปกรณ์ให้ซีเรียใช้ทำอาวุธเคมี


เพิ่มเพื่อน    

รายงานของยูเอ็นที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะระบุ เกาหลีเหนือลักลอบส่งวัสดุอุปกรณ์ต้องห้าม ที่สามารถใช้สร้างโรงงานและใช้ผลิตอาวุธเคมีแก่ซีเรียในช่วงเวลาหลายปีก่อนหน้านี้ หลังจากมีรายงานพบการใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีในเขตกูตาตะวันออกของกลุ่มกบฏเมื่อสุปสัปดาห์ที่ผ่านมา

เด็กและผู้ใหญ่จากเขตกูตาตะวันออกรับการรักษาอาการคล้ายโดนก๊าซพิษ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 ภาพ AFP

สำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างสื่อหลายแห่งของสหรัฐเมื่อวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ว่ารายงานขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ฉบับหนึ่งที่ยังไม่ได้มีการเผยแพร่ กล่าวว่า เกาหลีเหนือลักลอบจัดส่งวัสดุอุปกรณ์หลายอย่างแก่ซีเรียที่สามารถใช้ผลิตอาวุธเคมี การจัดส่งสินค้าราว 40 ครั้งที่ไม่มีการสำแดงรายการ เกิดขึ้นในช่วงปี 2555-2560

รายงานกล่าวว่า วัสดุอุปกรณ์ที่เกาหลีเหนือลอบส่งให้ซีเรียอย่างผิดกฎหมาย มีอาทิ แผ่นกระเบื้องทนกรดและทนความร้อนสูง ซึ่งใช้สำหรับสร้างโรงงานผลิตอาวุธเคมี, วาล์วที่ทนทานต่อการกัดกร่อน และเทอร์โมมิเตอร์ นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังส่งผู้เชี่ยวชาญด้านมิสไซล์หลายคนมายังศูนย์ผลิตอาวุธของซีเรียด้วย

ยูเอ็นเชื่อว่า ศูนย์ศึกษาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ (เอสเอสอาร์ซี) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลซีเรีย เป็นผู้จ่ายเงินให้แก่เกาหลีเหนือ ผ่านบริษัทบังหน้าหลายแห่ง

รายงานของยูเอ็นฉบับนี้รวบรวมโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็น ซึ่งทำหน้าที่ประเมินการปฏิบัติตามข้อมติคว่ำบาตรของยูเอ็น ที่ลงโทษโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

รัฐบาลซีเรียแจ้งกับคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นว่า ผู้แทนของเกาหลีเหนือที่อยู่ในซีเรียนั้น มีเพียงแค่นักกีฬาและผู้ฝึกสอนกีฬาเท่านั้น

กลุ่มควันจากการโจมตีทางอากาศในเขตกูตาตะวันออก พื้นที่ควบคุมของฝ่ายกบฏซีเรีย เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2561 ภาพ AFP

คำกล่าวหานี้มีออกมาไล่หลังรายงานที่ว่า กองทัพซีเรียใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีครั้งใหม่อีก แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ปฏิเสธคำกล่าวหานี้

สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของยูเอ็น ไม่ได้เปิดเผยว่า รายงานที่รั่วไหลฉบับนี้จะได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่หรือไม่ แต่เขากล่าวกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่า สารในภาพรวมจากรายงานฉบับนี้ก็คือ สมาชิกยูเอ็นทุกประเทศมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติตามข้อมติคว่ำบาตร

ในรายงานฉบับหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อเดือนกันยายน 2560 คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญฯ กล่าวไว้ว่า พวกเขากำลังสอบสวนความร่วมมือกันระหว่างซีเรียกับเกาหลีเหนือในด้านอาวุธเคมีต้องห้าม, ขีปนาวุธ และอาวุธตามสารบบ

รายงานฉบับนี้กล่าวด้วยว่า ชาติสมาชิกยูเอ็น 2 ชาติได้สกัดกั้นการขนส่งสินค้าที่จัดส่งให้แก่ซีเรีย และสินค้าที่พบในการขนส่งนี้ ต้องสงสัยว่าจัดส่งมาจากผู้ผลิตอาวุธหลักของเกาหลีเหนือ โดยเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาที่ทำผ่านบริษัทหลายแห่งที่เป็นบริษัทบังหน้าของเอสเอสอาร์ซี

ซีเรียลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี และยินยอมทำลายคลังอาวุธเคมีที่แจ้งไว้ ภายหลังซีเรียใช้ก๊าซซารินฆ่าพลเรือนหลายร้อยคนที่เมืองกูตาเมื่อปี 2556 แต่หลังจากนั้นซีเรียยังคงถูกกล่าวหาหลายครั้งหลายครา ว่าใช้อาวุธเคมีต้องห้ามในการทำสงครามกลางเมืองช่วงหลายปีมานี้

องค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) สอบสวนได้ข้อสรุปว่า ซีเรียใช้ก๊าซซารินที่ทำลายประสาท ในการโจมตีที่เมืองข่านเชคุน ในจังหวัดอิดลิบ เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ฆ่าคนมากกว่า 80 ราย คณะสอบสวนของยูเอ็นกล่าวโทษกองทัพอากาศซีเรียว่าเป็นผู้โจมตี

สหรัฐตอบโต้ด้วยการยิงมิสไซล์โจมตีฐานทัพอากาศของซีเรียที่เชื่อว่าเป็นฐานสำหรับการโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งนั้น แต่ประธานาธิบดีอัสซาดยืนกรานว่าเหตุการณ์ที่ว่านั้นเป็นเรื่องที่กุขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าซีเรียอาจใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีที่เขตกูตาตะวันออก ซึ่งเป็นดินแดนในความควบคุมของฝ่ายกบฏใกล้กับกรุงดามัสกัส รอยเตอร์รายงานว่าโอพีซีดับเบิลยูกำลังสอบสวนเรื่องนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"