กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

 

         มีเสียงสะท้อนหลังจาก บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี นำทีมสืบสวนระดับซือแป๋เรียกอาจารย์ อย่าง บิ๊กใหม่-พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ บิ๊กช้าง-พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. บิ๊กปั๊ด-พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ บิ๊กบัว-พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. แถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ครบรอบ 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เกิดเหตุ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา หลายช่วงหลายตอนในการแถลงข่าว ดูเหมือน "ผบ.แป๊ะ" จะอารมณ์บ่จอย แม้จะไม่มีใครรู้ว่า "บ่จอย" เรื่องอะไรกันแน่  แต่ถ้าจับถ้อยแถลงตอนหนึ่งที่บอก "คดีนี้ไม่ได้ง่าย สื่อมวลชนพยายามซักถาม บางสำนักพยายามไซโคว่าหนีนักข่าว ความจริงผมรู้หมดทุกอย่างแต่ไม่พูด บางคนสนิทสนมกับทีมคณะทำงานแอบส่งข่าวให้กัน  แต่ผลที่ตามมาคือคนร้ายที่เหลือขยับหมด แล้วใครรับผิดชอบ ไม่ใช่คดีล้อเล่น เจ้าหน้าที่ต้องทำให้รอบคอบรัดกุมที่สุด" แบบนี้...นอกจาก สื่อ จะตกเป็นจำเลยแล้ว ลูกน้อง ที่ปล่อยข้อมูลลึก ข้อมูลลับออกมาก็น่าจะตกเป็นจำเลยร่วมด้วยถึงจะถูกหรือเปล่าท่าน ผบ.แป๊ะ ๐

                จะไปโทษสื่อ จะไปโทษตำรวจที่สนิทกับสื่อ แพลมๆ ข้อมูลออกมาก็ไม่ถูก หาก ผบ.แป๊ะ ย้อนไปดูเหตุการณ์ช่วยเหลือ 13 หมูป่าอะคาเดมี จ.เชียงราย ที่ ผู้ว่าฯ พะเยา-ณรงค์ศักดิ์  โอสถธนากร อดีตผู้ว่าฯ เชียงรายและ ผบ.เหตุการณ์ บริหารจัดการงานข่าวให้เป็นเอกภาพ ด้วยการนัดสื่อแถลงข่าวเป็นเวลาทุกวัน เพราะรู้ว่าสื่อและประชาชนสนใจ ก็ทำให้ข่าวออกมาในโทนเดียวกัน ราชการได้ สื่อได้ ประชาชนได้ข้อมูลที่อยากเสพข่าว ทุกอย่างแฮปปี้ แต่คดีระเบิดกรุงชาวบ้านสนใจ ชาวบ้านขวัญผวา  ไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าเดินทาง ไม่กล้าขึ้นรถไฟฟ้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่รับผิดชอบทำคดีโดยตรง ก็ไม่มีข่าวสารอะไรออกมาแจ้งความคืบหน้า แจ้งความปลอดภัยให้ชาวบ้านคลายกังวล ทั้งที่มี ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3-4 คน ก็ไม่เห็น บิ๊กเบิ้ม-พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย  โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ เดอะแจ๊ก-พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะออกมาชี้แจงแถลงไขแต่อย่างใด ก็เลยทำให้สื่อต้องเจาะ ต้องหาข้อมูลกันเอง พอทิศทางข่าวไม่เป็นไปตามที่ตำรวจต้องการ ก็เลยเห็นอารมณ์บ่จอยของ บิ๊กแป๊ะ อย่างในวันแถลงข่าว ๐

                เก็บตกคำสั่งระดับ รองสารวัตร-ชั้นประทวน แม้จะไม่ใช่คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี 2561  เป็นเพียงคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ที่ ผบ.แป๊ะ ลงนามคำสั่งให้ตำรวจระดับ รอง สว.-ชั้นประทวน 98 ราย ไปรักษาราชการตำแหน่งสังกัดกองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) ที่มี บิ๊กก้อง-พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช เป็น ผบก.ป.หนุ่มไฟแรง มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.62 เป็นต้นไป  เช่นเดียวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ยุค บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง เป็นแม่ทัพสวนพลู ก็มีคำสั่งภายในอนุมัติให้ตำรวจระดับ รอง สว.-ชั้นประทวน ในสังกัด ตม. จำนวน 24 นาย ไปปฏิบัติราชการในสังกัด ตม.5 ทั้งด่าน ตม.ตาก, ตม.เชียงราย, ตม.เชียงแสน, ตม.ลำปาง, ตม.พิษณุโลก, ตม.เชียงใหม่แล้ว ก็ยังมาอยู่ บก.ตม.5 ด้วย...ใครเป็นใครลองเช็กชื่อกันเอาเอง ๐

                กลิ่นอายการแต่งตั้ง นายพล ระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และจเรตำรวจแห่งชาติ-ผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2562 เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อ ผบ.แป๊ะ ประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจ ในตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึงผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเปิดโอกาสให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีลำดับอาวุโสดังกล่าว หากเห็นว่าข้อมูลในการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง สามารถยื่นเรื่องต่อ ตร. (ผ่านกองบังคับการทะเบียนพล) พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาทบทวนได้ ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ 7 ส.ค. ซึ่งประกาศลำดับอาวุโส หรือวันที่ 14  ส.ค.นี้ ๐

                15 สิงหาคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ดีเดย์นัดส่ง โผทหาร รอบแรก ตามช่วงเวลาที่ปฏิบัติกันมาทุกปี ไม่ช้า-ไม่เร็ว เกินไป ดูตามบัญชีแล้วปีนี้ไม่น่ามีอะไรที่ ดุเดือด เพราะการวางตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมามีการจัดวางคนลงในตำแหน่งต่างๆ ไว้เป็นลำดับขั้น ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมมีทั้งมาและมีทั้งไป โดยเฉพาะ พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 20 ของ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ  ปลัดกระทรวงกลาโหม ข้ามมานั่งเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม แทน พล.อ.วิชัย แชจอหอ ที่จะเกษียณในปลายปีนี้  ส่วนคนที่จะข้ามฟากไปอยู่ทำเนียบฯ คาดว่าจะเป็น พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่จะไปนั่งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯ สมช.) แทน พล.ร.อ.วัลลภ เกิดผล ที่จะเกษียณอายุราชการ และมีชื่อเป็นแคนดิเดตหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ แทน บิ๊กเมา-พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์

                พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการทหาร เป็นประธานกดปุ่มทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลคงคลัง  3,133 ทุ่น ณ เนินตรวจการณ์ 152 บ้านภักดีแผ่นดิน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 6  สิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศเท่าที่เคยมีมา โดยมี บิ๊กเอ๊ด-พล.ท.สิทธิพล นิ่มนวล  ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติเพื่อมนุษยธรรม หรือ ทีแมกซ์ อำนวยการปฏิบัติจนงานลุล่วง งานนี้เชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ภาคประชาสังคมด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม สำนักข่าวต่างประเทศ และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน เนื่องจากประเทศไทยได้ปฏิบัติตาม อนุสัญญาออตตาวา ในการกวาดล้าง เก็บกู้ทุ่นระเบิดจนเหลืออยู่ในคลังไม่เกิน 1,000 ทุ่น ซึ่งปีนี้ทำให้ประเทศไทยหลุดจากบัญชีรายชื่อที่สหประชาชาติได้บันทึกไว้ ๐

                วันเกิดครบรอบ 74 ปีของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปีนี้ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.)  เงียบเหงา เพราะปกติวันราชการก่อนจะถึงวันครบรอบวันเกิดจริง 11 สิงหาคม ต้องมีเหล่าบรรดา ขุนทหาร-ตำรวจ มาตบเท้าอวยพรกันพรึ่บพรั่บ แต่เป็นที่รู้กันเมื่อนายกฯ มาควบ รมว.กลาโหม และนั่งเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) บารมี ของ บิ๊กป้อม ในแวดวง คนมีสี ไม่ได้เบ่งบานเหมือนเดิม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาช่วงเช้าจึงเห็นแค่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาอวยพรในฐานะ พี่ป้อม ที่เคารพ ในขณะที่เพื่อน เตรียมทหารรุ่น 6 มีมา เบิร์ธเดย์ เล็กๆ ให้ เพื่อนป้อม ที่สนามกอล์ฟกองทัพบก รามอินทรา ๐

                พร้อมแล้วสำหรับ กองร้อยทหารราบ (ร้อย.ร.) ไทย ที่เตรียมการฝึกเพื่อตรวจสอบและประเมินผลการฝึก ในช่วงเดือน​ ก.ย.​-ต.ค.​62 ที่ JRTC​ (Joint Readiness training center) รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ฝึกเตรียมความพร้อมในพื้นที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ จ.ลพบุรี ในเรื่องการเคลื่อนที่เข้าปะทะ การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับ การปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุกและการยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศโดยกำลังพลส่วนใหญ่จัดจาก พล.ร.9 โดย ร.29 (ร.29 พัน.1) นอกจากนี้ยังได้รับการประกอบกำลังเพิ่มเติมจากส่วนกำลังรบอื่นๆ ของ ทบ. ทั้งกองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1), ทภ.2, ทภ.3 และ ทภ.4 โดยเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ที่ต้องการยกระดับกำลังพลของ ทบ.ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ๐

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"