โทษบึ้มฆ่าทหารสหรัฐ 'ทรัมป์' ยกเลิกเจรจาลับกับตอลิบัน


เพิ่มเพื่อน    

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกเจรจาสันติภาพแบบลับๆ กับแกนนำตอลิบันที่แคมป์เดวิดและยุติการพูดคุยสันติภาพแล้ว ภายหลังนักรบตอลิบันระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงคาบูลเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 1 นาย

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 / JIM WATSON / AFP

    ผู้นำสหรัฐสร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดเผยเกี่ยวกับแผนการเจรจาลับกับแกนนำระดับสำคัญหลายคนของตอลิบันที่แคมป์เดวิด รัฐแมริแลนด์ วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน แต่ในทวิตเตอร์ประกาศข่าวสำคัญเมื่อค่ำวันเสาร์ ทรัมป์บอกว่าเขาได้ยกเลิกการเจรจาที่ว่านี้ไปแล้ว

    "เพื่อสร้างอำนาจต่อรองแบบผิดๆ พวกเขายอมรับว่าโจมตีที่กรุงคาบูล ซึ่งทำให้ทหารที่ยอดเยี่ยมมากๆ ของเรานายหนึ่ง และคนอีก 11 คนเสียชีวิต ผมยกเลิกการประชุมนี้ทันทีและยุติการเจรจาสันติภาพแล้ว" ทรัมป์ทวีต และยังบอกด้วยว่า เขามีแผนจะพบกับประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน ที่แคมป์เดวิดด้วยเช่นกัน

    ทรัมป์ทวีตอีกว่า หากพวกตอลิบันไม่สามารถตกลงหยุดยิงระหว่างการพูดคุยสันติภาพที่สำคัญมากเหล่านี้ และยังฆ่าคนบริสุทธิ์อีก 12 คน พวกเขาก็อาจจะไม่มีอำนาจเจรจาต่อรองทำข้อตกลงที่มีความหมายอยู่ดี

    คำประกาศที่สร้างความประหลาดใจนี้กระทบต่ออนาคตของร่างข้อตกลง ที่ซัลเมย์ คาลิลซาด ผู้แทนพิเศษของสหรัฐด้านสันติภาพในอัฟกานิสถาน ตกลงกับตอลิบันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสหรัฐตกลงจะถอนทหารอเมริกันราว 5,000 นายออกจากอัฟกานิสถานในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ด้านลอเรล มิลเลอร์ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียของอินเตอร์เนชันแนลไครซิสกรุ๊ป กังขาว่า เหตุใดการโจมตีที่คาบูลเมื่อวันพฤหัสบดีจึงเป็นสาเหตุให้ยกเลิกการเจรจา หากมองว่าตอลิบันเคยโจมตีหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา เหตุผลนี้ยังไม่ชัดเจน ส่วนทอม มาลีนาวสกี ส.ส.เดโมแครตกล่าวว่า การประชุมที่แคมป์เดวิดเป็นเรื่อง "พิลึก" แต่เขาดีใจที่ทรัมป์ยกเลิก

    ต่อมา ตอลิบันออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐจะเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่าใคร จากการยกเลิกการเจรจาสันติภาพ แต่ตอลิบันเชื่อว่าสหรัฐจะกลับมาเจรจากันใหม่ การต่อสู้ตลอด 18 ปีที่ผ่านมาควรพิสูจน์ให้พวกอเมริกันรู้ว่า เราจะไม่พอใจจนกว่าจะได้ประจักษ์ถึงการยุติการยึดครองอย่างสมบูรณ์

    ด้านสำนักงานของประธานาธิบดีอัชราฟ กานี แสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง โดยยกย่องความพยายามอย่างจริงใจของเหล่าพันธมิตร แต่ยืนกรานว่า สันติภาพที่แท้จริงจะบังเกิดได้ถ้าตอลิบันเลิกฆ่าคนอัฟกันและยอมรับการหยุดยิง แล้วพูดคุยโดยตรงกับรัฐบาลอัฟกัน

    รัฐบาลอัฟกันไม่มีส่วนร่วมในการเจรจาระหว่างสหรัฐกับตอลิบันซึ่งเกิดมาแล้ว 9 รอบในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การทำข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์เพื่อยุติสงครามยาวนานกว่า 18 ปี ยังขึ้นกับผลการพูดคุย "ภายในหมู่คนอัฟกัน" ทั้งเจ้าหน้าที่และแกนนำภาคประชาสังคม ไปจนถึงข้อตกลงเพิ่มเติมในประเด็นอื่น ซึ่งรวมถึงทหารสหรัฐที่ยังเหลืออีกราว 14,000 นายและทหารนาโตอีกนับหมื่นนาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"