ผู้แทนเจรจาของเกาหลีเหนือผิดหวังสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีในการเจรจาด้านนิวเคลียร์ที่สวีเดนเมื่อวันเสาร์ ระบุการพูดคุยจบลงอย่างล้มเหลว ขณะที่รัฐบาลสหรัฐกลับยืนกรานว่าเป็นการหารือที่ดี เตรียมคุยกันใหม่ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

แฟ้มภาพ คณะผู้แทนจากเกาหลีเหนือมาถึงสนามบินอาร์ลันดา ทางตอนเหนือของกรุงสตอกโฮล์ม เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 / AFP

    การเจรจาซึ่งจัดที่ศูนย์การประชุมชานกรุงสตอกโฮล์ม ห่างจากสถานทูตเกาหลีเหนือหลายร้อยเมตร เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2562 เป็นการหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกับเกาหลีเหนือ นับแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคิม จองอึน พบกันเป็นครั้งที่ 3 ที่ชายแดนเกาหลีเหนือและใต้เมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยทั้งสองเห็นพ้องรื้อฟื้นการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ที่หยุดชะงักไปนับแต่การประชุมสุดยอดที่เวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์จบลงโดยไม่สามารถบรรลุความเห็นพ้องใดๆ กันได้

    คิม มย็องกิล หัวหน้าผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้เวลาพูดคุยกับตัวแทนจากสหรัฐเกือบตลอดทั้งวันเสาร์กล่าวว่า การพูดคุยครั้งนี้จบลงด้วยความล้มเหลว เป็นเพราะสหรัฐไม่มีความยืดหยุ่น ผู้แทนเจรจาของสหรัฐไม่ยอมละทิ้งทัศนคติและท่าทีแบบเก่า

    "การเจรจาต่อรองไม่เป็นไปตามความคาดหวังของพวกเรา จึงล้มเหลวลงในท้ายที่สุด" คิมกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้านนอกสถานทูตเกาหลีเหนือผ่านล่าม

    ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกลับมองอีกมุม มอร์แกน ออร์ตากุส โฆษกกระทรวงแถลงว่า  ทัศนะของคิมไม่ได้สะท้อน "เนื้อหาและจิตวิญญาณ" ของการเจรจายาวนาน 8 ชั่วโมงครึ่งครั้งนี้ และรัฐบาลสหรัฐตอบรับคำเชิญของสวีเดน เพื่อกลับไปเจรจาหารือกับเกาหลีเหนืออีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์

    โฆษกหญิงผู้นี้กล่าวว่า สหรัฐนำเสนอความคิดที่สร้างสรรค์และมีการหารือที่ดีกับผู้แทนจากเกาหลีเหนือ ผู้แทนสหรัฐได้ตรวจทานความริเริ่มใหม่จำนวนหนึ่งที่จะช่วยกรุยทางให้การเจรจาคืบหน้า และขับเน้นความสำคัญของการเกี่ยวพันที่เข้มข้นขึ้น

    อย่างไรก็ดี เธอยอมรับว่าสหรัฐและเกาหลีเหนือไม่สามารถเอาชนะความเป็นปรปักษ์และสงครามที่ตกทอดมานาน 70 ปีได้ผ่านการเจรจากันแค่วันเสาร์วันเดียว ยังมีอีกหลายประเด็นที่มีน้ำหนักมากที่ต้องการความยึดมั่นทุ่มเทอย่างมากจากทั้งสองฝ่าย

    เจนนี ทาวน์ บรรณาธิการอำนวยการของโครงการ 38 นอร์ท จากกรุงวอชิงตัน ให้ทัศนะว่า เกาหลีเหนือคงคาดหวังไว้สูงว่าการปลดจอห์น โบลตัน พ้นตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสายเหยี่ยวของทำเนียบขาวเมื่อเดือนที่แล้ว จะทำให้สหรัฐมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

    ต่อมาในวันอาทิตย์ กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือแถลงว่า เกาหลีเหนือไม่มีความปรารถนาจะเจรจากับสหรัฐอีก เว้นแต่สหรัฐจะใช้มาตรการที่ปฏิบัติได้จริงเพื่อยุตินโยบายที่เป็นปรปักษ์.