ศาลชารีอะห์ของมาเลเซียในรัฐตรังกานูตัดสินจำคุกชายมุสลิม 6 คน คนละ 1 เดือน โทษฐานหนีการทำละหมาดวันศุกร์ไปนั่งปิกนิกริมน้ำตก นักสิทธิชี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล แม้ไม่เหมาะสมสำหรับมุสลิม แต่ก็ไม่ควรถึงขั้นต้องโทษอาญา

แฟ้มภาพ AFP

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 4 ธันวาคม และสื่อท้องถิ่นของมาเลเซีย กล่าวว่า ชาย 6 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 3 คนยังเป็นวัยรุ่น อายุระหว่าง 17-35 ปี ถูกจับได้ว่ากำลังปิกนิกริมน้ำตกเซกายู ช่วงเวลา 13.00-13.50 น. เมื่อวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวมุสลิมต้องทำละหมาดวันศุกร์ อันเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวมุสลิม

    หนังสือพิมพ์ฮาเรียนเมโทรรายงานว่า ศาลชารีอะห์ล่างแห่งฮูลูตรังกานูมีคำพิพากษาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ให้จำคุกบุคคลทั้ง 6 คนละ 1 เดือน ภายหลังพวกเขารับสารภาพผิดในข้อหาจงใจไม่ทำละหมาดวันศุกร์ที่เป็นข้อบังคับสำหรับชายชาวมุสลิมทุกคนในมาเลเซีย นอกจากนี้ ศาลยังลงโทษปรับพวกเขาตั้งแต่ 2,400-2,500 ริงกิต (ราว 17,415-18,140 บาท) จำเลยทั้ง 6 คนได้รับการประกันตัวระหว่างรอยื่นอุทธรณ์

    รายงานกล่าวว่า แม้การทำละหมาดวันศุกร์จะเป็นข้อบังคับสำหรับชายชาวมุสลิมมาเลเซีย แต่การตัดสินลงโทษบุคคลที่ไม่ทำละหมาดเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น และคดีของบุคคลเหล่านี้น่าจะเป็นครั้งแรกด้วย

    หนังสือพิมพ์มาเลย์เมลรายงานว่า ทั้งหกถูกกล่าวหาว่าทำผิดมาตรา 16 ของกฎหมายอาญาชารีอะห์ตรังกานู ฉบับแก้ไขปรับปรุงปี 2559 ซึ่งกำหนดโทษสูงสุดจำคุก 2 ปี และปรับ 3,000 ริงกิต

    ด้านซาอิด มาเล็ก จากกลุ่มทนายความเพื่อเสรีภาพ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การไม่ร่วมทำละหมาดวันศุกร์นั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ถึงแม้ว่าพฤติกรรมที่ว่านี้จะถูกผู้คนบางส่วนในสังคมมุสลิมมองว่าไม่เหมาะสม แต่การลงโทษทางอาญานั้นรุนแรงเกินไปและไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา

    เขากล่าวด้วยว่า คำตัดสินลงโทษนี้ขัดแย้งกับคำมั่นสัญญาของรัฐมนตรีการศาสนาที่บอกว่าจะเน้นด้านการฟื้นฟูผู้กระทำความผิด มากกว่าการลงโทษ

    นักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่า คดีนี้ขับเน้นว่าชื่อเสียงของมาเลเซียเรื่องความอดกลั้นทางศาสนานั้นกำลังถูกกัดกร่อน คดีนี้ยังเกิดไล่หลังการลงโทษโบยชาย 4 คนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน โทษฐานเป็นเกย์.