กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

          ในเมื่อการสู้เชื้อโรค "โควิด-19" ครั้งนี้ มี "หมอ" มี "พยาบาล" มี "บุคลากรทางการแพทย์" เป็นทัพหน้าแล้ว "ตำรวจ" ในฐานะทัพหลัง มีหน้าที่รักษากฎหมายไม่ให้ใครมาฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนในภาวะวิกฤติ คำสั่ง บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี กำชับผู้บังคับบัญชา ทั้งระดับกองบัญชาการ (บช.) และกองบังคับการ (บก.) ประชุมหน่วยตำรวจในพื้นที่เพื่อร่วมบูรณาการวางแผนและพิจารณาจัดกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้และยานพาหนะ ออกตรวจตรา ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และภาคีเครือข่าย โดยให้หมั่นออกตรวจตราการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อให้คำแนะนำและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นที่ร่วมปฏิบัติ รวมทั้งจัดเตรียมแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม ในสถานที่ทุกคนกำลังหวาดหวั่นกับเชื้อร้าย "ตำรวจ" ก็ต้องสร้างความมั่นใจ สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนได้อุ่นใจ

                นี่ก็ต้องชื่นชม บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ส่งลูกน้องออกทำงานร่วมกับสาธารณสุขและฝ่ายปกครองในการตั้งด่านคัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ต้องมีอาวุธ ก็ต้องมีเครื่องมือป้องกันให้ลูกน้องด้วย ไม่ใช่ส่งไปรบ แต่ไม่มีอาวุธ ก็มีแต่ตายกับตาย การมอบอุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้กับแต่ละกองบังคับการ (บก.) ประกอบด้วย หน้ากากชนิดปกป้องทั้งใบหน้า จำนวน 12,500 อัน แอลกอฮอล์ชนิดน้ำ 70% จำนวน 2,690 ลิตร หน้ากากอนามัย (Mask) 10,860 ชิ้น ชุดป้องกันเชื้อ (PPE) 36 ชุด ชุดคลุมแพทย์ (ชุดกาวน์) 990 ชุด ชุดอุปกรณ์ฉีดพ่นสารเคมี 216 ชุด สารฆ่าเชื้อ 201 ลิตร ชุดกันฝน 820 ชุด ถุงมือยาง 1,350 คู่ 10.เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด 40 เครื่อง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับข้าราชการตำรวจ ครอบครัว และประชาชนที่มีความต้องการ ได้นำไปใช้ประโยชน์ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว รวมถึงผู้มาติดต่อราชการ เป็นการสร้างกำลังใจในยามที่ทุกคนขวัญเสียได้อย่างเหมาะสม

                บริเวณทางเข้าตึก 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการนำอุโมงค์ฆ่าเชื้อโควิด-19 แบบอัตโนมัติมาใช้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอุโมงค์นี้จะทำงานโดยระบบเซ็นเซอร์ใบหน้า เมื่อเดินเข้าภายในอุโมงค์ระบบจะพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนที่กล้องอินฟาเรดจะวัดอุณหภูมิ พร้อมแสดงผลที่หน้าจอมอนิเตอร์ หากพบมีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะมีการซักประวัติ และไม่อนุญาตให้เข้าภายในอาคาร ส่วนผู้ที่ผ่านอุโมงค์ฆ่าเชื้อนี้แล้ว และอุณหภูมิไม่เกินกว่าที่กำหนด จะได้รับสติ๊กเกอร์แสดงว่าผ่านการตรวจแล้วก่อนเข้าอาคาร และทุกคนจะต้องติดบัตรแสดงตัวตน ซึ่ง บิ๊กเด่น-พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) บอกเอาไว้หลังจากเริ่มใช้อุโมงค์ฆ่าเชื้อจะมีการประชุมเพื่อประเมินการทำงานอีกครั้ง เนื่องจากพบว่าแต่ละครั้งมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อจำนวนมาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองประสิทธิภาพ หากได้ผลดีก็จะนำมาใช้ต่อจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย...ก็หวังว่าผลการประเมินจะไม่ทำให้เกิดรายการดรามาเหมือนบางกองบัญชาการ ที่ถึงขนาด "ขนกลับ" เพราะเกิดอาการนอยด์ก็แล้วกัน...เด้อ

                "กรมปทุมวัน" ปรับทัพหลังการแต่งตั้งวาระเดือนเมษายนรอบใหม่ "บิ๊กแป๊ะ" เซ็นคำสั่งหมายอำนาจหน้าที่และภารกิจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ให้ พล.ต.อ.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร จตช.เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา, พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, พล.ต.อ.พรหมธร ภาคอัต ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง, พล.ต.อ.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง, พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามสินค้าทางน้ำ, พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์, พล.ต.อ.นเรศ นันทโชติ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์, พล.ต.อ.ศักดา ชื่นภักดี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และ พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็น ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ติดตามความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาชุดหุ่นยนต์เพื่อการพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 (RTAF Nursing_Bot) ที่ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีการบินและอวกาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เพื่อดูความคืบหน้าในการพัฒนาหุ่นยนต์ชุดดังกล่าว ซึ่งมีขีดความสามารถในการลำเลียงส่งอาหาร ยา เสื้อผ้า แก่ผู้ป่วยโควิด-19 (หุ่นยนต์เคลื่อนที่ด้วยการบังคับวิทยุไปยังเตียงผู้ป่วย) หรือ “น้องถาดหลุม” หุ่นยนต์ตรวจวัดอุณหภูมิอัตโนมัติผู้ป่วยโควิด-19 (หุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปยังผู้ป่วย ตรวจจับ/รู้จำใบหน้า และวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ) และบันทึกผลการวัดปริมาณออกซิเจนในเลือดผู้ป่วยโควิด-19 (หุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปยังผู้ป่วย และบันทึกผลการวัดปริมาณออกซิเจน) โดยมีแผนจะทดสอบและปรับปรุงการใช้งานในพื้นที่ควบคุมผู้ป่วย โควิด-19 ระหว่าง 6-9 เมษายน 2563 ก่อนส่งมอบให้โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชและโรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) ในวันที่ 10 เมษายน 2563 เพื่อนำไปใช้งานต่อไป โดยหัวหน้าทีมงานวิจัย น.อ.อ.บุญเลิศ อันดารา บอกว่า หุ่นยนต์พยาบาลถาดหลุมนั้นไม่ได้มีหน้าตาเหมือนถาดหลุม แต่จะคล้ายๆ ปิ่นโต โดยระหว่างนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการก่อนทดสอบต้นสัปดาห์นี้

แม้ตัวเลขการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จากสนามมวยลุมพินีลดลง แต่คนที่สัมผัสจากคนที่ไปสนามมวยในวงที่สองยังมีสถิติอยู่ แต่เป็นคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว มีตัวเลขเพิ่มขึ้น กระแสวิพากษ์วิจารณ์กองทัพบกช่วงนี้ยังคงมีเป็นระลอก  บิ๊กแดง-พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก นอกจากต้องบริหารจัดการภายในเพื่อพิทักษ์กำลังพลให้ปลอดภัยแล้วยังต้องเตรียมกำลังไว้สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง แต่ที่ต้องได้รับผลกระทบทั่วหน้า ไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน ต่อจากนี้คือ เศรษฐกิจในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ จึงได้สั่งการให้ ผบ.หน่วยปลูกจิตสำนึกในการเสียสละจากผลกระทบในภาพรวม และงบประมาณประจำปีอาจจะถูกตัดงบประมาณอีก 10% ต้องเตรียมการรับสถานการณ์ให้ดี
                กระทรวงกลาโหม-กองทัพเรือ ก็โดนกระแสโจมตีเหมือนกัน จากประเด็นข่าววาระ ครม.เกี่ยวเนื่องจากการอนุมัติการจัดหาเรือยกพลขึ้นบกจากประเทศจีนที่อนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ยากลำบากในการผจญวิกฤติโควิด-19 ภายในประเทศ   พล.ร.อ.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารโครงการ เช่น การขออนุมัติการเดินทางไปราชการต่างประเทศของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หรือการขออนุมัติการเดินทางไปราชการของผู้ควบคุมงานและเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน หรือเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสิทธิกำลังพล ที่ต้องไปราชการในต่างประเทศเป็นระยะเวลานานตลอดจนเสร็จสิ้นโครงการ...ช่วงนี้ทุกเหล่าทัพคงต้องเร่งชี้แจงข่าวหลายๆ เรื่อง ยิ่งวันข้างหน้าสถานการณ์รัดเข็มขัดงบฯ กองทัพต้องถูกกดดันหนักในการจัดหาโครงการต่างๆ ทีมงานด้านประชาสัมพันธ์คงต้องทำงานหนักขึ้นแน่นอน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"