เอ็นจีโอยืนยันไวรัสโควิด-19ได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ว่า'ทะเลอำเภอจะนะ'หล่อเลี้ยงผู้คนที่ได้รับผลกระทบ


เพิ่มเพื่อน    


 1 พ.ค.63-นายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำนักปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อ " ล๊อคดาวน์ทะเลจะนะ จากไวรัสอุตสาหกรรม " มีเนื้อหาดังนี้
เก็บรักษาแหล่งผลิตอาหารไว้ให้กับคนทุกคน และหยุดเขตอุตสาหกรรมจะนะ 18,700 ไร่ ของคนบางกลุ่ม
ความเจ็บปวดที่สุดของประชาชนคือ “การเหยียบย่ำซ้ำเติม” จากรัฐบาล ในสภาวะของความทุกข์ยากจากไวรัสโควิด 19 นี้ โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตจะนะ ที่กำลังเดินหน้าเพื่อใช้พื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้ง 3 ตำบลของอำเภอจะนะ อันเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของพวกเรา เปลี่ยนเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของภาคใต้ นี่ยิ่งกว่าการเหยียบย่ำซ้ำเติม แต่คือการทำลายชีวิตของ “คนจะนะ”
ภายใต้นโยบายของรัฐบาล ที่ศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. กำลังเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าวนั้น คือการสร้างความเจริญ หรือความหายนะให้กับประชาชนชาวจะนะกันแน่ และบทบาทของ ศอ.บต. แท้จริงแล้วเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งพื้นที่ชายแดนใต้ หรือเพื่อสร้างความขัดแย้งรูปแบบใหม่
เมื่อวันที่  7 พฤษภาคม 2562 ปลายรัฐบาลยุค คสช.  ได้อนุมัติให้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่อำเภอจะนะ ภายใต้โครงการ “จะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ขึ้น  ซึ่งโครงการฯนี้ ต้องการใช้พื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้ง 3 ตำบล คือตำบลนาทับ ตำบลตลิ่งชัน และตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จำนวน 16,753 ไร่ ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และพลังงานขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้  โดยอ้างว่าจะจัดพื้นที่เพื่ออุตสาหกรรม  6 ประเภท  คือ  1.พื้นที่เขตอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมเบา 4,253 ไร่   2.พื้นที่อุตสาหกรรมหนัก 4,000 ไร่   3.พื้นที่เขตอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า 4,000 ไร่ จำนวน 4 โรง กำลังผลิตรวม 3,700 เมกะวัตต์  4.พื้นที่เขตอุตสาหกรรมต่อเนื่องกับกิจกรรมหลังท่าเรือ 2,000 ไร่  5.พื้นที่เขตอุตสาหกรรมศูนย์รวมและกระจายสินค้า 2,000 ไร่   6.พื้นที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จและแหล่งที่พักอาศัย 500 ไร่
ในสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า “ทะเลอำเภอจะนะ” แห่งนี้  ได้ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านที่จับสัตว์น้ำได้ในช่วงเวลานี้ ได้พยายามกระจายผลผลิตสัตว์จำนวนมาก ส่งให้ชาวหาดใหญ่ และอำเภออื่นๆในจังหวัดสงขลาให้พอประทังชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางความยากลำบางดังกล่าว โดยได้ร่วมกับคนเมือง และผู้ใจบุญทั่วไป ซึ่งล้วนแต่เป็นสัตว์น้ำจากแหล่งผลิตอาหารในพื้นที่อำเภอจะนะทั้งสิ้น ซึ่งก็คือพื้นที่เดียวกันที่กำลังจะถูกใช้เป็น “เขตนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่”  นั่นเอง
 จึงไม่สามารถประเมินมูลค่าพื้นที่แหล่งผลิตอาหารดังกล่าว เพื่อแลกกับเขตนิคมอุตสาหกรรมใดๆ ได้เลย แม้จะมีมูลค่าหมื่นล้าน หรือแสนล้านก็ตาม และเชื่อว่าจะไม่ใช่ความยั่งยืนแน่นอน หากแต่คือการทำลายชุมชน สังคม วิถีวัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และหมายถึงการทำลาย “ชีวิต” ของพี่น้องชาวจะนะจำนวนหลายพันครัวเรือนอย่างโหดร้ายที่สุด ยิ่งกว่าเหตุการณ์ไวรัสโควิด 19 ร้อยเท่าพันเท่า
รัฐบาล และ ศอ.บต. ต้องหยุดเหยียบย่ำซ้ำเติมคนจะนะ ในสถานการณ์เช่นนี้ด้วยการยกเลิกในสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ คือ โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตจะนะ เพราะนี่คือไวรัสร้ายที่กำลังแพร่ระบาดคนที่นี่ เพียงเพื่อต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับใครบางคนบางกลุ่มเท่านั้น โดยที่ต้องแลกด้วยการล่มสลายของคนและชุมชนจำนวนมาก
ในขณะที่สถานการณ์ของโลกกำลังปรับเปลี่ยนไปแน่นอนหลังจากนี้ “คุณค่าของแหล่งผลิตอาหาร” จะกลายเป็นพื้นที่สำคัญที่คนบนโลกใบนี้จะต้องช่วยกันเก็บรักษาไว้  ดังที่ได้ประจักษ์แล้วในปรากฏการณ์ไวรัสโควิด 19
“เขาอาจจะไม่ต้องการความเจริญในความหมายที่รัฐบาลยัดเยียดให้ แต่เขาอยากได้ทะเลของพวกเขากลับคืนมามากกว่า”
#เอาทะเลจะนะคืนมา
#หยุดโครงการเมืองอุตสาหกรรมจะนะ

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"