ประธานาธิบดีสหรัฐปฏิเสธข่าวหนีม็อบเข้าบังเกอร์ใต้ดินทำเนียบขาว


เพิ่มเพื่อน    

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐยืนกรานกับฟอกซ์นิวส์เมื่อวันพุธว่าเขาไม่ได้รีบรุดเข้าไปหลบภัยในบังเกอร์ใต้ดินของทำเนียบขาวระหว่างผู้ประท้วงชุมนุมอยู่ด้านนอกตามที่มีรายงานข่าว ขณะรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐประกาศชัดไม่เห็นด้วยใช้อำนาจในกฎหมายปราบจลาจลดึงกองทัพควบคุมสถานการณ์ในประเทศ

ผู้ชุมนุมชูป้ายประท้วงด้านนอกทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพุธที่ 3 มิถุนายน ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับวิทยุฟอกซ์นิวส์วันเดียวกันนี้ ปฏิเสธรายงานข่าวของสื่ออเมริกันว่า "มันเป็นรายงานเท็จ" ก่อนที่เขาจะขยายความเพิ่มเติมโดยยอมรับว่าได้ลงไปในบังเกอร์ใต้ดินจริง แต่เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นมากๆ

    นิวยอร์กไทมส์รายงานก่อนหน้านี้ อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนที่รับทราบข้อมูลดังกล่าวโดยตรงว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดี ซีเคร็ตเซอร์วิส พาทรัมป์เข้าไปหลบในห้องหลบภัยใต้ดินของทำเนียบขาวเมื่อคืนวันศุกร์ เวลานั้นที่ลาฟาแยตสแควร์ฝั่งตรงข้ามทำเนียบขาว ผู้ชุมนุมที่ประท้วงความโหดร้ายของตำรวจต่อคนอเมริกันผิวดำกำลังปะทะกับตำรวจอย่างดุเดือดและวางเพลิงหลายจุด

    รายงานของฟอกซ์นิวส์กล่าวว่า ทรัมป์ลงไปบังเกอร์ใต้ดินในวันอาทิตย์ แต่เป็นในช่วงกลางวัน ไม่ใช่กลางคืนตามที่มีรายงาน และที่เขาลงไปนั้นก็ไปเพื่อ "ตรวจสอบ" สถานที่นั้น "เผื่อว่าวันใดวันหนึ่งคุณอาจจำเป็นต้องใช้มัน" ฟอกซ์อ้างคำพูดทรัมป์ "ผมอ่านข่าวนี้ ทำอย่างกับเป็นเรื่องใหญ่ มันไม่เคยมีปัญหาอะไร ผมไม่เคยมีปัญหา ไม่มีใครเข้าใกล้จนสร้างปัญหากับเราได้ ซีเคร็ตเซอร์วิสทำงานที่เหลือเชื่อในการควบคุมทำเนียบขาว"

    ข่าวที่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐรีบหนีไปหลบภัยในบังเกอร์ก่อกระแสล้อเลียนทางออนไลน์ โดยเชื่อกันว่าทำให้ทรัมป์ตัดสินใจจัดกิจกรรมเดินเท้าจากทำเนียบขาวข้ามสวนสาธารณะลาฟาแยตไปยังโบสถ์เซนต์จอห์นเมื่อวันจันทร์ เพื่อถ่ายภาพยืนถือพระคัมภีร์ไบเบิลหน้าโบสถ์ที่ได้รับความเสียหายบางส่วนจากการวางเพลิงเมื่อคืนวันอาทิตย์และการฉีดพ่นข้อความประท้วงบนกำแพง

    เพื่อให้ทรัมป์ได้เดินไปโบสถ์อย่างราบรื่น ตำรวจและสารวัตรทหารยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางขับไล่ผู้ประท้วงที่ชุมนุมกันอย่างสันติออกจากบริเวณนั้น ซึ่งเรียกเสียงประณามทั้งจากคริสตจักร, ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และคนในสังคมทั่วไป

    เมื่อวันอังคาร ทรัมป์ทวีตตอบโต้เสียงวิจารณ์เรื่องนี้ว่า พวกที่วิจารณ์เขานั้นคิดผิด ถ้าผู้ประท้วงมีความสันติจริง ทำไมพวกเขาจึงจุดไฟเผาโบสถ์ "ผู้คนชอบการเดินของผม" เขายังแสดงความปีติกับการรับมือของกรุงวอชิงตัน ซึ่งการใช้กำลังอย่างท่วมท้นและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ "วอชิงตัน ดี.ซี. เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดบนผืนปฐพีเมื่อคืนที่ผ่านมา"

    ในการแถลงที่ทำเนียบขาวก่อนเดินไปโบสถ์เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะส่งกำลังทหารติดอาวุธหนักเข้าควบคุมสถานการณ์ หากนายกเทศมนตรีหรือผู้ว่าการรัฐทั้งหลายไม่สามารถควบคุมการก่อจลาจลได้

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพุธอ้างคำกล่าวของมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติปราบจลาจลเพื่อวางกำลังทหารทั่วประเทศ "ผมเชื่อเสมอมา และยังคงเชื่อเช่นนี้ต่อไปว่า เนชันแนลการ์ดเหมาะสมที่สุดสำหรับให้การสนับสนุนภายในประเทศต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในสถานการณ์เหล่านี้"

    "ตัวเลือกที่จะใช้กองกำลังทหารประจำการควรใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย และใช้เฉพาะในสถานการณ์เร่งด่วนที่สุดและเลวร้ายมากเท่านั้น" เอสเปอร์กล่าวที่เพนตากอน "เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เหล่านั้นในตอนนี้"

    เมื่อวันอังคารซึ่งเป็นวันที่ 8 ของการประท้วง ผู้คนหลายหมื่นคนยังออกมาชุมนุมตามท้องถนนในเมืองต่างๆ ตั้งแต่ฝั่งตะวันออกเรื่อยไปถึงฝั่งตะวันตก แต่เกิดสถานการณ์รุนแรงน้อยลงกว่าวันก่อนๆ แม้จะมีรายงานว่าตำรวจยิงแก๊สน้ำตาขับไล่ผู้ประท้วงที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวในหลายเมืองและจับกุมไว้จำนวนมาก เช่น ที่นิวยอร์ก ซึ่งประกาศเคอร์ฟิวครั้งแรกนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยขยายเวลาไปถึงวันที่ 7 มิถุนายน มีคนถูกจับกุมเมื่อคืนวันอังคารอีกราว 200 ราย และลอสแองเจลีสก็มีผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวโดนจับกุมหลายราย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"