กลุ่มสิทธิพลเมืองยื่นฟ้อง'ทรัมป์'ไล่ม็อบทำเนียบขาว


เพิ่มเพื่อน    

กลุ่มสิทธิพลเมืองยื่นฟ้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากหน่วยความมั่นคงยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนพริกไทยขับไล่ผู้ชุมนุมอย่างสันติด้านนอกทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ เพื่อให้ทรัมป์ไปถ่ายรูปคู่กับโบสถ์ ขณะผู้นำด้านสิทธิระบุ "จอร์จ ฟลอยด์" เปลี่ยนแปลงโลก

    เมื่อวันพฤหัสบดี ที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ที่จอร์จ ฟลอยด์ ชายอเมริกันผิวดำโดนตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดลำคอจนขาดอากาศหายใจระหว่างโดนตำรวจควบคุมตัวเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ผู้คนนับพันคนร่วมพิธีรำลึกการเสียชีวิตของเขา โดยอัล ชาร์ปตัน ผู้นำนักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง ประกาศว่า การชุมนุมประท้วงของประชาชนจะเดินหน้าต่อไปจนกว่า "เราเปลี่ยนแปลงระบบความยุติธรรมทั้งระบบ"

    เวลาต่อมา ชาวอเมริกันเดินขบวนประท้วงอย่างสันติทั่วสหรัฐอีกครั้งตั้งแต่ฝั่งตะวันออกถึงฝั่งตะวันตก ที่นิวยอร์ก ผู้คนนับหมื่นเดินขบวนที่สะพานบรูกลิน ส่วนที่กรุงวอชิงตันและลอสแองเจลิส รัฐบาลท้องถิ่นยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว และจำนวนผู้ออกมาชุมนุมบางตาลง

    ที่มินนีแอโพลิส ทนายความของครอบครัวฟลอยด์ประกาศว่าเขาจะทวงถามความยุติธรรมให้เขา "ไม่ใช่ภาวะระบาดของไวรัสโคโรนาที่ฆ่าจอร์จ ฟลอยด์" เบนจามิน ครัมป์ ทนายความของครอบครัวฟลอยด์กล่าว "แต่มันเป็นภาวะระบาดอื่น ภาวะระบาดของการเหยียดเชื้อชาติสีผิวและการแบ่งแยกกีดกันเชื้อชาติ"

    ผู้เข้าร่วมพิธียืนสงบนิ่งไว้อาลัยนาน 8 นาที 46 วินาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีเร็ก โชวิน ตำรวจผิวขาว ใช้เข่ากดลำคอฟลอยด์ โดยมีผู้พบเห็นเหตุการณ์ถ่ายวิดีโอไว้ได้ ฟลอยด์ถูกตำรวจ 4 นายควบคุมตัวในวันนั้นฐานต้องสงสัยว่าใช้ธนบัตร 20 ดอลลาร์ปลอมซื้อบุหรี่

    การตายของฟลอยด์กระตุ้นโทสะที่ฝังแน่นยาวนานกรณีตำรวจฆ่าชาวแอฟริกันอเมริกัน และจุดชนวนการเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศ ก่อความไม่สงบรุนแรงที่สุดนับแต่การสังหารมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เมื่อปี 2511

    ศาสนาจารย์ชาร์ปตันวัย 65 ปีกล่าวว่า การตายของฟลอยด์จะไม่สูญเปล่า "ถึงเวลาที่เราจะลุกขึ้นยืนในนามของจอร์จ แล้วบอกว่าเอาเข่าของคุณออกจากคอพวกเรา" เขากล่าว "คุณเปลี่ยนแปลงโลกนะจอร์จ พวกเราจะต่อสู้กันต่อไป เราจะต่อสู้ไปจนกว่าเราเปลี่ยนแปลงระบบยุติธรรมทั้งหมด"

    วันเดียวกัน กลุ่มสิทธิพลเมืองในสหรัฐหลายกลุ่มยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากตำรวจและสารวัตรทหารใช้ระเบิดควันและกระสุนพริกไทยขับไล่ผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติด้านนอกทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ เพื่อเปิดเส้นทางให้ทรัมป์และคณะเดินจากทำเนียบขาวไปยังโบสถ์ของมหาวิหารเซนต์จอห์น เพื่อให้ทรัมป์ได้ถ่ายรูปคู่กับโบสถ์ที่ได้รับความเสียหายจากการก่อจลาจลวางเพลิง

    สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (เอซีแอลยู) และกลุ่มสิทธิอีกหลายกลุ่มกล่าวโทษประธานาธิบดีทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ติดตามเขาว่าละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของกลุ่มผู้รณรงค์เรียกร้องชีวิตคนดำมีความสำคัญและผู้ประท้วงคนอื่นๆ

    ทรัมป์ยังโดน ส.ว.ลิซา เมอร์คาวสกี จากพรรครีพับลิกัน วิจารณ์โดยบอกว่าเธอกำลังดิ้นรนต่อสู้กับความคิดที่ว่าควรสนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งสมัยที่ 2 หรือไม่ เมอร์คาวสกีเผยว่า เธอได้แรงบันดาลใจที่ออกมาวิจารณ์ผู้นำร่วมพรรค จากคำกล่าวของเจมส์ แมททิส อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ที่ระบุว่าทรัมป์เป็นประธานาธิบดีที่พยายามสร้างความแตกแยกในสหรัฐ แทนที่จะสร้างความเป็นเอกภาพ

    ขณะเดียวกัน ที่เมืองบัฟฟาโล มีตำรวจ 2 นายโดนพักงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน หลังจากมีวิดีโอเผยว่าทั้งคู่ผลักผู้ประท้วงสูงวัยคนหนึ่งล้มลงศีรษะกระแทกบาดเจ็บเลือดออกที่หูข้างหนึ่งและหมดสติ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"