กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

      บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้โอกาสเดินทางมาประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ ในการสนองนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมทั้งให้ตำรวจดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ทั้งการกวาดล้างยาเสพติด กลุ่มนายทุนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบ การพนันออนไลน์ หรือนายทุนที่รับจำนำรถในบ่อนการพนัน เพราะขณะนี้มีอาชญากรรมหลายอย่างที่กระทบต่อชีวิตพี่น้องประชาชน รวมทั้งกำชับตำรวจต้องสร้างความเชื่อมั่น โดยขอให้ตำรวจเป็นกลไกสำคัญในการทำงานวิถีใหม่ นิวนอร์มอล รวมไทยสร้างชาติ เน้นการทำงานโปร่งใส ลดขั้นตอนการปฏิบัติ ๐

            ต้องยกนิ้วชื่นชม "บิ๊กตู่" รู้ลึก รู้จริง โดยเฉพาะ "บ่อนพนัน" ที่ทุกพื้นที่ "เขียวทั้งกระดาน" ขนาดวันก่อนก็มีจดหมายจากผู้ใช้นามว่า "คนยานนาวา" ส่งมาร้องเรียนเรื่องบ่อนการพนันขนาดใหญ่ มีการเล่นพนันบาคาร่า กำถั่ว และอื่นๆ ทั้งบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ ใกล้ๆ สมาคมแต้จิ๋ว จุนักพนันได้เป็นร้อยคน รวมทั้งยังมีบ่อนจับยี่กี หวยปิงปองอีก 2 จุด คือ ในซอยจันทน์ 16 แยก 10 และแถวถนนเย็นจิต ใกล้สมาคมแต้จิ๋วเหมือนกัน เปิดเล่นกันอย่างเปิดเผย แถมผู้ร้องยังบอกเคยไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่ไม่เห็นมีการขยับอะไร ทั้งที่ปัจจุบันบ่อนพนัน การเล่นการพนันยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ได้ให้เปิดเสรีใดๆ อย่างไรฝาก พ.ต.อ.ประเดิม จิตวัฒนาภิรมย์ ผกก.สน.ยานนาวา พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ช่วยแวะเวียนไปตามที่มีประชาชนร้องเรียนให้ทีว่ามีจริงหรือไม่ คงไม่ต้องถึงมือ บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ที่มีงานเยอะแยะลงไปดูเองกระมัง ๐

            นี่ก็ไม่แปลกใจเหตุใด "นายกฯ บิ๊กตู่" ชมไม่ขาดปาก บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ขานรับนโยบายรัฐบาลปราบปรามผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแบบทันทีทันใด กำชับทุกพื้นที่เร่งกวาดล้างจับกุม พร้อมเปิดยุทธการ "ขุดรากถอนโคนหนี้นอกระบบ" กระทั่งพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ที่มี บิ๊กแซ็ก-พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ใช้เวลาเพียง 4 วัน ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 77 จุด จับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้ 4 กลุ่ม ทั้งแก๊งหมวกกันน็อกที่เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา, แก๊งปล่อยเงินกู้ออนไลน์, แก๊งรับจำนำรถแลกเงินกู้ และแก๊งทวงหนี้โหด ได้ผู้ต้องหา 147 คน ยึดของกลางเป็นโฉนดที่ดิน 27 ฉบับ รถยนต์ 71 คัน, รถจักรยานยนต์ 18 คัน, อาวุธปืน 6 กระบอก, เงินสดประมาณ 100,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวนกว่า 200 ล้านบาท ๐

            แบ่งปันน้ำใจต่อเนื่อง บิ๊กอวบ-พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตรอง ผบ.ตร.) ประธานที่ปรึกษาคณะกลุ่มเพื่อนตำรวจดนตรีสร้างโลก พร้อมด้วย พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา ผู้บังคับการกองสารนิเทศ เป็นตัวแทนมอบหน้ากากอนามัย, Face Shield และเจลแอลกอฮอล์ ผ่านโครงการส่งน้ำใจให้กับสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากสื่อมวลชนต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดประชาชนและคนจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับป้องกันตนเองพร้อมอยู่เสมอ โดยกลุ่มเพื่อนตำรวจดนตรีสร้างโลก บอกโครงการส่งน้ำใจมอบหน้ากากอนามัย, Face Shield และแอลกอฮอล์ สู้ภัย Covid-19 ที่ตั้งขึ้นมานั้น มีนโยบายที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีจิตอาสาและพันธมิตรผู้เดินทางสายเดียวกัน ร่วมกันบริจาคในการช่วยเหลือสังคม โดยจะนำของเหล่านี้ไปส่งมอบต่อให้กลุ่มคนอาชีพต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้...ชื่นชมๆ ๐

หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาฯ พื้นที่สร้าง “นิคมอาวุธ” ได้เล็งไว้ 2 แห่ง คือ ใกล้ๆ กับโครงการ “อีอีซี” จังหวัดชลบุรี และพื้นที่ทหารแถว อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี  ในที่สุด “บิ๊กป้ำ” พล.อ.นภนต์ สร้างสมวงษ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ออกมายืนยันว่า ด้วยความเหมาะสมประการทั้งปวง กระทรวงกลาโหมได้เลือกพื้นที่กว่า 3 พันไร่ที่ จ.กาญจนบุรี ตั้งไข่ “บิ๊กโปรเจ็กต์” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการนำร่องในเฟสแรกใช้พื้นที่ 1,034 ไร่ รองรับการย้ายหน่วยงานกองทัพบกเข้าไปก่อน เช่น โรงงานแบตเตอรี่จากย่านบางนา ผลิตแบตเตอรี่ประเภทกรดเพื่อความมั่นคงและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยตรง มีกำลังการผลิต 16,000 ลูก/ปี (ประชาชาติธุรกิจ 25 มิ.ย.2563) รวมถึงโรงงานอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) มีแผนร่วมทุนกับต่างประเทศ ส่วนที่เหลือก็ทยอยตามมา เช่น ยานยนต์หุ้มเกราะ ยานพาหนะช่วยรบ อากาศยานไร้คนขับ เครื่องสนาม เสื้อเกราะ ชิ้นส่วนอาวุธปืนเล็กยาว ปืนพก รวมทั้งการประกอบปืน เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงศูนย์ซ่อมบำรุงอาวุธ ขณะที่การผลิตวัตถุระเบิด กระสุน หรือใช้พื้นที่จังหวัดลพบุรีตามเดิม และให้บริษัทเอกชนย้ายมาอยู่ที่เดียวกัน..... แม้จะติดสถานการณ์โควิด-19 แต่โครงการยังเดินหน้าและเป็นรูปเป็นร่างก่อนสิ้นปี 2563 ตามนโยบาย แต่กระแสเสียงในเรื่อง ความเหมาะสมของพื้นที่ตั้ง ยังคงมีหลากหลายความเห็นที่แตกต่างกัน ๐

            “สงครามหอย” เป็นอีกบทพิสูจน์การทำงานของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) หรือ “กอ.รมน.ทางน้ำ” ที่รัฐบาลติดดาบด้วยกฎหมายให้หน่วยงานดังกล่าวเข้าไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์  ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศรชล. ลงตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างกลางทะเล อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังปัญหายังคาราคาซัง ย้ำชัดว่า "เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำ ขอให้ทุกท่านทุกคนจงตระหนักในข้อนี้ให้ดี บทบาทหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการใน ศรชล. ขอจงร่วมมือร่วมใจกันทำงานนี้เพื่อชาติให้สำเร็จ จงอย่าได้แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ขอให้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมายที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ตรงไปตรงมา อย่าได้เป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด " ....ฟังแล้วทีมที่ต้องแก้ไขปัญหาทั้ง พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ผอ.ศรชล.ภาค 2 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผอ.ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี คงฮึดแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง เพราะไฟเขียวผ่านตลอดจากรอง ผอ.ศรชล. ไม่ว่าใครหรือ “สีไหน” ก็ไม่น่าจะขวางได้ โดยเฉพาะ ศรชล.ที่เกิดขึ้นใหม่ ต้องเจอกับภารกิจหินๆ อีกมากมายในผลประโยชน์ของชาติ ในภาคของ “น้ำจืด-น้ำเค็ม” สงครามหอยจึงเป็นแค่จุดเริ่มต้นของหน่วย Coast  Guard” ของไทย ที่เป็นด่านหน้าชนกับผู้มีอิทธิพล สิ่งผิดกฎหมาย ภายใต้การทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ หรือหลงผิดให้ยอมรับในแนวทางการปฏิบัติด้วยกัน ๐

            ตชด. และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 (ฉก.ร.4) ร่วมจับอาวุธล็อตใหญ่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมส่งตัว 2 พ่อลูกที่อยู่ในบ้านที่พบอาวุธมาสอบที่กรุงเทพมหานคร “บิ๊กป๋อ” พล.ท. ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ยังไม่ฟันธง แต่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ จะเกี่ยวข้องกับการนำไปก่อความไม่สงบหรือไม่ เพราะอาวุธบางประเภท เช่น เอ็ม 79 ในอดีตก็เคยมีประวัติในการนำไปใช้ในการก่อเหตุในช่วงที่ผ่านมาหลายเหตุการณ์ หรือการนำอาวุธเพื่อไปแลกยาเสพติดหรือไม่ ขณะที่ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พุ่งเป้าให้เช็กเลขทะเบียนว่าตรงกับอาวุธที่หายไปช่วงการชุมนุมหรือไม่ แต่หากย้อนกลับไปจะพบข้อมูลว่าช่วงการชุมนุมของเสื้อแดงเมื่อปี 2553 มีการยึดอาวุธทหารไปไม่มากนัก โดยยึดแถวสะพานปิ่นเกล้า จากรถตรวจการณ์และกำลังพลของกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) และหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา จากรถสายพานลําเลียงพลแบบ ที-85 ของทหารม้าที่เข้าไปสนับสนุนกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ซึ่งได้คืนมาบ้างบางส่วนแต่ยังไม่ครบ ทว่าอาวุธที่ยึดได้ที่ อ.แม่สอด ค่อนข้างเป็นยุทโธปกรณ์ใหม่ และตรวจเช็กทะเบียนไม่ยาก น่าจะมีความชัดเจนในไม่ช้า ไม่เข้าตำราจัดฉากอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"