กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

       หากเป็นช่วงอื่นไม่ใช่เวลานี้ ที่ สีกากี กำลังโดนถล่มอย่างหนัก ทั้งจากการไม่คัดค้านการสั่งไม่ฟ้อง บอส กระทิงแดง ในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง  รวมทั้งบ่อนพนันพระราม 3 ที่เปิดเย้ยกฎหมาย จนเกิดเหตุยิงกันภายในบ่อน 4 ศพ และ 1 ใน 4 ศพเป็นตำรวจระดับ "สารวัตร" ด้วยนั้น ภาพ ผบ.แป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี พร้อมลูกน้อง เดินตากฝนมอบสิ่งของให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.สปพ.เพื่อเป็นการขอบคุณในการทำหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์และดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ณ  ลานจอดรถ สปพ.เมื่อเย็นวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา แม้ฝนจะตกหนักขนาดไหนก็ไม่หวั่น น่าจะได้รับเสียงชื่นชมจากสังคมถึง หัวใจ ของผู้บังคับบัญชาที่ใส่ใจดูแลลูกน้องอย่างเต็มที่ เหมือนเมื่อครั้งนั่งคลุกฝุ่นกินข้าวกับลูกน้องช่วงระดมกำลังช่วย 13 หมูป่า และการสยบจ่าคลั่งพร้อมควักกระเป๋าวางเงินจ่ายค่าน้ำ ค่าขนมให้ลูกน้องภายในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก แต่พอจังหวะมาชนคดีบอส-คดีบ่อนพระราม 3 จะตากฝนเปียกปอนอย่างไรก็ดูเหมือนกระแสชื่นชมในโลกโซเชียลจะไม่ขึ้น ๐

            ไม่รู้บังเอิญหรือเพราะสถานการณ์นำไป บิ๊กแป๊ะ เซ็นคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 416/2563  ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ให้ ผบ.ตร.เป็นผู้กำกับดูแลการบริหารราชการในงานกฎหมายและคดีด้วยตนเอง โดยมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) อีก 5 ท่านช่วยกำกับดูแล โดยกำชับสำหรับงานที่มีความสำคัญหรือประชาชนและสังคมให้ความสนใจ ให้ผู้ช่วย ผบ.ตร.เสนอให้ ผบ.ตร.เป็นผู้พิจารณาสั่งการ หลังจากเกิดปัญหาการไม่คัดค้านอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี บอส กระทิงแดง จน บิ๊กแป๊ะ ออกมายอมรับ "...5 ปีที่ผ่านมายอมรับ ผมไม่เคยสั่งคดีเลย ไม่เคยเซ็นเห็นแย้งเห็นพ้องคดีเลย และยอมรับไม่อายว่าแม้เป็น ผบ.ตร.แต่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ไม่รู้ พ.ร.บ.ทุกมาตรา สู้นักกฎหมายจริงๆ ไม่ได้" แต่ถ้าย้อนกลับไปดูหน้างานกฎหมายและคดีที่ ผบ.แป๊ะ ดึงมาดูแลเองนั้น ก่อนหน้านี้ รอง ผบ.ตร. ที่ได้รับมอบหมายให้คุมงาน คือ บิ๊กต้อย-พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ครั้งดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร. แต่พอเกิดเรื่องคลิปเสียงสนทนากับ ผบ.ตร. หลุด จนนำไปสู่การถูกคำสั่งสำรองราชการ ตร.  ทำให้หน้างานกฎหมายและคดีว่างลง ผบ.แป๊ะ เลยมาเสียบงานแทน บิ๊กต้อย โดยไม่ต้องให้ รอง ผบ.ตร. คนอื่นมาแบก 2 หน้างาน ๐

            นอกจากหน้างาน กฎหมายและคดี ที่ บิ๊กแป๊ะ เสียบแทนแล้ว ก็ยังเซ็นคำสั่งเลขที่ 0009.232/4302 เรื่องการดำเนินการในระหว่างข้าราชการตำรวจสำรองราชการ โดยให้ บิ๊กต้อย-พล.ต.อ.วิระชัย ช่วยราชการสำนักงาน ผบ.ตร. ตามมาตรา 10(1) แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ  พ.ศ.2547 เพื่อปฏิบัติหน้าที่อำนวยการและสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ตามที่ พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.และ ผอ.ศปก.ตร.มอบหมาย ทั้งนี้คำสั่งให้ บิ๊กต้อย ไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ตร. ยึดตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งสำรองราชการ ซึ่งเป็นการขาดจากตำแหน่งเดิม แต่ยังสามารถรับเงินเดือนตามปกติ และยังไม่มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบข้อกฎหมาย จึงมีคำสั่งดังกล่าวตามมา รวมทั้ง ผบ.ตร.ยังต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง นับตั้งแต่วันประจำหรือสำรองราชการ ตามมาตรา 104  ถึงจะเป็นคำสั่งที่สมบูรณ์และชอบด้วยกฎหมาย ๐

            น่าจะเป็นข่าวดีของเหล่าสีกากีทุกระดับที่รอลุ้น รอคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2563 เพราะสัญญาณที่ส่งตรงมาจาก บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม การแต่งตั้งตำรวจระดับ นายพล ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หรือเทียบเท่า-ผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2563 สิ้นเดือน ส.ค.นี้ทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อย ตรงตามกฎหมาย ตรงตามระเบียบ ที่กำหนดไว้ว่าการแต่งตั้ง นายพล ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ส.ค. และการแต่งตั้งระดับ นายพัน ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) - สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2563 ไม่ว่าใครจะมาเป็น ผบ.ตร. แทน ผบ.แป๊ะ ก็จะต้องทำบัญชีแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พ.ย. ตรงตามกฎหมาย ตรงตามระเบียบเช่นเดียวกับคำสั่งแต่งตั้ง นายพล ไม่มีขยาย ไม่มีเลื่อน ทุกอย่างต้องตรงตามกำหนด เหมือนกับการแต่งตั้งทหาร และการแต่งตั้งตำรวจในวาระปี 2562 ที่ผ่านมา ๐

            เป็นแนวทางของ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในการให้หน่วยเกี่ยวข้องไปศึกษารูปแบบการทดสอบร่างกายเพื่อการพร้อมรบ Army Combat Readiness Physical Test (ACRPT) ซึ่งเป็นรูปแบบการทดสอบร่างกายของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อนำมาทดสอบกับผู้บังคับหน่วยครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ชุดแรกเป็นหน่วยรบหลักทั้งราบม้าปืน นำโดย "ผู้การกัง" พ.อ.ณัฏฐพงศ์ อัศวินวงศ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 112 (ผบ.ร.112) หรือกรมสไตรเกอร์ "ผู้การอาร์ม" พ.อ.โกญจนาท ธูปเทียนรัตน์ ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ (ผบ.ม.5รอ.) จึงพลาดไม่ได้ที่ "บิ๊กแดง" จะร่วมแจมในการทดสอบหลายสถานี โดยเฉพาะสถานีโหนยกเข่าแตะศอก ยกได้จำนวน 8 ครั้ง จากนั้นได้มาร่วมทดสอบท่าลุกนั่งได้ 66 ครั้ง และดันพื้นได้ 47 ครั้ง โยนบอลยางได้ระยะ 6.10 เมตร โชว์ความฟิตในวัย 60 ปี ก่อนที่จะมีการทดสอบร่างกายของนายทหารระดับชั้นนายพลในกองบัญชาการกองทัพบกวันที่ 19 ส.ค.นี้

            คงเริ่มชัดเจนขึ้นแล้วสำหรับ "โผทหาร" หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาชื่อของว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่ พลิกไปพลิกมาระหว่าง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก กับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เนื่องด้วยปัญหาการเกลี่ยตำแหน่ง-แบ่งเค้กระหว่างรุ่น 20-21-22 ไม่ลงตัว การปรับระดับหัวจึงอาจกลายเป็นอีกหนึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหา ประกอบกับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ผลักดัน พล.อ.ณัฐพล ซึ่งทำงานเข้าตามาตั้งแต่ยุคที่ตนเองดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. จนปัจจุบันมาเป็นนายกฯ ก็ยังหนุนเนื่องช่วยงานภารกิจของรัฐบาลอย่างเต็มกำลัง สมการจัดทัพในการจัดทำโผจึงต้องเขย่าชื่อกันหลายรอบภายใต้โจทย์ "จำเป็นต้องเป็นคอแดงหรือไม่?" สำหรับ "เดดไลน์" อย่างเป็นทางการที่ 7 เสือบอร์ดโยกย้ายกลาโหมจะประชุมกันในวันที่ 21 ส.ค.นี้ เพื่อลงนามรับรองรายชื่อทั้งหมด คงเป็นเรื่องทางนิตินัยเพราะวงในเคาะชื่อกันจบหมดแล้ว

            ยังไม่นับตำแหน่งใน 5 เสือ ทบ.ที่มีชื่อแม่ทัพภาคเข้ามาเป็นแคนดิเดตในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ไล่ตั้งแต่ พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 เตรียมทหารรุ่น 22 ( ตท.22) พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 (ตท.20) พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3  (ตท.20) พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 (ตท.20) ซึ่งในโค้งสุดท้ายชื่อของ พล.ท.ธรรมนูญ   และ พล.ท.พรศักดิ์ น่าจะมีภาษีเข้ามานั่งเก้าอี้ 5 เสือ ทบ. โดยแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธัญญาอาจต้องนั่งในตำแหน่งต่อไปอีก 6 เดือน ตามแผนที่ชีวิตที่ "บิ๊กเยิ้ม" พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2   เพื่อน ตท.12 ของนายกฯ กับ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  วางไว้ เพราะอีสานยังเป็นพื้นที่ "ฮาร์ดแลนด์" ทางการเมือง และกำลังจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในต้นปีหน้า การใช้ม้าศึกที่เคยคุมสภาพพื้นที่ได้อยู่หมัดก็จะทำให้รัฐบาลอุ่นใจได้มากขึ้น.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"