ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มการเดินสายหาเสียงในรัฐสมรภูมิด้วยการโจมตีคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอย่างมันปากเมื่อวันอังคาร ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าทุนหาเสียงกำลังร่อยหรอและเขาอาจต้องใช้เงินส่วนตัวเพื่อให้ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปราศรัยหาเสียงที่เมืองวินสตัน-ซาเลม รับนอร์ทแคโรไลนา เมื่อวันอังคาร

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 9 กันยายน กล่าวว่า ประธานาธิบดีมหาเศรษฐีของสหรัฐตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารเกี่ยวกับการใช้เงินส่วนตัวในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีว่า หากต้องทำเช่นนั้น เขาก็จะทำ "ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร ผมต้องชนะให้ได้" ทรัมป์กล่าวถึงการเอาชนะอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน

    วันเดียวกันนั้น ทรัมป์เดินทางไปหาเสียงที่รัฐฟลอริดาและนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นสองรัฐสมรภูมิที่สามารถพลิกผันได้ ในการปราศรัยต่อผู้สนับสนุนที่เมืองวินสตัน-ซาเลม รัฐนอร์ทแคโรไลนา ทรัมป์ให้ความเพลิดเพลินแก่ฝูงชนด้วยการเล่นมุกตลก, แดกดัน และคุยโม้โอ้อวดเกินจริงตามเครื่องหมายการค้าของเขา ทรัมป์บอกว่า ไบเดนจะนำ "ม็อบหัวรุนแรง" และเศรษฐกิจตกต่ำชนิดที่พวกคุณไม่เคยเห็นมาก่อน

    ขณะที่ ส.ว.คามาลา แฮร์ริส คู่หูของไบเดนในตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดนทรัมป์กล่าวโจมตีอย่างดุเดือดยิ่งกว่า โดยบอกว่า พวกคุณรู้อะไรมั้ย ผู้คนไม่ชอบเธอ ไม่มีใครชอบขี้หน้าเธอ เขาเหมือนจะจงใจออกเสียงชื่อต้นของแฮร์ริสผิด ซึ่งเป็นนิสัยปกติของพวกฝ่ายขวาและมักถูกตีความว่าเป็นวิธีการแสดงออกถึงการดูถูก

    "เธอไม่มีทางได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก เพราะนั่นจะเป็นการดูถูกประเทศของเรา" เขากล่าวถึง ส.ว.หญิงที่เคยเป็นอัยการรัฐแคลิฟอร์เนียที่ต้องการสร้างประวัติศาสตร์เป็นรองประธานาธิบดีหญิงผิวดำคนแรกของสหรัฐ

    แม้จะแสดงท่าทีดุดันเช่นนี้ แต่เบื้องหลังการหาเสียงของทรัมป์กำลังประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากทุนหาเสียงร่อยหรอ รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ปี 2562 ทรัมป์ใช้เงินไปราว 800 ล้านดอลลาร์ในการหาเสียง ซึ่งมากกว่าของไบเดนเกิน 2 เท่า

    ส่วนไบเดน ซึ่งเริ่มต้นการต่อสู้เข้าสู่ทำเนียบขาวอย่างเชื่องช้าและได้ทุนสนับสนุนน้อย ทำให้หลายคนประหลาดใจเมื่อเขาสามารถระดมทุนแซงหน้าทรัมป์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่ 365 ล้านดอลลาร์ ทำลายสถิติการระดมทุนหาเสียงรายเดือนเท่าที่เคยมีมา

    ตอนนี้ทรัมป์จะต้องหาทุนเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากการเดินทางหาเสียงมากขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเหนืออื่นใดคือค่าซื้อพื้นที่โฆษณาหาเสียง

    รายงานของนิวยอร์กไทมส์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาพุ่งเป้าที่การใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายภายใต้การนำทีมหาเสียงของแบรด พาร์สเกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อโฆษณาทางโทรทัศน์ระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอลซูเปอร์โบล ซึ่งรายงานกล่าวว่าใช้งบไปถึง 11 ล้านดอลลาร์

    ทรัมป์โพสต์ทางทวิตเตอร์ กล่าวถึงปัญหาทุนหาเสียงของเขาว่าเป็นความผิดของสื่อ เพราะเขาถูกบีบบังคับให้ต้องใช้จ่ายเพื่อตอบโต้ข่าวปลอม
    สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์เจอแต่ข่าวใหญ่ในแง่ลบ โดยเฉพาะการโดนนิตยสารดิแอตแลนติกเปิดโปงว่า เขามักกล่าวถึงทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในการทำสงครามว่าเป็นพวกขี้แพ้และโดนหลอกง่าย ทำให้ทำเนียบขาวต้องตอบโต้ดิสเครดิตข่าวนี้อย่างจ้าละหวั่น.