"“หมอธี” เผยสาเหตุต้องเพิ่มอำนาจ คกก.สืบข้อเท็จจริงทุจริตอควาเรียม เพื่้อให้การสืบสวนมีความรัดกุมตรงประเด็น อุดช่องโหว่ เข้าถึงข้อมูลสัญญา4ฉบับที่มีการแก้ไข  รวมทั้งเสริมทีมกฎหมายเพิ่มเติมเข้าไปอีกเพื่อให้การทำงานประสิทธิภาพ ย้ำไม่อยากกดดันแม้จะตั้งกรอบไว้ต้องเสร็จภายในเดือนเม.ย. แต่คาดภายในสัปดาห์นี้ได้รายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องแน่ เพื่อดำเนินการ ตั้งคกก.สอบสวนวินัยร้ายแรง หรือ ใช้มาตรการ คสช.

นพ.ธีระเกียรติเจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการก่อสร้างโครงการสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามในคำสั่ง ศธ. ที่ 250/2561 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการนี้ใหม่ ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่การกำหนดฐานอำนาจกฎหมายในการตรวจสอบโครงการ รวมถึงการโยกกรรมการชุดเดิมบางรายมาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และเพิ่มกรอบอำนาจหน้าที่คณะกรรมการให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการทุจริตพิจารณาให้ความเห็นบุคคลที่อยู่ในข่ายกระทำความผิด ทั้งในส่วนข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่เกษียณอายุและบุคคลทั่วไปด้วย ทั้งนี้ ในส่วนรายชื่อคณะกรรมการภายใต้คำสั่งใหม่ นั้น ยังมี นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการเช่นเดิม ซึ่งการปรับแก้ไขคำสั่ง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการสอบสวน และกรรมการบางคนได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว เพราะตามกฎหมายจะไม่มีอำนาจสอบสวน อีกทั้งยังเพิ่มขอบเขตการตรวจสอบในประเด็นการขยายงวดงานของการก่อสร้างให้มีความเข้มข้นและชัดเจนมากขึ้น 

“การเปลี่ยนแก้ไขคำสั่งดังกล่าวไม่ได้มีนัยพิเศษอะไร แต่ทำตามข้อแนะนำจากทีมกฎหมายของผมที่ต้องการให้การสืบสวนเรื่องนี้มีความรัดกุมตรงประเด็น และอุดช่องโหว่ของกรรมการชุดนี้ รวมถึงเสริมทีมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะได้ให้การสืบสวนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนกรอบระยะเวลาผมไม่อยากกดดันแม้จะตั้งกรอบไว้แล้วว่าจะต้องเสร็จภายในสิ้นเดือนเมษายน แต่จากการสอบถามประธานสืบข้อเท็จจริงก็มีหลายประเด็นที่ยังต้องค้นหาหลักฐานให้แน่ชัด ดังนั้นผมจึงให้นโยบายไปว่าต้องทำให้เร็วเพราะเป็นที่สนใจของสังคม ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงจะต้องส่งรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาให้ผมได้แล้วเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไปไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หรือ ใช้มาตรการ คสช.” รมว.ศธ.กล่าว 

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกระบวนการเช่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตของระบบ MOENet ศธ.นั้น ขณะนี้ตนได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ให้เข้ามาดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว เนื่องจากหมดอำนาจหน้าที่การสืบสวนและสอบสวนของ ศธ.แล้ว เพราะผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว อีกทั้งได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับข้าราชการระดับ 8 ศธ.จำนวน 2 รายแล้ว กรณีที่พยายามติดสนบนรอง ปลัดศธ. เพื่อให้เซ็นขยายเวลาการเช่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตระบบ MOENet ศธ.