'วัฒนา' โผล่หนุนไอเดีย 'หน่อย' ออกกฎหมายรองรับการเจรจาม็อบ 3 นิ้ว

28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 17:06 น.

28 พ.ย.63 - นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าตามรายงานของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ณ 30 กันยายน 2563 ไทยมีหนี้สาธารณะคงค้าง 7.848 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49.35 ของจีดีพีที่ประมาณการไว้ 15.901 ล้านล้านบาท โดยในปี 2564 มีแผนจะก่อหนี้อีก 1.47 ล้านล้านบาท อันจะทำให้หนี้สาธารณะพุ่งไปที่ 9.2 ล้านล้านบาท ซึ่งหากปีหน้าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวจะทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงถึงร้อยละ 57.86 หรือเกือบร้อยละ 60 อันเป็นเพดานสูงสุดที่จะก่อหนี้ได้ตามกรอบความยั่งยืนทางการคลัง

การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการ โดยจะต้องเริ่มจากการบริโภคภายในอันเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวแรกที่จะต้องจุดให้ติด ตามมาด้วยการท่องเที่ยวเพื่อนำเงินได้เข้าประเทศซึ่งต้องอาศัยปัจจัยทางการเมืองเป็นหลัก เพราะหากการเมืองมีความตึงเครียด หรือเกิดการชุมนุมทางการเมืองบ่อยแบบที่กำลังเป็นอยู่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน นักลงทุน และนักท่องเที่ยว ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปได้ยากเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจของประเทศ

แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือความขัดแย้งทางการเมืองมีอยู่จริงและยังไม่เคยได้รับการแก้ไข การชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นคือหลักฐานของความขัดแย้งที่รัฐบาลต้องรับฟังและหาทางออกให้ทุกฝ่าย แต่ไม่ใช่ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อหรือการเข็นม็อบมาเผชิญหน้ากันเพราะนั่นคือการเติมเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งให้เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือการแสดงความจริงใจที่พร้อมจะรับฟังและแก้ปัญหาให้กับผู้ชุมนุมโดยใช้กลไกในระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือ
โดยที่บ้านเมืองอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน เราอยู่ในระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะทำให้ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

ผมจึงเรียกร้องให้รัฐบาลเป็นฝ่ายเริ่มต้นแสดงความจริงใจด้วยการออกกฎหมายมารองรับการเจรจาที่รัฐสภากำลังจะจัดขึ้นตามแนวทางที่คุณหญิงสุดารัตน์เคยนำเสนอ เพื่อให้เป็นเวทีปลอดภัยที่ทุกฝ่ายจะนำเสนอปัญหาของตนและเป็นหลักประกันว่าข้อเสนอที่เห็นพ้องร่วมกันจะถูกนำไปปฏิบัติโดยมีกฎหมายรองรับ เพราะการยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจำเป็นต้องอาศัยกลไกของรัฐสภา

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ควรนำกลับไปสู่วังวนของความขัดแย้ง เช่น การให้ ส.ว. ยังมีสิทธิเลือกนายก เป็นต้น ทั้งหมดคือต้นตอของความขัดแย้งที่จะต้องช่วยกันยุติเพื่อเป็นทางออกของประเทศ.