กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

 

     เห็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2564 จากใจตำรวจไทยแด่ประชาชน ทั้ง 6 โครงการ ที่ ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากี เชิญ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มาตัดริบบิ้นโครงการอย่างเป็นทางการ เมื่อสายๆ วันศุกร์ที่ผ่านมาแล้วก็ ต้อง อมยิ้ม ร้องอื้อฮือ...ของขวัญให้ประชาชน ก็ยังดีกว่า "ตำรวจ" ไม่ทำอะไรเลย ไล่ดูทั้ง 6 กล่องของขวัญที่แกะออกมามี 1.ด้านป้องกันอาชญากรรม ได้แก่ โครงการฝากบ้าน  4.0 ซึ่งพัฒนามาจากโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ โดยนำเอาเทคโนโลยีที่เรียกว่า ระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ในการเก็บข้อมูล ประมวลผล และนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน ผ่านทางแอปพลิเคชัน OBS ที่มีการใช้ระบบ QR Code ในระบบการตรวจ การควบคุมการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชา และมีการส่งผลให้ประชาชนเจ้าของบ้านโดยทันที เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาดูแลบ้านที่ฝากไว้ในโครงการ ๐

            ส่วน 2.ด้านอำนวยความยุติธรรม ได้แก่ โครงการนัดหมายแจ้งความออนไลน์ เป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการนัดหมายแจ้งความล่วงหน้าบางคดีผ่านทางเว็บไซต์  เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อมาแจ้งความร้องทุกข์หรือสอบปากคำ จะได้ไม่เสียเวลาในการรอเข้าพบ ซึ่งมีหน่วยงานนำร่อง (Pilot Project) ได้แก่ สน.ลุมพินี,  สน.ปทุมวัน และ สน.บางรัก 3.ด้านสร้างองค์ความรู้ ได้แก่  ภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งเป็นการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ เช่น Viral Video และ Infographic  เป็นต้น เพื่อสร้างการรับรู้ถึงกลโกงของกลุ่มมิจฉาชีพที่หวังฉวยโอกาส โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือ  4.ด้านสืบสวนจับกุมคนร้าย ได้แก่ โครงการ CCTV ระวังภัยในเมือง เป็นการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV จำนวน  9,138 ตัว ในพื้นที่เสี่ยงในเขตกรุงเทพมหานคร 5.ด้านอุ่นใจการเดินทาง ได้แก่ โครงการเทศกาลเดินทางปลอดภัย ในการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นต้น รวมถึงการชำระค่าปรับจราจรออนไลน์ และการตั้งจุดตรวจตามแนวทางโปร่งใส ตรวจสอบได้  และเกิดประสิทธิภาพในการป้องกันภัยบนท้องถนน และ 6.ด้านสวัสดิการกำลังพล ได้แก่ โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจ ซึ่งจะมีการลงนามความร่วมมือกับสถาบันการเงิน ในการลดดอกเบี้ย รวมหนี้สิน แล้วโอนหนี้ไปสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจ ๐

            แกะกล่องของขวัญทั้ง 6 ข้อก็ต้องชื่นชมที่ ตำรวจ พยายามให้ ของขวัญประชาชน เพียงแต่พลิกซ้าย พลิกขวา  ถ้าจะเพิ่ม ของขวัญ ในการให้คำมั่นสัญญาครั้งนี้ ว่าต่อไปจะไม่เห็นภาพ ไม่เห็นพฤติกรรม สีกากีนักรีด หรือ หัวปิงปองจอมไถ ก็น่าจะทำให้ประชาชนดีใจเพิ่มขึ้น เหมือนกับที่ บิ๊กตู่ ได้ย้ำกับระดับ บิ๊กๆ สีกากี ในวันเปิด โครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2564 จากใจตำรวจไทยแด่ประชาชน บอก "...ความพึงพอใจของประชาชนมีความแตกต่างกันออกไปจากทุกกลุ่มทุกฝ่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือความจำเป็นที่ต้องรักษากฎหมายเอาไว้อย่างชัดเจน ต้องทำ ต้องใช้กฎหมายให้โปร่งใส สุจริต และเป็นธรรม ผ่านเทคโนโลยี และขอประชาชนอย่าทำอะไรที่ตามใจในตัวเองมากเกินไป เพราะหลายอย่างมีกฎหมายอยู่ สังคมต้องมีกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีวิจารณญาณ หากผิดกฎหมายจริงๆ ไม่สามารถละเว้นได้..." ถ้าเหล่าสีกากีน้อยใหญ่ทำได้อย่างที่ บิ๊กตู่ เน้นย้ำไว้ ต่อไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีทางถูก ก้อนอิฐ ปา จะมีแต่ได้รับ ดอกไม้ จากประชาชนหอมหวนทุกวัน ๐

            ไม่เสียแรงที่ได้รับฉายาจากสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เด่น เป็นงาน สำหรับ  บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ที่ตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร. ติดยศ พล.ต.อ. เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งได้รับมอบหมายดูแลงาน ความมั่นคง ก็ดูเหมือน บิ๊กเด่น จะลุยงานทุกวัน ล่าสุดนั่งหัวโต๊ะศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศเตรียมพร้อมปฏิบัติการ ในการอำนวยความสะดวกการจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุ จำนวนกว่า 80,000 นาย ช่วงหยุดยาวระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 - 4 มกราคม 2564 แบบนี้หลังปี  2565 หากไม่มีรายการ ฟ้าผ่า! กรมปทุมวัน โอกาสสืบทอดเก้าอี้เบอร์ 1 มีสูง....ปรี๊ด ๐

            จากนโยบายเป็นมอตโตของ บิ๊กบี้-พล.อ.ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่เผยแพร่ให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกนำไปเป็นเข็มนำทางให้กำลังพลยึดมั่น นั่นก็คือ พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน มาสู่แนวทางคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ระบบตั้งแต่ต้นน้ำ นอกจากเรื่องการคัดกรอง เรื่องทัศนคติ และอุดมการณ์ที่ต้องสอดคล้องกับนโยบายของ ผบ.ทบ.ที่มีอายุราชการของผู้นี้แล้ว ยังต้องเป็นการเปิดกว้าง และให้โอกาสเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่มีศักยภาพในการเข้าถึงสถาบันการศึกษาทางทหาร จึงริเริ่มเปิดระบบ โควตา ให้ผู้เรียนดีแต่ยากจน ในพื้นที่ห่างไกล โดยจะเริ่มครั้งแรกในปีการศึกษานี้

            เริ่มที่การคัดสรรบุคคลเข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยทุกปีจะเปิดรับสมัครนักเรียน นักศึกษา เพื่อสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพบกตามคุณสมบัติที่ทางราชการกำหนด โดยที่ผ่านมามีนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่มีความรู้ความสามารถ แต่มีข้อจำกัดในเรื่องเศรษฐกิจและการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ขาดโอกาสที่จะสมัครเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ประกอบกับกองทัพบกต้องการคัดสรรนักเรียนที่เรียนเก่งในระดับแนวหน้าของจังหวัดเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนากองทัพ จึงเป็นที่มาของการจัดสรร โควตาแบบเฉพาะกลุ่ม ให้แก่เยาวชนที่มีผลการเรียนดีเยี่ยม และเยาวชนในพื้นที่พิเศษและห่างไกล

            โดยการสอบคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารแบบเฉพาะกลุ่ม กองทัพบกจะเปิดโอกาสให้เยาวชน 2 กลุ่มเข้ารับการสอบคัดเลือก ประกอบด้วย เยาวชนผู้ที่มีผลการศึกษาและมีลักษณะทหารดีเยี่ยมของแต่จังหวัด จังหวัดละ 1 นาย และเยาวชนผู้ที่อาศัยและศึกษาในพื้นที่พิเศษ ห่างไกล ทุรกันดาร  การสอบคัดเลือกแบบเฉพาะกลุ่มจะเปิดรับสมัครทางออนไลน์ที่ www.crma.ac.th ตั้งแต่ 28 ธ.ค.63 - 15 ม.ค.64 และกองทัพภาคจะดำเนินการสอบภาควิชาการในพื้นที่เพื่อความสะดวกของนักเรียน โดยกองทัพบกยกเว้นค่าสมัครสอบ และมอบให้หน่วยทหารช่วยอำนวยความสะดวกแก่เยาวชน เช่น  การยื่นสมัคร, การเดินทางมาสอบ ทั้งนี้ผู้ที่ไม่ผ่านการสอบในแบบกลุ่มเฉพาะยังสามารถไปสมัครสอบในภาพรวมรอบปกติได้อีกครั้ง

            ดำรงความมุ่งหมายในการฝึกร่วมผสมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ไทย-สหรัฐฯ คอบราโกลด์ 2021 ได้ข้อสรุปในการปรับช่วงเวลาออกเป็น 2 เฟส ลดแออัดเสี่ยงโควิด-19 โดยการประชุมผู้บัญชาการทางทหารที่มี บิ๊กแก้ว-พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุดเป็นประธาน แจ้งแนวทางการฝึกคอบราโกลด์ให้ ผบ.เหล่าทัพได้รับทราบ ที่เป็นวงรอบการฝึกแบบ "ไลต์เยียร์" มีประเทศที่เข้าร่วมการฝึก 30 ประเทศ   โดยแบ่งการฝึกออกเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟส 1 ช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.64 เป็นการฝึกฝ่ายเสนาธิการโครงการช่วยเหลือประชาชน และการฝึกบรรเทาสาธารณภัย ส่วนเฟสที่ 2 เป็นการฝึกในช่วงเดือน ส.ค.-ธ.ค.64 จะเป็นการฝึกภาคสนามและการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง

            ปิดท้ายด้วยประกาศของกรมกำลังพลทหารบก ทบ.  จากนโยบายของ ผบ.ทบ.ปัจจุบัน ที่สานต่อแนวทางของ บิ๊กแดง-พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.คนก่อน "5 ได้ - 7  ไม่" อ้างอิงจากข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยข้าราชการกลาโหมกับการเมือง พ.ศ.2499 และคำสั่งกองทัพบกที่ 388/2563 ลง 9 ก.ย.63 หลักๆ คือ การแยกแยะระหว่าง ความเห็นส่วนตัวและจุดยืนทางการเมืองในฐานะประชาชน  และเมื่ออยู่ในเครื่องแบบทหารและหน่วยทหาร ควรจะวางตัวอย่างไรไม่ให้กระทบต่อสถาบัน กองทัพ และผู้บังคับบัญชา โดยจัดทำเป็นโปสเตอร์ประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน. 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"