กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

 

  น่าจะเป็นช่วง พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ของ บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่เข้ามานั่งกุมบังเหียน "กรมปทุมวัน" แค่เพียง 3 เดือนนิดๆ ก็เผชิญแรงกดดันจากสังคมอย่างหนัก เพราะต้นเหตุการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ล้วนมี "ตำรวจ"  เอี่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็น บ่อนพนัน ในพื้นที่ภาคตะวันออก ผู้ติดเชื้อโควิดล้วนมีไทม์ไลน์จาก บ่อนพนัน นับร้อยราย ไม่ว่าจะเป็นบ่อนพนันจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด เรียกว่า บ่อนพนัน เกลื่อนกลาดประดุจ ลาสเวกัส ตอกหน้า ตำรวจ ผู้รักษากฎหมายบ้านเมืองอย่างไร ถึงปล่อยปละละเลยให้บ่อนเยอะแยะทุกตรอกซอกซอยเช่นนี้ จนสังคมอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ตำรวจ มีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ อย่างไร และใครได้รับประโยน์กันบ้าง ตอกย้ำไปถึงการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ที่ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ลงไปตรวจสอบการขนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี แล้วพบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจริงจำนวน 33 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 คน ที่สำคัญมีทั้งระดับสัญญาบัตรจนถึงชั้นประทวน ตำแหน่งสูงสุดถึง รองผู้บังคับการ  ยศ พ.ต.อ. ก็ยิ่งถาโถมโหมกระหน่ำเก้าอี้ พิทักษ์ 1 เข้าไปอีก ๐

            ภายนอกก็งามหน้าแล้วทั้งปล่อยบ่อนเกลื่อนเมือง เข้าไปหากินขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศจนชาวบ้านส่ายหน้า ภายใน สีกากี กันเองก็ยังมีการทำนาบนหลังพวกเดียวกันเอง เมื่อผลการสอบสวนทางวินัยกรณีทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ที่ บิ๊กหิน-พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบมีผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 189 นาย  เป็นระดับนายพล 5 นาย ระดับ พ.ต.อ. 48 นาย ก็ยิ่งตอกย้ำความเน่าเฟะ ขยะใต้พรม ที่หากไม่มี ลูกน้อง โวยวาย  ไม่มีโซเชียลตีแผ่ การกดขี่ หากินกับลูกน้องของผู้บังคับบัญชาก็จะยังคงอยู่ นี่แค่เรื่องเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 เท่านั้น ยังมี "ผู้บังคับบัญชา" เข้าไปอมเงินลูกน้องขนาดนี้ ถ้าลงไปดูเงินเบี้ยเลี้ยงอื่นๆ อีกจิปาถะ ทั้งเงินสืบสวน เงินยาเสพติด  เงินค่าสายตรวจ เงินค่าจับคดีค้างเก่า และเงินอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีรายการ หักหัวคิว มีรายการ เงินทอน จากทุกระดับ หาก บิ๊กปั๊ด ตั้งใจกวาดบ้าน ล้างระบบกันแบบจริงๆ จังๆ ก็ต้องมีมาตรการเด็ดขาดออกมา เฆี่ยน พวกทำนาบนหลังลูกน้อง ที่สำคัญควรประเดิม เชือดไก่โชว์ลิง ให้รู้ว่าเอาจริง ๐

            ช่วงนี้ดูเหมือนพื้นที่ บช.ภ.2 จะมีแต่เรื่อง มีแต่ราว  นอกจาก บ่อน ต้นตอการแพร่ระบาดโควิดแล้ว การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ รองสารวัตร (รอง สว.) - ผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) วาระประจำปี 2563 ที่อยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ม.ค. ตามระเบียบคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก็เริ่มมีความไม่สบายใจในหมู่ชั้นประทวน ที่ทำหนังสือขอย้ายกลับบ้าน มีข่าวลือให้อกสั่นขวัญหายว่าผู้บังคับบัญชาไม่อนุมัติคำขอย้ายกลับบ้านที่ข้ามภาคทุกนาย โดยอ้างกฎเหล็ก ผบ.ปั๊ด ข้อ 9 ที่ระบุ "ให้หน่วยพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยคำนึงถึงจำนวนข้าราชการตำรวจในทุกสายงานให้มีเพียงพอกับปริมาณงานในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปฏิบัติในสถานีตำรวจ ซึ่งจะต้องอำนวยความยุติธรรมทางอาญาและให้บริการประชาชน โดยต้องให้มีกำลังพลเพื่อเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

            อย่างไรก็ดี เมื่อ ผู้บังคับบัญชา ยกกฎเหล็กข้อ 9 ขึ้นมาเป็นเงื่อนไข ลูกน้อง ก็หยิบยกกฎเหล็ก "ผบ.ปั๊ด" ข้อ 10 ที่ระบุ "ให้หน่วยพิจารณาให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในกรณีร้องขอกลับภูมิลำเนาหรืออุปการะครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจในการที่จะปฏิบัติหน้าที่และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวด้วย สำหรับหน่วยซึ่งมีพื้นที่พิเศษหรือเสี่ยงภัยให้พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจสับเปลี่ยนหมุนเวียน เพื่อฟื้นฟูกำลังพลตามความจำเป็น โดยให้กระทบต่อข้าราชการตำรวจรายอื่นให้น้อยที่สุด" ถือเป็นการยกเหตุผลขึ้นมาปรียบกันคนละมุม คงต้องอยู่ที่ บิ๊กรอย-พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรักษาการ ผบช.ภ.2 จะให้น้ำหนักมุมไหนในการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่ ที่เหล่าสีกากีชั้นผู้น้อยกำลังรอลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ ๐

            น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องทำงานหนักในช่วงนี้  และอย่างที่ บิ๊กบี้-พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บอกว่า เรื่องเจ้าหน้าที่รับส่วยขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เป็นการพูดกันปากต่อปากระหว่างชาวบ้านร้านตลาด ไม่มีหลักฐานในการไปเอาผิดเจ้าหน้าที่ได้ แต่ในแง่การข่าวนั้นเชื่อได้ว่า  เครือข่ายขบวนการใหญ่ นี้อยู่ในการรับรู้ของฝ่ายความมั่นคงหมดแล้ว รวมถึงข้อมูลเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ หนอนบ่อนไส้ แจ้งความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ตามที่ พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่ากำลังเฝ้าดูพฤติกรรมเชิงลึก แต่ขณะนี้การเคลื่อนไหวของเหล่าผู้มีอิทธิพล รวมถึงเจ้าหน้าที่เหล่านี้อยู่ในช่วงกบดาน ไม่กล้าขยับทำกิจกรรมขนส่งมนุษย์ โดยมีชาวเมียนมาที่รอการขนส่งตกค้างพร้อมส่งอีกหลายร้อยคน

            การกดดันของฝ่ายไทยจึงไม่ได้ทำแค่จัดการขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ต้องทำความเข้าใจกับผู้ ออเดอร์ ปลายทางที่เลือกใช้แรงงานเถื่อน และสำคัญคือต้นทาง นั่นก็คือประเทศเพื่อนบ้านของเรา ต้องให้ความร่วมมืออย่างจริงใจด้วย ไม่ขยิบตาให้เหล่าแม่ทัพนายกองของเขาหากินกันแบบข้ามชาติ และหากปรากฏการณ์ชายแดนที่เกิดขึ้นกับเมียนมาช่วงนี้ เกิดจากการประสานงานด้วยความใกล้ชิดของรัฐบาลสองประเทศ  ก็เชื่อว่าปฏิกิริยาตอบโต้ตามแนวชายแดนเมียนมาคงน่าเป็นห่วง จึงไม่แปลกถ้า พล.ท.อภิเชษฐ์จะสั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 4 (ฉก.ร.4) ซึ่งรับผิดชอบดูแลชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นับแต่ผู้นำทางทหารของเมียนมาสั่งการให้ 3 ผู้นำกองกำลัง BGF จำนวน 3 นายลาออกจากราชการ คือ  พ.อ.หม่อง ชิต ตู่ เลขาฯ กกล.BGF พ.ต.เมาะ โตง ผบ.พัน.1022 กกล.BGF และ พ.ต.ตื่น วิน ฝ่ายเศรษฐกิจ บก.ควบคุมพื้นที่ 1 กกล.BGF เนื่องจากใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ นอกจากข้อหาสร้างเมืองใหม่ ให้เปิดบ่อนการพนันฝั่งเมียวดี ขนของหนีภาษี และอีกมากมาย โดยมีการประกาศดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และยึดคืนพื้นที่ในการดูแลของ BGF คืน โดยมีรายงานว่ากองทัพเมียนมาได้สั่งการให้ บก.ควบคุมทางยุทธการที่ 20 ปฏิบัติการร่วมกับ  บก.ควบคุมทางยุทธการที่ 23 (ค่ายปางกาน จ.เมียวดี) ในการตรวจสอบและควบคุมความเคลื่อนไหวของ กกล.BGF  เฝ้าระวังการต่อต้านด้วยการเปิดฉากใช้อาวุธ จึงน่าสนใจว่านโยบายล้างผลประโยชน์ชายแดนครั้งนี้ เกิดจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องส่วย หรือต้องการล้างบางสิ่งผลกฎหมาย สนองตอบความร่วมมือกับไทยในการลดปัญหาที่กระทบเข้ามายังฝั่งเราหรือไม่ 

ยังโชคดีที่เหล่าทัพต่างๆ จัดงานวันเด็กออนไลน์  เพราะไม่เช่นนั้นกิจกรรมการเปิดเรือหลวงจักรีนฤเบศรให้เด็กๆ เข้าเยี่ยมชมเหมือนทุกปีต้องเกิดขึ้นแน่ และสิ่งที่เกิดขึ้นคงปวดหัวไม่น้อยเพราะกำลังพลจำนวน 2 นายติดเชื้อ COVID-19 ทำให้ต้องมีการกักตัวและทำการตรวจหาเชื้อในกำลังพลเรือหลวงจักรีนฤเบศรจำนวน 270 นาย  โดยกำลังพลทั้งหมดมีผลเป็นลบ ไม่ติดเชื้อแต่อย่างใด  ขณะที่ บิ๊กอุ้ย-พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เน้นย้ำให้กำลังพลทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด ไม่ออกไปในพื้นที่เสี่ยง ตามแผนพิทักษ์กำลังพล และเตรียมพร้อมเมื่อต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการดูแลช่วยเหลือประชาชนช่วงนี้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"