กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

  นึกว่าจะไม่มีอะไรตื่นเต้น จะไม่มีอะไรให้ลุ้น จะไม่มีอะไรให้ติดตามเสียแล้ว การแต่งตั้งตำรวจระดับ นายพล วาระเดือนเมษายน หรือการแต่งตั้งกลางปี ที่ตามธรรมเนียมปฏิบัติจะเป็นเหมือนรายการให้โบนัสตำรวจใกล้เกษียณ ได้ขยับขึ้น "ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ติดยศ พล.ต.อ. ที่ต้องแต่งตั้งจาก ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ครองตำแหน่งครบ 1 ปี และขยับขึ้น "ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ  ตร." ติดยศ พล.ต.ท.เทียบเท่าผู้บัญชาการ แต่งตั้งจากรองผู้บัญชาการที่ครองตำแหน่งครบ 1 ปี รวมทั้งขยับขึ้น  "ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร." ยศ พล.ต.ต.เทียบเท่าผู้บังคับการ แต่งตั้งจากรองผู้บังคับการที่ครองตำแหน่งครบ 5 ปี แต่พอ พล.ต.ท.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบช.สกพ. ส่งหนังสือเวียน แจ้งแต่ละกองบัญชาการพิจารณาสรรหาข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ถึงรอง ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่าที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎ ก.ตร.เพื่อทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและข้อมูลอื่นๆ ก็ชัดเจนว่าในการแต่งตั้งวาระเมษายนรอบนี้ ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน จะใช้อำนาจตามที่  ก.ตร.ให้อำนาจ หากในวาระแต่งตั้งเดือนเมษายนมีตำแหน่งเหลือ ยังไม่ครบกรอบจำนวนตำแหน่งกลุ่มนี้  สามารถแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสมขึ้นดำรงตำแหน่งกลุ่มนี้ได้ แต่ไม่เกินกึ่งหนึ่งของตำแหน่งว่าง ๐

            ว่ากันตามกฎ ก.ตร.ที่เขียนไว้ "สามารถแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสมขึ้นดำรงตำแหน่งกลุ่มนี้ได้ แต่ไม่เกินกึ่งหนึ่งของตำแหน่งว่าง" เช็กยอดเก้าอี้ว่างวาระเมษายน 2564 มีการแต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ยศ พล.ต.อ.) ว่างจำนวน 10  ตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. (ยศ พล.ต.ท.) ว่าง 20  ตำแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. (ยศ พล.ต.ต.) ว่าง 30  ตำแหน่ง รวมมีตำแหน่งว่างทั้งหมด 60 ตำแหน่ง ไม่เกินกึ่งหนึ่งที่ ผบ.ตร. มีอำนาจแต่งตั้งได้สูงสุดก็ปาไปถึง 30  เก้าอี้...แต่งตั้งรอบนี้เลยทำให้ สีกากี คึกคัก เพราะเท่าที่สายข่าวแอบกระซิบโผกลางปีรอบนี้ จะมีรายการเช็กบิล "ผู้บัญชาการ" และ "ผู้บังคับการ" หลักๆ ที่บกพร่อง ผิดพลาด ในการทำหน้าที่จากบ่อน จากต่างด้าว จากโควิด  จากการชุมนุม ยาวเป็นหางว่าว โดยเฉพาะแต่ละเก้าอี้ที่ถูกขึ้นบัญชีเอาไว้ล้วนเกรดเอทั้งนั้น ๐

            เก้าอี้เกรดเอใครจะโดนเปลี่ยน ใครจะมาเสียบแทน  ยังต้องรออีกสักพัก แต่สำหรับกลุ่มขยับขึ้นตำแหน่ง "ผู้ทรง" ที่ได้รับโบนัสก่อนเกษียณอายุราชการ แปะชื่อผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็น ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยับยศ พล.ต.อ. มีชื่อ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์  ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุรพล อยู่นุช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง จตช.(สบ 9)

ส่วนเก้าอี้ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.(ยศ พล.ต.ท.) มีชื่อ  พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รอง ผบช.สยศ., พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สมชัย ตรีมธุรกุล นายแพทย์ (สบ 7), พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ รอง ผบช.ภ.6  เป็นต้น ๐

            จะมองเป็นเรื่องส่วนตัว จะมองเป็นเรื่องชู้สาว จะมองเป็นเรื่องความวุ่นวายภายในครอบครัวก็ว่ากันไป แต่เหตุการณ์เจ้าบ่าวสวมเครื่องแบบตำรวจประกอบพิธีแต่งงาน ทั้งที่มีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอยู่แล้ว น่าจะเป็นอุทาหรณ์เตือนสติเหล่า "สีกากี" ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ตามที่ บิ๊กแรก-พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติสะกิดเตือนเอาไว้ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" มีบทลงโทษผู้ที่ประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง คือ 1.ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย ลงโทษกักขัง 30  วัน 2.ได้หญิงหรือชาย เป็นภรรยาหรือสามี แล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสียหรือเสียหาย ลงโทษกักขัง 30 วัน 3.จดทะเบียนสมรสซ้อน ลงโทษกักขัง 30 วัน 4.ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป ลงโทษกักขัง 30  วัน อย่างไรก็ตาม ถ้ามีพฤติกรรมอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ทำหลายครั้ง หลอกเอาเงินทอง ใช้อำนาจหน้าที่บังคับข่มเหง  กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จะเป็นการกระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งมีบทลงโทษที่หนักขึ้น ๐

            การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ถือได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ รมว.กลาโหม ไม่ได้ถูกชำแหละหนักหนาสาหัสมากนัก เมื่อเทียบกับการถูกตั้งคำถามจาก รังสิมันต์ โรม ในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ดังนั้นเรื่องที่แตะกองทัพเป็นเพียงโครงการจัดซื้อของกองทัพ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สื่อมีการนำเสนอไปบ้างแล้ว ทั้งการใช้งบประมาณในการจัดหาเรือดำน้ำในช่วงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมไปถึงการจัดหารถบัสโดยสารล็อกสเปกให้เอกชน เลยไปถึงกรณีที่กองทัพเรือในลักษณะการทำสัญญาให้สัมปทานผลิตหินที่เอื้อประโยชน์เอกชน ในยุคที่ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมตั้งข้อสังเกตปัญหาทุจริตคอร์รัปชันโครงการซื้อชุดลำลองทหารเกณฑ์ ที่เปรียบเทียบราคาแล้วแพงกว่าที่วางขายผ่านแอปพลิเคชันขายสินค้าออนไลน์ รวมไปถึงเครื่องมือช่าง กล้องส่องทางไกลในเวลากลางคืน เมื่อฟังอภิปรายของฝ่ายค้านจบ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงเองแบบชิล โดยมี บิ๊กช้าง-พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม เสริมข้อมูลในรายละเอียด ๐

            ไม่พบเงา บิ๊กบี้-พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทดสอบร่างกายประจำปีระดับผู้บริหารในกองทัพบกเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา  เนื่องจากยังมีภารกิจที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ( นสศ.) จ.ลพบุรีต่อเนื่อง ทำให้ รองเป้ง-พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ รองผู้บัญชาการทหารบก มานำทีมทดสอบร่างกาย 5 เสือแบบนิวนอร์มอล ป้องกันโควิด-19 ที่หน้าพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติแทน ด้วยการเว้นระยะบุคคล ลดจำนวนคน ใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์นับคะแนนสถานีดันพื้น และใช้อุปกรณ์เกี่ยวข้อเท้าแทนการใช้บุคคลช่วย มีการฉีดแอลกอฮอล์อุปกรณ์หลังจากผู้ทดสอบใช้งานเสร็จ ๐

            ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ในการสังคายนาระบบคลังอาวุธ หลังเหตุกราดยิงที่โคราช เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บิ๊กหนุ่ย-พล.อ.ธรรมนูญ วิถี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ตรวจเยี่ยมการส่งกำลังบำรุงของส่วนกองทัพภาคที่ 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมกิจการ คลังอุปกรณ์ต่างๆ ของหน่วย  เพื่อรับฟังปัญหาข้อขัดข้อง และมอบแนวทาง นโยบายให้หน่วยยึดถือและปฏิบัติ ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 มีหน่วยเฉพาะกิจอโณทัยเป็นหน่วยหลัก รับผิดชอบในการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง เพื่อให้หน่วยสามารถปฏิบัติภารกิจในความรับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้

            ไม่ได้หายไปไหน สำหรับ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ล่าสุดลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกองทัพอากาศกับกรมทรัพยากรน้ำ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการให้บริการข้อมูลภูมิสารสนเทศ  โดยกรมทรัพยากรน้ำจะสนับสนุนและให้บริการข้อมูลสารสนเทศในพื้นที่ดำเนินการและพื้นที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่  ข้อมูลการตรวจวัดสภาพน้ำทางไกลอัตโนมัติ ข้อมูลคาดการณ์ค่าความชื้นในดินจากระบบ (Mekong River Commission Flash Flood Guidance System) ข้อมูลสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยน้ำหลากในเขตพื้นที่ลาดเชิงเขาจากระบบ (Early Warning System) ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา และข้อมูลอุทกวิทยา ข้อมูลปริมาณน้ำใช้การได้ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ขณะที่ ทอ.สนับสนุนและให้บริการข้อมูลภูมิสารสนเทศ เพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบรรเทาสาธารณภัยอันเกิดจากอุบัติภัยหรือภัยพิบัติจากธรรมชาติ  ได้แก่ ภาพถ่ายทางอากาศ และแผนที่สภาพภูมิประเทศ  เป็นต้น ๐

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"