เอาแล้ว!วาระ 3 ส่อวุ่นหนัก 'วิษณุ' ชี้ช่องงดออกเสียงจบปัญหา


เพิ่มเพื่อน    

12 มี.ค.64 - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้รัฐสภามีอำนาจหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องทำประชามติ 2 รอบ ว่า คดีนี้เนื่องจากไม่มีคู่ความศาลจึงไม่ได้อ่านำพิพากษา มีแต่คำสรุปเผยแพร่ออกมาไม่กี่บรรทัด อ่านดูแล้วยังไม่เข้าใจ แต่เขาได้ส่งคำวินิจฉัยฉบับเต็มไปที่ประธานรัฐสภาซึ่งคาดว่าส่งถึงแล้วและทางสภาฯคงได้วิเคราะห์กันแล้ว 

เอาโดยสรุปตนเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของสภาฯ สภาฯจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ โดยวาระหนึ่ง วาระสองไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่วาระสามจะลงมติได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งประธานสภาได้บรรจุวาระนี้เข้าไปในที่ประชุมรัฐสภาวันที่17มี.ค.เวลา 09.30 น.ไว้แล้ว ก็คงจะมีการว่ากันในสภา ถ้าสภาเห็นว่าไม่ควรจะโหวตก็ไม่โหวต ก็เลิกไปเฉยๆเพราะมีปัญหาข้อกฎหมายอยู่เหมือนกัน 

แต่ถ้าสภาเห็นว่าไม่เป็นไรโหวตไป สุดท้ายถ้าให้ทำประชามติก่อนเดี๋ยวคิดกันก็สามารถทำอย่างนั้นได้ แต่ความเสี่ยงก็จะมีเพราะคำวินิจฉัยออกมาอย่างนี้แล้วก็มีอีกฝ่ายที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วยในการโหวตวาระสามอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นซีกของส.ว.และส.ส. ก็อาจมีความเป็นไปได้เมื่อโหวตวาระสาม 1.อาจจะไม่มีคนมาประชุม 2.มาแต่งดออกเสียงเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี หรือ3.ลงมติไม่เห็นชอบ หรือคว่ำเสียให้มันตกไปให้จบเรื่องแล้วค่อยไปเริ่มต้นกันใหม่ โดยจะเริ่มที่ลงประชามติก่อน เพื่อแก้ทั้งฉบับตามที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำหรือจะแก้เป็นรายมาตราก็เป็นเรื่องที่ไปคิดอ่านกัน ซึ่งทั้งหมดนี้คือความเห็นของตน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ววาระสามสามารถโหวตได้หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ทราบเพราะตนยังไม่เห็นคำวินิจฉัย แต่มันคงไม่มีอะไรผิดพลาดที่จะโหวต แต่ถ้าโหวตแล้วก็อาจจะไม่ผ่าน ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดให้เรื่องมันจบลงดีกว่าคาไว้

เมื่อถามว่าการทำประชามติควรเริ่มในช่วงเวลาใด นายวิษณุ ตอบว่า ช่วงไหนก็ได้แต่ต้องเข็นให้กฎหมายประชามติผ่านเสียก่อน เมื่อออกมาแล้วก็คิดกันต่อไป ถ้าจะลงประชามติก่อนก็ลงได้ 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการทำประชามติจะเร็วสุดได้เมื่อใด นายวิษณุ บอกว่าไม่ทราบเพราะต้องเข้าวาระสองก่อน ยังไม่รู้คณะกรรมาธิการเขาจะแก้อย่างไร มันมีหลายสำบัดสำนวน กรรมาธิการข้างน้อยเอาอย่าง กรรมาธิการข้างมากเอาอย่าง และรัฐสภาต้องเป็นคนโหวต และสมมุติว่าผ่านวาระสามไปแล้วหลังมีการโปรดเกล้ากฎหมายมีผลบังคับใช้ได้ทันที กฎหมายประชามติเป็นแค่เครื่องมือในการออกเสียงประชามติ โดยผู้ทำประชามติคือรัฐบาลส่วนการตั้งคำถามก็คงต้องคิดด้วยกัน ถือเป็นคำถามของรัฐบาล  

เมื่อถามว่าหากรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการแก้ทั้งฉบับ ก็ไม่สามารถทำได้ใช่หรือไม่ รองนายกฯตอบว่า  ถูกต้อง 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าหากมีการโหวตคว่ำ การทำประชามติ หรือ แก้รายมาตรา อันไหนจะมีแนวทางเป็นไปได้มากกว่ากัน นายวิษณุ กล่าวว่า กระแสในสภาเขาอยากให้มีการทำรายมาตราอยู่แล้ว ซึ่งไม่ยาก  เพราะการทำรายมาตรานั้นเร็ว เดือนครึ่งก็เสร็จแล้วเพียงแต่คิดให้ตรงกันเสียก่อนว่า คำว่ารายมาตรานั้นหมายถึงมาตราไหน ตรงนี้นี่แหละจะพูดกันยาว ซึ่งถ้ามีความเห็นร่วมกันได้ก็จบ ในทางที่ดีคือรายมาตรา ที่ไม่ต้องลงประชามติมันง่ายเดือนเดียวก็เสร็จ

เมื่อถามว่าท่าน เคยยกตัวอย่าง4-5ประเด็นที่ต้องทำประชามตินั้นมีอะไรบ้างนายวิษณุ กล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้เขียนอยู่ในมาตรา256 อยู่แล้ว คือ 1. วิธีแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนนี้แกวิธีแก้มีอยู่ 2 แบบแล้ว คือวิธีแก้ธรรมดากับไปร่างใหม่ ถ้าร่างใหม่ก็ต้องไปทำประชามติก่อน และหลัง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวันที่ 11 มี.ค. แต่ถ้าเป็นการแก้ธรรมดา หนึ่ง วิธีแก้รัฐธรรมนูญจะต้องไปออกเสียงประชามติ สองในส่วนที่เกี่ยวกับ คุณสมบัติอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ สาม ในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องของหมวดพระมหากษัตริย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ชัดเจนว่าไม่มีอะไรต้องตีความ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลในเรื่องของกรอบเวลาหรือไม่ หากต้องไปร่างใหม่ที่ค้องใช้เวลา 24-26 เดือน ซึ่งอาจจะไม่ทันสภาชุดนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไม่จำเป็นต้องยาวขนาดนั้น ทุกอย่างใช้คำว่าภายใน ดังนั้นหนึ่งเดือนก็ภายในสองเดือนก็ภายใน แต่ความหมายคือไม่เกิน 280 วัน แล้วจะไปรอให้จบที่ 280 วันทำไม ซึ่งในไทม์ไลน์นี้ก็สามารถยืดหยุ่นได้ อยู่ที่ว่าแก้อะไรและเห็นพ้องต้องกันหรือไม่ ถ้าทำได้เร็วมันก็เร็ว ข้อสำคัญ เมื่อเกิดส.ส.ร. ขึ้นแล้วสภาจะยุบหรือไม่ หรือจะตั้งใหม่หรือไม่นั้นไม่เกี่ยวกัน ทุกอย่างเดินหน้าของมันไปเรื่อย เพราะสภาชุดใหม่ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้เลย ส.ส.ร. เป็นอีกหนึ่งสภาที่แยกออกมาต่างหากจากรัฐสภา 

นายวิษณุ กล่าวต่อว่าเพราะฉะนั้นคำตอบโดยสรุป ง่ายๆคืออยู่ที่สภา ว่าจะต้องคิดอย่างไรถ้าสภาคิดว่าอย่างนั้นไม่รู้จะไปโหวตทำไมก็จบ และถ้าเป็นอย่างนี้ในวันที่ 17 มีนาคม เวลา 09:30 น. ก็ให้คุยกัน เสียก่อน แต่ถ้าสภา บอกว่าให้ลงมติ แล้วค่อยไปคิดกันต่อว่าจะทำอย่างไร ก็ลงไป แต่มีโอกาสที่สมาชิกสภาจะงดออกเสียงเป็นไปได้สูง และสูงมากด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงแม้ว่าสภาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเช่นอาจจะยุบสภาเรื่องที่ค้างอยู่นี้ยังคงเดินหน้าต่อไปใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าใช่ครับ ไม่สะดุด

เมื่อถามย้ำว่า อย่างนี้วาระ1 วาระ 2 ที่ทำมานั้น ไม่แท้งใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า 1 กับ 2 ไม่แท้ง แต่ 3 นี่ แล้วแต่ว่าจะตัดสินใจให้แท้งหรือเปล่า ซึ่งจะตัดสินใจว่า เลิกไปมันก็ได้ หรือจะดันเข้าสภาต่อก็ได้  แต่ทีนี้จะยุ่งหน่อย เพราะตอนที่เขาแก้กันเมื่อวันที่ 10 มีนาคม แก้กันแม้กระทั่งคำว่า 2 ใน 3 หรือ 3 ใน 4 ซึ่งตรงนี้ไม่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเขาคิดจะแก้ในเรื่องอื่นอยู่แล้ว ตนจึงได้บอกว่า ถ้าอย่างนั้นอาจจะเดินหน้าต่อไปก็ได้ แต่มีบางมาตราที่พ่วงเข้าไปและทำให้เกิดปัญหา  เช่น มาตรา 5 ซึ่งถ้าสภาลงมติในวาระ 3 ตกไป คือ ได้คะแนนเสียงไม่ถึง ก็ดูว่าจะจบลงด้วยดี แต่อาจจะไม่ถูกใจบางคน แต่ไม่เป็นปัญหา แต่หากสภาลงมติวาระ 3 ผ่าน ถ้าจะเดินต่อ มันก็จะเดินต่อยากแล้วและรับรองว่าก็จะมีคนเลี้ยวเข้าไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอีกหน ซึ่งนอกจากมาตรา 5 แล้ว ยังมีมาตราอื่นอีกหลายมาตรา ซึ่งทุกมาตราที่ผูกกับส.ส.ร. นั้น จะมีปัญหาหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าวาระ  3 นี้ควรจะโหวตตกไปเลยใช่หรือไม่ถ้าอยากให้จบ นายวิษณุ กล่าวว่า "ก็งดออกเสียงไง"
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"