ผ่านมาเกือบจะครึ่งเดือนภายหลังคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นั่งเป็นประธาน ประชุมวาระแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระเดือนเมษายน ตีตราประทับผ่านฉลุย 75 นายพล ทั้งตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ  ตร. จำนวน 7 ราย ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. จำนวน 16 ราย  ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. จำนวน 30 ราย และแต่งตั้ง รอง ผบช. เลื่อนเป็น ผบช.จำนวน 3 ราย รอง ผบช.หมุนเวียน จำนวน  2 ราย ผบก.เลื่อนเป็น รอง ผบช.จำนวน 6 ราย ผบก.หมุนเวียน จำนวน 1 ราย และรอง ผบก. เลื่อนเป็น ผบก. จำนวน  10 ราย เริ่มมีเสียงแว่วๆ ให้จับตารายชื่อกลุ่มแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งข้าราชการตำรวจที่ขอเออร์ลีรีไทร์ และโยกสลับระนาบที่มีทั้งหมด 22 ตำแหน่ง ตอนนี้มีรายชื่อแพลมออกมาผ่านสื่อแค่ 10 ราย คือ พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ รองนายแพทย์ใหญ่ (สบ 7) เลื่อนเป็น นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8),  พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รอง ผบช.ภ.1 เลื่อนเป็น ผบช.ประจำ  สง.ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. เลื่อนเป็น จตร.(สบ 8), พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.4  โยกเป็น รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล ผบก.ทว. เลื่อนเป็น รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 เลื่อนเป็น รอง ผบช.น., พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ  รอง ผบก.น.1 เลื่อนเป็น ผบก.น.3, พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร เลื่อนเป็น ผบก.กมค.ภาค  7, พ.ต.อ.ชูศักดิ์ พนัสอัมพร รอง ผบก.อก.สตม. เลื่อนเป็น ผบก.กต.8, พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.6 เลื่อนเป็น ผบก.ประจำ บช.น. แต่อีก 12 เก้าอี้ที่ยังไม่เผยตัวออกมา ว่ากันว่าแต่ละคนไม่ธรรมดา...รอชมๆ ๐

            สงกรานต์ปีนี้ บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ระดมกำลัง ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเน้นในช่วง 7 วันของการคุมเข้มเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย.64 มอบหมายให้ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็น  ผอ.ศูนย์ฯ มี พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง และ พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น รอง ผอ.ศูนย์ฯ พร้อมเตรียมกำลังตำรวจทั่วประเทศ ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 (บช.ภ.1-9) กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) กองบัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บช.สตม.)  กว่า 80,000 นาย คอยอำนวยการจราจรให้พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ฝ่าฝืน ๐

            ออกมายืนยันเสียงดังฟังชัดจากปาก บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ในประเด็นดรามาการรับโอนนายทหารชั้นประทวนมาเป็นตำรวจ สตม.รวม 41 นาย แม้  ตร.จะมีสังกัดตำรวจน้ำ แต่ก็ยังต้องฝากเรียนที่โรงเรียนนายเรือ จึงสอบถามความสมัครใจทหารเรือผู้มีประสบการณ์ ที่มีหน้าที่เฉพาะในการขับเรือโอนย้ายมาเป็นตำรวจ ตม. พร้อมเน้นย้ำ "ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของราชการและประเทศชาติ จึงต้องเลือกคนมีความรู้ความสามารถที่รับเข้ามาทำงานได้เลย ไม่ต้องเสียงบเสียเวลา อีกทั้งเรือมีราคาแพง ไม่มีประกัน และมีเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ  ไม่ได้เลือกปฏิบัติเพราะเป็นการรับเฉพาะทาง ไม่ได้แอบรับโอน รวมถึงมีการสอบถามและคัดเลือกมาประจำเรือ ไม่ใช่ประจำด่าน แต่เรือก็ต้องอยู่ที่ด่าน"...แจ่มแจ้งกระจ่างชัด ๐

            น่าจะเป็นช่วงเวลาของคนรัก สีกากี เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดรับสมัคร ตำรวจ ทั้งหมด 3 ประเภท  รวม 700 อัตรา เริ่มจาก 1.การรับสมัครสอบข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเป็นชั้นสัญญาบัตร พ.ศ.2564 จำนวน 400  อัตรา โดยรับสมัครและคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ผู้มีวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์ เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ.ศ.2564 กลุ่มสายงานป้องกันปราบปราม (สายงานสอบสวน) และ บช.ศ.ที่เป็นข้าราชการตำรวจอยู่แล้ว เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-28 เม.ย.64  และ 2.รับสมัครบุคคลภายนอกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน พ.ศ.2564 จำนวน 100 อัตรา โดยรับสมัครและสอบแข่งขันบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน พ.ศ.2564  (กลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน) ทำหน้าที่วิทยาการ สพฐ.ตร. เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-28 เม.ย.64 รวมทั้ง 3.รับสมัครบุคคลภายนอกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร  พ.ศ.2564 จำนวน 200 อัตรา รับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ.ศ.2564 (กลุ่มงานเทคนิค) สพฐ.ตร. เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-28 เม.ย.64 ๐

            พักการฝึกประจำปีกองทัพเรือไประหว่างช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปีนี้เลยจัดเต็มแม้จะเป็นการฝึกแบบ Light Year แต่ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ยังดำรงความมุ่งหมายในการฝึกให้กำลังพลตามวงรอบเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย พร้อมเชิญ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เข้าร่วมตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งจอดลอยลำอยู่ในพื้นที่ทะเลอันดามัน บริเวณจังหวัดภูเก็ต พร้อมกับ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.อ.ชูชาติ บัวขาว  รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์  รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.)

            ไฮไลต์คือชมการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นแบบ  ฮาร์พูน BLOCK 1C โดยเรือหลวงตากสิน และการฝึกปฏิบัติการร่วมกับกองทัพอากาศ (LINK-E) โดยที่ผ่านมากองทัพเรือทำการการฝึกยิงฮาร์พูนมาแล้ว 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1  ฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบพื้นสู่พื้นบน ร.ล.สุโขทัย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.48 ระยะยิง 40 กม. ครั้งที่ 2 ทำการฝึกยิงจากเครื่องบินลาดตระเวน F-27 Mk200 เมื่อวันที่ 2  ก.ย.47 ในรูปแบบอาวุธปล่อยนำวิถีแบบอากาศสู่พื้น ระยะยิง 20-30 กม. ครั้งที่ 3 ทำการฝึกยิงบน ร.ล.นเรศวร เมื่อวันที่ 12 ม.ค.52 โดยเป็นการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบพื้นสู่พื้นอีกครั้งในระยะยิง 36.9 กม. ซึ่งทั้ง 3 ครั้งผลการยิงชนเป้า

            ครั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพลกล่าวชื่นชมการฝึกของ ทร.  เพราะนอกจากเป็นการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีไกลสุดที่เคยทำการยิงมาในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้หัวระเบิดจริง ซึ่งกองทัพเรือดำเนินการเองโดยไม่พึ่งพาประเทศเจ้าของอาวุธปล่อยหรือต่างชาติ และยังเป็นการยิงลูกอาวุธปล่อยจากที่เคยจัดหามาเป็นระยะเวลานานพอสมควร และยังอยู่ในอายุการใช้งาน จากการยิงในครั้งนี้อาวุธปล่อยสามารถวิ่งชนเป้าได้อย่างแม่นยำ รวมถึงชื่นชมการฝึกยิงปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งเป็นการฝึกร่วมระหว่างหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ที่ได้ขนอาวุธหนักทั้งเก่าและใหม่เข้าร่วมบูรณาการแผน ศรีวิชัย 2 ที่ปฏิบัติงานร่วมกับเครื่องบินขับไล่ Gripen ในแผนเฉลิมอากาศ จำลองสถานการณ์ข้าศึกโจมตีผลประโยชน์ของชาติทางทะเล  โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญเช่นท่าเรือน้ำลึก

            พื้นที่ฝึกฝั่งอันดามันนับได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ทางทะเลที่สำคัญในภูมิภาคนี้ โดยการฝึกคอบราโกลด์ 2021 ที่ไทยและสหรัฐฯ กำลังเตรียมการและดูสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด อาจจะต้องมีการเลื่อนไปเดือน ส.ค.ตามที่  ผบ.ทหารสูงสุดระบุ หรืออาจต้องลดขนาดการฝึกในที่สุด  แต่พื้นที่การฝึกครั้งนี้อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.โดมศักดิ์ คำใสแสง ผู้อำนวยการส่วนการฝึกกรมยุทธการทหาร และคณะเดินทางไปฟังบรรยายสรุป การวางแผนการฝึกภาคสนาม FTX และการฝึกแลกเปลี่ยน CTX ในการฝึกร่วมผสม ทบ.ไทย-สหรัฐฯ รหัสคอบราโกลด์ 2021 และตรวจภูมิประเทศในการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ที่กองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 (ร.15 พัน.1) ที่สนามฝึกคลองท่อม จังหวัดกระบี่

            แม้จะมีข่าวเมาธ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม "ต่อไม่ติด" กับ  ผบ.เหล่าทัพ เพราะห่างรุ่นกันถึง 7-8 ปี จึงไม่ได้เจอกันช่วงศึกษาในโรงเรียนทหาร หลังการประชุมสภากลาโหม  "บิ๊กตู่" เลยตอบคำถามผู้สื่อข่าวในประเด็นดังกล่าว ย้ำความเหนียวแน่นกับน้องๆ ว่า “เขารักผมทุกคน ไปถามเขาซิ ไม่เห็นมีปัญหาเรื่องระยะห่าง" ส่วนคำตอบจะไปผูกโยงกับการโยกย้ายทหารที่ "บิ๊กตู่" ไม่กล้าไปล้วง หรือทำอะไรได้มากในโผที่ผ่านมา 2 ครั้ง ได้แต่เห็นชอบตามที่ ผบ.เหล่าทัพคนเก่าเสนอขึ้นมาหรือไม่ คงต้องรอดูการโยกย้ายอีกระลอกปลายปี ที่จะมีการเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการทหารเรือ เพราะคนปัจจุบันจะเกษียณอายุราชการ เพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของผู้สังเกตอาการ.