บิ๊กป้อม เอาแน่ ขอเป็นนายกฯ ‘ธรรมนัส’แขนขาที่ขาดไม่ได้!

ชัดขึ้นมาอีกคน กับการประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นก็คือ บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ที่ประกาศไว้เมื่อ 17 มกราคมที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายพลังประชารัฐที่ใช้ในการหาเสียง

หลังถูกสื่อถามถึงว่า พร้อมจะเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่

บิ๊กป้อม ตอบไม่มีแทงกั๊ก

"ก็เลือกมาดิ ถ้าเลือกได้ก็เป็น ถ้าประชาชนเลือกได้ให้ผมเป็น ผมก็เป็น" 

ซึ่งทันทีที่สิ้นคำตอบ บรรดาแกนนำพรรคต่างส่งเสียงเฮกันดังลั่น

ว่าไปก็ไม่แปลก ที่บิ๊กป้อมประกาศเช่นนี้ เพราะหากบอก ไม่พร้อม ก็วงแตก ลูกพรรคคงบ่นกันตรึม

เพียงแต่กรณีของ พลเอกประวิตร ที่ผ่านมา สงวนท่าที เรื่องนี้มาตลอด เพราะเกรงใจพลเอกประยุทธ์ แต่เมื่อวันนี้ ไม่ต้องเหนียมอาย ไม่ต้องเกรงใจ น้องตู่ พี่ป้อมเลยหงายไพ่ บอกความฝันในบั้นปลายชีวิต ให้เห็นกันไปเลยว่า อยากเป็นนายกฯ

ขณะที่ความพร้อมก่อนลงทำศึกเลือกตั้งของบิ๊กป้อมและพลังประชารัฐ ก็ชัดแล้วว่า นับถอยหลัง รอวัน ธรรมนัส พรหมเผ่า รีเทรินส์ กลับพลังประชารัฐ

หลัง ธรรมนัส เล่นใหญ่ คุกเข่ามอบพวงมาลัยพวงโตให้ ‘บิ๊กป้อม’ ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.พะเยา เมื่อ16 มกราคมที่ผ่านมา  

การแสดงออกดังกล่าว ที่ ธรรมนัส เล่นเอง กำกับเอง หลายคนในพลังประชารัฐ ดูจะไม่แปลกใจ ที่ธรรมนัส ทำซึ้งกับพลเอกประวิตร

เหตุเพราะ ‘บิ๊กป้อม’ อุ้ม ‘ธรรมนัส’ มาตลอด ไม่ว่าผู้กองคนดังจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน แม้แต่ตอนมีปัญหากับ พล.อ.ประยุทธ์ จากผลพวงศึกซักฟอกปี 2564

จนบางคนถึงขั้นสงสัยว่า ‘ธรรมนัส’ มีของดีอะไร ทำไม ‘บิ๊กป้อม’ ถึงยัง “ดันทุรังโอบกอด” อยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ภาพลักษณ์ของอดีต รมช.เกษตรคนนี้ ค่อนไปทาง ‘ติดลบ’ 

ทว่า ในทางการเมืองต่างรู้ดี ว่าต่อให้ภาพเบื้องหน้าของ ‘ธรรมนัส’ แย่ขนาดไหน แต่ในเบื้องหลัง แกนนำพรรคขนาดใหญ่ ต่างอยากได้คนประเภทนี้ไปเป็นกำลังสำคัญทั้งนั้น  

เช่นเดียวกับ ‘บิ๊กป้อม’ ที่รู้ดีกว่าใครว่า ‘ธรรมนัส’ คือ มือทำงานที่สามารถตอบสนองความต้องการของตัวเองได้ในทุกๆ เรื่อง ไม่ใช่พวกดัง แต่ท่อ ล้อไม่หมุน  

ฉะนั้น ลำพังแค่ประจบคงไม่พอทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ยอมโดนด่าเพื่อปกป้องธรรมนัส

ขณะเดียวกัน การที่สถานะของ ‘ธรรมนัส’ อยู่ในสภาพนี้ ‘บิ๊กป้อม’ เองก็มีส่วนเช่นกัน หากที่ผ่านมา ‘ธรรมนัส’ ทำอะไรก็ตามโดยลำพัง ‘บิ๊กป้อม’ คงไม่เก็บเอาไว้ มันย่อมแสดงว่า บิ๊กป้อม ต้องรู้เห็นระดับหนึ่ง  

สำหรับ ‘บิ๊กป้อม’ แล้ว ‘ธรรมนัส’ ถือเป็นขุนพลคนสำคัญเบอร์ต้นๆ ในสนามการเมือง โดยเฉพาะศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ที่ บิ๊กป้อม ต้องการนักการเมืองประเภท ‘ตัวจริง’ ในสนาม  เพราะสนามเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อปี 62 ที่ตอนนั้นพลังประชารัฐ ชู ‘บิ๊กตู่’ เป็นหลัก แต่รอบนี้ จะเน้นไปที่ตัวนักการเมือง หรือ ส.ส.ในพื้นที่ที่มีคะแนนของตัวเองเป็นหลัก 

จุดแข็งของพลังประชารัฐ รอบนี้คือ ตัวนักการเมือง ไม่ใช่ภาพลักษณ์ ต่อให้ใครจะยี้ จะปรามาส แต่ ‘บิ๊กป้อม’ เน้นไปที่ผลลัพธ์เป็นหลัก 

จะเห็นว่า บ้านใหญ่ที่ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มปากน้ำ จ.สมุทรปราการ, กลุ่มมะขามหวาน จ.เพชรบูรณ์, กลุ่มชากังราว จ.กำแพงเพชร, บ้านรัตนเศรษฐ จ.นครราชสีมา และ กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ที่กำลังจะกลับเข้าพรรคอย่างเป็นทางการเมือง พวกนี้ล้วนมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาคนอื่น แต่เป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้งแทบทุกครั้ง 

หากจะบอกว่า จุดแข็งของพรรคพลังประชารัฐตอนนี้คืออะไร คำตอบคือ ‘ตัวนักการเมือง’ ที่เป็นของจริงในพื้นที่  

เพราะอย่าง ที่ พะเยา ทุกวันนี้ แทบจะเป็น ‘ธรรมนัสบุรี’ ไปแล้ว คนส่วนใหญ่ในประเทศจะยี้แค่ไหน แต่ที่เมืองกว๊านพะเยา คือฐานที่มั่นใหญ่ที่ใครคิดจะล้ม ธรรมนัส คงไม่ง่าย  ตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงคนทุกระดับในทุกแวดวง ล้วนเป็นเครือข่ายของ ‘ธรรมนัส’ ทั้งสิ้น 

เห็นได้จากประชาชนเรือนหมื่นที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมืองวันที่ บิ๊กป้อม ไปพะเยาเมื่อ 16 ม.ค. คือแสนยานุภาพของ ‘ธรรมนัส’ ที่ทำให้เห็น ว่าเลือกตั้งที่จะมีขึ้น หากธรรมนัส เอาจริง ไม่มีหลบให้เพื่อไทยบางเขต พะเยา ก็อาจลุ้นชนะยกจังหวัด เพื่อช่วยสานฝัน เก้าอี้นายกฯให้พลเอกประวิตร

ในวันที่พรรคพลังประชารัฐเหลือแต่ ‘บิ๊กป้อม’ คนที่ ธรรมนัส บูชาเหมือนพ่อ ว่ากันว่า เขาจะทุ่มแบบหมดหน้าตักเพื่อพาเจ้านายไปสู่จุดที่มุ่งหวังให้ได้  

ไม่ว่าผลสุดท้ายจะออกมาอย่างไร แต่การที่ ‘บิ๊กป้อม’ ได้ ‘ธรรมนัส’ และพวกกลับมา ทำให้พลังประชารัฐมีพลังมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงอย่างโซนภาคเหนือ ที่แน่นทั้งกระสุนและเครือข่าย พรรคพวก 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พรพระ-พรนักโทษ'

หมู่นี้..... "คนห่มเหลือง" ประพฤติผิดพระวินัยสงฆ์ ต้อง "อาบัติปาราชิก" ข้อ "เสพเมถุน" ถี่มาก!

เศรษฐา "นายกฯ ฮูดินี"

"ชีวิตที่มีหมานำ" ก็อย่างนี้แหละครับ "หัวหน้าคอก" เมื่อพักคุก ก็ไปขลุกเชียงใหม่