เปิดเวที THE POWER BAND 2023 ปั้นคลื่นลูกใหม่

กลับมาพบกันอีกครั้งกับเวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพสุดยิ่งใหญ่ที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจและโอกาสให้กับนักดนตรีรุ่นใหม่  “THE POWER BAND 2023 Season 3” โดยคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ผนึกกำลังกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำของเมืองไทย อย่าง MuzikMove, LOVEiS Entertainment, Small Room, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment อีกทั้งโรงเรียนดนตรียามาฮ่า GuitarMAG และ T-POP เพื่อเฟ้นหาสุดยอดวงดนตรีคลื่นลูกใหม่ที่มีแรงบันดาลใจและพลังสร้างสรรค์ทางดนตรีอันโดดเด่น ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 1.5 ล้านบาท

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า การประกวด “THE POWER BAND 2023 Season 3” กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตั้งเป้าหมายเพื่อเปิดเวทีประกวดดนตรีที่ดี มีคุณภาพ และได้มาตราฐานระดับสากล มุ่งหมายให้นักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ และประชาชนที่รักในเสียงดนตรีทั่วประเทศเข้าร่วมประกวดวงดนตรีครั้งนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่มอบโอกาสให้มีพื้นที่ในการแสดงออก แต่ยังมอบโอกาสในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ ความสามารถ และการใช้ชีวิตเพื่อก้าวสู่การเป็นคนดนตรีมืออาชีพอย่างมีคุณภาพ พัฒนาสู่การเป็นนักดนตรีระดับโลก สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป

“ ผ่านมาแล้วถึง 2 ซีซั่นด้วยกันที่ คิง เพาเวอร์ เชื่อในพลังดนตรีของน้องๆ และพัฒนาเยาวชนด้านดนตรีสู่นักดนตรีที่มีคุณภาพ ขอบคุณพันธมิตร 6 ค่ายดนตรี รวมถึงพาร์ทเนอร์ที่ร่วมจัดงานอย่างยิ่งใหญ่  มีเวทีให้น้องๆ มีโอกาสแสดงฝีมือด้านดนตรีออกมา  นอกจากนี้มีค่ายเพลงมาช่วยให้ความรู้ พัฒนาฝีมือเติมเต็มสิ่งที่น้องขาดหายไป เราและพาร์ทเนอร์มุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาเด็กไทยให้มีศักยภาพให้มากขึ้นต่อไป “ นายอภิเชษฐ์ กล่าว

ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล กล่าวว่า ในการแข่งขัน “THE POWER BAND 2023 Season 3” ครั้งนี้ เราเปิดเวทีให้ออดิชั่นทั้งหมด 5 สนาม ได้แก่ ขอนแก่น, เชียงใหม่, สงขลา, นครปฐม (ศาลายา) และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงในโอกาสในการประกวดครั้งนี้ โดยจะแบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภทได้แก่ 1. Class A การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม รุ่นมัธยมศึกษา 2. Class B การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม รุ่นบุคคลทั่วไป หลักเกณฑ์การตัดสินยังคงความเข้นข้น พิจารณาจากสไตล์การร้อง การเรียบเรียงองค์ประกอบของดนตรี ความเข้าใจทฤษฎีดนตรี ทักษะการเล่นเครื่องดนตรี ความสมบูรณ์ของการเล่น ที่สำคัญที่สุด คือ การเล่นเป็น Teamwork ต้องไปด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบเพลง

“ ตั้งแต่ซีซั่น 1 จนมาถึงซีซั่น 3 ซึ่งซีซั่นนี้เราเปิดโอกาสของความเป็นไปได้ให้มากขึ้นตรงคอนเซ็ปท์ที่ว่า “It’s Possible  Music Makes Life Possible พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้ โครงการพิเศษกว่าทุกครั้ง ไม่ว่าวงดนตรีของน้องๆ จะอยู่โรงเรียนเดียวกันหรือต่างสถาบันกันก็ได้  สร้างความร่วมมือทางดนตรีนอกสถาบัน ให้ดนตรีเป็นเครื่องมือพัฒนาเยาวชนและสังคม ส่วนการเข้าค่ายดนตรีช่วยให้น้องๆ เก่งขึ้น และพัฒนาสู่เวทีระดับนานาชาติ เป็นประสบการณ์ที่ดีของเยาวชน ส่วนการเปิดโอกาสให้แข่งข้ามสนามได้ สร้างความตื่นตัววงการดนตรี   ” ดร.ณรงค์ กล่าว

นอกจากนี้ ตัวแทนกรรมการและตัวแทนค่ายเพลงที่ร่วมในโปรเจกต์ยิ่งใหญ่ของปีนี้ นำโดย อาจารย์เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล และมือเบสแห่งวง The Richman Toy, พล วง Clash-คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่าย Boxx Music และ Zircle Muzik และติ๊ก PLAYGROUND-กฤษติกร พรสาธิต ผู้บริหารค่าย Home Run Music บอกเล่าถึงความพิเศษของการประกวด “THE POWER BAND 2023 Season 3” โดยผู้ชนะเลิศของแต่ละสนามจะได้เข้าอบรมเพิ่มความรู้ทางด้านดนตรีจากมิวสิกกูรูระดับประเทศของเมืองไทยกับ THE POWER BAND CAMP ก่อนที่จะเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศเพื่อชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ และรางวัลรวม 1.5 ล้านบาทอีกด้วย

อาจารย์เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม กล่าวว่า ปีนี้การประกวดรุ่นมัธยมศึกษา สมาชิกของวงมาจากสถาบันเดียวกันหรือต่างสถาบันก็ได้  เพราะวงที่มีสมาชิกข้ามสถาบันมีจำนวนมาก  เดิมติดเงื่อนไขคุณสมบัติ จึงสมัครไม่ได้ เมื่อปลดล็อคแล้ว จะมีวงดีๆ เข้ามาประกวดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เพิ่มรางวัล Best Creative Award เพราะวงที่มีความคิดสร้างสรรค์จะประสบผลสำเร็จคว้ารางวัลและสามารถก้าวสู่ศิลปินมืออาชีพในอนาคต

พล–คชภัค ผลธนโชติ กล่าวว่า การประกวดดนตรีบนเวทีน้องๆ จะได้พบกับอุปกรณ์ที่ศิลปินใช้ในการแสดงจริงต่างจากการฝึกซ้อมกับเพื่อน ฉะนั้น ต้องเรียนรู้ แก้ปัญหา และฝึกซ้อมเพิ่มขึ้น ทั้งยังได้รู้จักกับวงดนตรีสถาบันต่างๆ ที่มีรสนิยมทางดนตรีต่างกัน  พบเจอพี่ๆ ศิลปินในวงการเพลง  นี่คือ ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ดนตรีจะพาน้องๆ เดินทางสู่ความเป็นไปได้ พาไปได้ไกล ฝากทุกคนมีฝีมือ แต่ต้องพกความคิดสร้างสรรค์และความสุขมาแจกให้กับผู้ชมด้วย

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประกวด สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/thepowerband และเฟซบุ๊ก thepowerband.mahidol โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-800-2525 ต่อ 3109 และ 02-441-5305