‘Beware of TIGER’คอลเลคชั่นคอลแลป’ยูน ปัณพัท’

ตราเสือ ผู้นำตลาดปูนซีเมนต์ผสม ต่อยอดแบรนด์สู่ตลาดแฟชั่นภายใต้แบรนด์เสือไลฟ์สไตล์ (TIGER Lifestyle) เอาใจคนรุ่นใหม่ เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ล่าสุด  “Beware of TIGER”  คอนเซปต์ เสือลายพาดกลอน  โดยคอลแลปกับ ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ศิลปินและอิลลัสเตรเตอร์ไทยชื่อดังระดับโลก ในโปรเจกต์ TIGER x PHANNAPAST ถ่ายทอดคาแรกเตอร์เสือที่ซ่อนอยู่ในตัวทุกคน ด้วยงานดีไซน์ที่ผสานความละเอียด อ่อนช้อย เข้ากับความแข็งแกร่งของแบรนด์อย่างลงตัว เพิ่มความพิเศษด้วยดีเทลของอาร์ตเวิร์กที่ใช้หลากหลายเทคนิค ทั้งการปัก การคัตติ้ง และการวางลายพิมพ์ ชูสินค้าไลฟ์สไตล์ถึง 30 ไอเทม อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า หมวก กระบอกน้ำ และอีกมากมาย 

สยามรัฐ สุทธานุกูล Chief Marketing Officer – Cement and Green Solution Business บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า หากมองย้อนกลับไปตราเสือ แบรนด์ทำปูนซีเมนต์ผสมที่อยู่คู่คนไทยมากกว่า 100 ปี ระหว่างทางได้พัฒนาคุณภาพและนวัตกรรมตลอดเวลา อีกมุมหนึ่งเราเห็นว่าไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง ออกแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ หรืออยู่ในโลกออนไลน์มากกว่าดูโทรทัศน์ เราใช้สินค้าไลฟ์สไตล์เข้าถึงคนรุ่นใหม่นำความเป็นตราเสือเข้าสู่ชีวิตประจำวัน ทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ไทย เริ่มต้นนำถุงปูนไม่ใช้แล้วดีไซน์เป็นกระเป๋าคิด-จาก-ถุง   หรือ TIGER X Renim Project แฟชั่น Up Cycle ที่ได้รับเลือกไปจัดแสดงงาน LA Fashion Week 2019 ล่าสุด ยูน ปัณพัท ศิลปินที่ได้ออกแบบร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง กุชชี่ ร่วมมือออกแบบตราเสือให้มีความเป็นแฟชั่น มีความสวยงาม มีกลิ่นอายตราเสือและเอกลักษณ์ศิลปินเป็นคอลเลกชันที่โดนใจใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล กล่าวว่า นับเป็นคอลเลกชันแรกที่ยูนได้นำเอกลักษณ์และลวดลายการออกแบบของตัวเองมาสร้างสรรค์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ไอเทมที่มีความเรียบง่าย  ตราเสือสามารถนำไปต่อยอดได้ ไม่จบเพียงคอลเลกชันเดียว  โจทย์ของโปรเจกต์นี้ คือ การนำเอาความน่าไว้วางใจและเชื่อถือได้ของแบรนด์ตราเสือมาถ่ายทอดผ่านงานดีไซน์ ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน ปกติงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตน จะไม่ได้เน้นสินค้าไลฟ์สไตล์มากๆ จึงเป็นครั้งแรกด้วยที่ได้ออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์และมีความเป็น unisex ไม่จำกัดเพศ  แรงบันดาลใจมาจากโลโก้แบรนด์ตราเสือ ออกแบบเป็นหัวเสือลายพาดกลอน มีหน้าตาที่ดูเป็นมิตร จับต้องได้ ใช้เสือที่มีโทนสีขาวดำ มีการสวมใส่หมวกนิรภัย เพื่อเป็นการสื่อความหมายใหม่ๆ แต่ยังคงมีเอกลักษณ์ของแบรนด์   และเอกลักษณ์ของตนที่ทุกคนจะได้สัมผัส คือ ดอกกุหลาบสอดแทรกอยู่ในลวดลาย ปกติงานของตนเน้นลายดอกไม้ มีดีเทลและลวดลายสีสัน ซึ่งเป็นความชื่นชอบเฉพาะกลุ่ม ได้ลดทอนลายดอกลงให้เข้ากับคอลเลกชันที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน 

การออกแบบครั้งนี้นอกจากดีไซน์แล้ว ยังคำนึงถึงวัตถุดิบที่นำมาใช้   ยูน  เล่าว่า  กระเป๋าโท้ทผ้าไนลอนมีคุณสมบัติกันน้ำ เพิ่มกันกระแทกเข้าไปเพื่อความแข็งแรงเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใส่โน๊ตบุ๊คได้ด้วย ปักด้วยโลโก้เสือ สวมหมวกนิรภัย เพิ่มมิติด้วยเทคนิคการปักขนเข้าไปบริเวณใบหน้าเสือ  รูปแบบนี้นำมาปักด้วยเทคนิคการปักฝีเข็มร่วมกับผ้าขนจะทำให้มีรายละเอียดที่แตกต่างจากงานปักอื่นๆ ที่กระเป๋าโท้ทขนฟู  เพิ่มความสนุกสนานในการแมตช์เข้ากับเสื้อผ้า ยังมีเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ และเสื้อยืดทรงโอเวอร์ไซส์ เน้นสีพาทเทล ส่วนกระบอกน้ำเสนอความเป็นเสือแค่หาง ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวเสือแบบเต็มตัว แต่คนมองสามารถรู้ได้ทันทีว่า คือ เสือ อยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับคลอกเลกชันนี้ที่สามารถแมตช์ได้กับทุกลุค

สำหรับสินค้าไฮไลต์ในคอลเลกชัน Beware of TIGER  ประกอบด้วยชุดเซ็ตฮู้ดดี้และกางเกงจ็อกเกอร์  โดดเด่นด้วยลวดลายหางเสือสุดชิค เนื้อผ้าใส่สบาย สามารถใส่เข้าเช็ต หรือนำไปแมทช์กับเสื้อและกางเกงอื่น ๆ ได้ตามสไตล์, แจ็กเก็ตยีนส์ ไอเทมสุดคลาสสิกที่นำมาเพิ่มลูกเล่นด้วยดีเทลลายปักอาร์ตเวิร์ก เปลี่ยนแจ็กเก็ตยีนส์ธรรมดาให้ดูสนุก ขี้เล่นมากขึ้น, หมวกแก๊ปยีนส์ ที่ใช้วัสดุคือผ้าเดนิม  แอกเซสซอรีเพิ่มความสนุกให้กับลุคต่าง ๆ ได้ไม่มีเบื่อ ด้วยหมวกแก๊ปยีนส์ 2 สไตล์ ได้แก่ หมวกแก๊ปยีนส์และหมวกแก๊ปยีนส์แบบมีหู ที่ปักด้วยอาร์ตเวิร์กหน้าเสือ

ไอเทมเก๋ๆ มี กระเป๋าโท้ทผ้าไนลอนและกระเป๋าโท้ทขนฟู เพิ่มสีสันให้กับลุคในแต่ละวันด้วยกระเป๋าโท้ทปักด้วยอาร์ตเวิร์กหน้าเสือ 2 สไตล์ ได้แก่ กระเป๋าโท้ทผ้าไนลอนสีเขียวเหนี่ยวใจ เรียบแต่เก๋ และกระเป๋าโท้ทผ้าแบบขนฟู เพิ่มความมุ้งมิ้งน่ารัก และกระบอกน้ำ Tumbler ที่โชว์และเก็บอุณหภูมิ ขนาด 500 มล. สีเขียวอ่อนและเขียวเข้ม โทนสีที่กำลังมาแรง เพิ่มความเก๋ด้วยลายหางเสือสีขาวดำ วัสดุแข็งแรง น้ำหนักเบา พกพาไปใช้ในชีวิตประจำวัน

คอลเลกชัน Beware of TIGER จะเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกผ่านช่องทางออนไลน์ Tiger Cement Shop บน Shopee และ Lazada ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป พร้อมวางแผนขยายการจำหน่ายไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวรับการเปิดประเทศต่อไป