มศว โชว์ความพร้อมเจ้าภาพจัดแข่งขันวิทย์ฯโอลิมปิกครั้งที่20

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2566 โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในประเทศ ได้แก่ มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการ และพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มูลนิธิ สอวน.), สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.), ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), National Coordinator Olympiad Netherlands      และ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

งานแถลงความร่วมมือได้รับเกียรติจาก รศ. ดร.พินิติ รตะนานุกูล กรรมการและเลขาธิการ (สอวน.) เล่าถึงความเป็นมาของการจัดการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับมัธยมต้นว่า เมื่อ 20 ปีก่อนได้มีกลุ่มนักวิชาการที่เล็งเห็นความสำคัญของการกระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในด้าน วิทยาศาสตร์มากขึ้น คิดว่าน่าจะมีเวทีให้นักเรียนเหล่านี้ได้มาแสดงความสามารถในเชิงวิชาการ จึงได้จัดการแข่งขันวิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในเวทีนานาชาติครั้งแรกที่ประเทศอินโดนีเชีย และในช่วงนั้นประเทศไทยก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ตั้งแต่นั้นมา  เราจึงได้ส่งทีมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นไปแข่งขัน ซึ่งการที่มีเวทีลักษณะนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความสนใจและอยากเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ได้มีแรงผลักดันที่จะสร้างศักยภาพของตนเองให้มากขึ้น เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่เวทีการแข่งขันในระดับวิชาการในระดับนานาชาติต่อไป

รศ. ดร.พินิติ รตะนานุกูล

รศ.ดร.พินิติ กล่าวอีกว่า สำหรับ การที่ไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ครั้งที่ 20 ประจำปี พ.ศ. 2566 (20th International Junior Science Olympiad) เนื่องจากประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในการส่งนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นไปร่วมแข่งขันมา ตั้งแต่ครั้งแรกตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา และยังไม่เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และในปีนี้ พ.ศ. 2566 ถือเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวาระครบ 100 ปี วันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และการที่ท่านได้รับการรับรองพระนามเป็นบุคคลสำคัญของโลกจากองค์การยูเนสโก และเป็นองค์ประธานมูลนิธิตอนจัดตั้งฯ ในปีพ.ศ. 2542 ทางมูลนิธิฯ จึงเล็งเห็นว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยยินดีจะรับโอกาสเป็นเจ้าภาพการแข่งขันวิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ครั้งที่ 20

สำหรับการคัดเลือกนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทย ทางมูลนิธิฯ และ สสวท. ร่วมกันรับสมัคร ซึ่งในปีนี้มีนักเรียนทั่วประเทศเข้าสมัครประมาณ 10,500 คน  ในรอบแรก หลังจากนั้นมีการสอบเพื่อคัดกรองเหลือจำนวน 300 คน และจากนั้นมีการสอบคัดกรองอีกรอบ เพื่อให้เหลือ 30 คน และนำมาเตรียมความพร้อมโดยการเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถเพื่อที่จะไปแข่งขันในระดับเวทีนานาชาติต่อไป และในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายที่กำลังคัดสรรหาตัวแทนประเทศไทย

“ในด้านการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ทางมูลนิธิฯและสสวท. มีการเตรียมการตั้งแต่ยื่นความจำนงที่จะเป็นเจ้าภาพมาในระยะเวลาหลายปี และเห็นว่าคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีความพร้อมในหลายระดับทั้งบุคลากรที่จะมาจัดการแข่งขัน บุคลากรทางด้านวิชาการ และสถานที่ที่เหมาะสม เหมาะที่จะต้อนรับนักเรียนจากทั่วโลกและผู้ที่สนใจหรือเกี่ยวข้องได้ และทางมูลนิธิฯ กับมศว  ได้จัดตั้งคณะทำงานหลากหลายส่วน โดยเฉพาะคณะกรรมการวิชาการที่จะทำหน้าที่ในการออกข้อสอบสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้

สำหรับ การสอบแข่งขันในครั้งนี้เป็นการสอบในราย 3 วิชา คือ วิชาเคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์ การแข่งขันจะมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคภาคปฏิบัติ ซึ่ง ในด้านการปฏิบัติจะเป็นการประยุกต์นำทั้ง 3 วิชาเข้าด้วยกัน และมีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อสอบ มาตรฐานของข้อสอบ


“กล่าวได้ว่า ประเทศไทยมีความพร้อมแล้วที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งที่ 20 นี้ และมั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถจัดการแข่งขันได้อย่างดีที่สุด”รศ.ดร.พินิติ ยืนยัน

ดร.อาทิตยา ปัญญา ผอ.ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลฯ และ ศ.ดร.ปรินทร์ ชัยวิสุทธางกูร คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มศว 

ด้านดร.อาทิตยา ปัญญา ผอ. ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ กล่าวถึงบทบาทของ กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ว่าศธ. ในฐานะเป็นหน่วยงานจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  ได้กำหนดนโยบายและแผนปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อรองรับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ซึ่ง สพฐ.ได้นำนโยบายและแผนปฏิบัติการต่าง ๆ มาดำเนินการเพื่อพัฒนาโดยเฉพาะด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ยังอยู่ในระดับที่ต้องพัฒนาให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับมาตรฐานสากล  โดยเฉพาะด้านการจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องพัฒนา เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีความสามารถในระดับสากล

ที่ผ่านมา สพฐ.  ร่วมกับ สอวน.  สสวท. และสถาบันอุดมศึกษา พัฒนาครูและนักเรียน โดยจัดตั้งศูนย์ สอวน. ค่าย 1 ในโรงเรียนที่มีศักยภาพ สังกัดสพฐ.  เพื่อดำเนินการอบรมนักเรียนจากทั่วทุกภูมิภาค ให้มีโอกาสเข้ารับการพัฒนาศักยภาพให้มีมาตรฐานระดับสากล ปัจจุบันมีศูนย์ สอวน. ค่าย 1 ในโรงเรียนสพฐ. วิชาอบรมเพิ่มขีดความสามารถเด็ก ได้แก่ วิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ จำนวน 128 โรงเรียน กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค  ทั้งนี้คุณครูที่เข้ารับอบรมพัฒนาความรู้ตามแนวทางหลักสูตรโอลิมปิกวิชาการ  โดยอบรมครูจะเน้นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น    ผลจากการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรโอลิมปิกวิชาการ พบว่า มีนักเรียนสอบผ่านเข้าค่าย 1 สอวน. จากทั่วทุกภูมิภาค ทุกขนาด โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ชายขอบและถิ่นทุรกันดารก็สามารถพัฒนามาตรฐาน ผ่านการคัดเลือกเข้าค่าย 1 ได้มากขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านการลดความเหลื่อมล้ำในด้านการจัดการศึกษา

ในปี พ.ศ. 2565 มีนักเรียนในสังกัด สพฐ. ที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ ในวิชาต่าง ๆ จำนวนทั้งสิ้น 31 คน โดยทุกคน ได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลเหรียญทอง จำนวน 6 คน รางวัลเหรียญเงิน จำนวน 11 คน รางวัลเหรียญทองแดง จำนวน 7 คนเกียรติคุณประกาศ จำนวน 6 คน  และรางวัลพิเศษ จำนวน 1 คน (Poster Awards)

ส่วนการดูแลนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันวิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ครั้งที่ 20 ประจำปี พ.ศ. 2566 สพฐ.  ร่วมกับ สอวน. และสถาบันอุดมศึกษา ดูแลนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าค่าย โดยให้การสนับสนุนงบประมาณด้านอาหารและที่พัก รวมทั้งการดูแลนักเรียนที่อยู่ในค่าย เน้นการพัฒนาในทุกมิติ  ให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติการเติมเต็มประสบการณ์ด้านต่าง ๆ ได้พัฒนาเต็มศักยภาพ  

ศ.  ดร.ปรินทร์ ชัยวิสุทธางกูร คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มศว  กล่าวยืนยันว่า ว่ามศว  มีความพร้อมในด้านสถานที่จัดการแข่งขันฯ จากผู้เข้าร่วมแข่งขันจากทั้ง 55 ประเทศ โดยแต่ละประเทศส่งนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขัน ประเทศละ 6 คน รวมทั้งมีครูผู้คุมทีมประเทศละ 3 คน รวมเป็น 9 คน   ในเบื้องต้นข้อสอบปฏิบัติการ ทางคณาจารย์ของคณะวิทยาศาสตร์  มศว   เป็นผู้ออกข้อสอบหลัก ตอนนี้ได้ออกข้อสอบไปแล้ว  80%  ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อสอบมีมาตรฐานในระดับนานาชาติ และในเรื่องของห้องปฏิบัติการ  ทางมศว  จึงมีการเตรียมความพร้อมโดยทำการปรับปรุงห้อง lab ให้มีมาตรฐานในระดับนานาชาติ  โดยได้รับการสนับสนุนจากรศ.ดร.สมชาย สันติวัฒนกุล มศว  และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยอีกหลายท่าน ที่ได้ร่วมผลักดันสนับสนุน  จนกระทั่งได้ห้องปฏิบัติการที่มีความพร้อมในการจัดการแข่งขัน     แต่ในส่วนของข้อสอบบรรยาย  นอกจากทาง มศว  เป็นผู้ออกข้อสอบแล้ว ยังได้รับความอนุเคราะห์จากมหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการร่วมกันออกข้อสอบ ซึ่งขณะนี้มี 80% เช่นเดียวกัน และนี่คือความพร้อมทางฝั่งของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้

E.H.M.H. Emiel de Klejin National Coordinator Olympiad Netherlands (President IJSO)

President IJSO  E. H.M.H. Emiel de Klejin National Coordinator Olympiad Netherlands  ได้กล่าวถึงบทบาทของ ljso และความร่วมมือกับประเทศไทยในครั้งนี้ว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกนานาชาติตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 โดยในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิก และปัจจุบันเข้าร่วมทั้งหมด 9 โอลิมปิก และยังได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกนานาชาติแล้วถึง 9 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2004 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่ง IJSO เป็นการแข่งขันทางวิชาการ  โดยมีการบูรณาการการสอบทางด้านชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ ทั้งทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติการ โดยข้อสอบได้มีการออกแบบมาเพื่อวัดความเข้าใจทางด้านแนวคิด ต่าง ๆ และความสามารถในการประยุกต์ใช้แนวความคิดต่างๆ ต่อสถานการณ์ที่ได้กำหนดไว้ในโจทย์ข้อสอบทฤษฎีเป็นการทำงานแบบเดี่ยว แต่ข้อสอบปฏิบัติการเป็นการทำงานแบบเป็นทีม   ซึ่งการทำงานเป็นทีมมีความสำคัญ โดยความรู้ย่อมสำคัญในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในทีมหลากหลายสาขาวิชาก็สำคัญเช่นกัน โดยทักษะทั้ง 2 ด้านมีบทบาทที่สำคัญในการแข่งขัน


” IJSO ทำให้การแข่งนั้นนี้มีความพิเศษเมื่อเทียบกับการแข่งขันอื่น ๆ เพราะการแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม และการทดลองทางวิทยาศาสตร์คือหลักในการแข่งขันทางวิชาการนี้ อีกวัตถุประสงค์ของ IJSO ซึ่งมีความสำคัญ ไม่แพ้กับวัตถุประสงค์ด้านวิชาการ ก็คือการสนับสนุนให้เยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนทั่วโลก ให้มีเพื่อนจากต่างประเทศตั้งแต่ยังอายุน้อย มีบทบาทความสำคัญทั้งในสังคมวิทยาศาสตร์และการพัฒนาส่วนตัว อีกทั้งยังมีศักยภาพในการนำไปสู่สันติภาพของโลกและการเข้าใจกันและกัน วัตถุประสงค์ 2 อย่างนี้ ทำให้งาน IJSO เป็นเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตสำหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันแบบนี้ โดยมีความร่วมมือกันข้ามขอบเขตประเทศ ช่วยส่งเสริมผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน”

                                                                                           

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เติมฝันต่อไฟนักวาดการ์ตูนรุ่นใหม่

“ค่าย 7-11 ถอดรหัสนักวาดการ์ตูนในฝัน” เป็นกิจกรรมประจำปี จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 18 โดยสำนักกิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมการ์ตูนไทย และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภายใต้แนวคิด “ฝันใหม่ในโลกพลิกผัน (Dream and Disruption)

เด็กไทยกระหึ่มโลก! คว้าเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเชีย

เด็กไทยสร้างชื่อให้ประเทศ คว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เกียรติคุณประกาศ 4 เกียรติบัตรฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเชีย จากมองโกเลีย