เพลงพระราชนิพนธ์ทรงคุณค่า ดึงคนรุ่นใหม่สืบสาน

พระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงเพลงเป็นที่ประจักษ์ในวงการดนตรีโลก และยังทรงพระราชนิพนธ์เพลงด้วยพระองค์เองมากถึง 49 บทเพลง ทั้งแนวแจ๊ส คลาสสิก มาร์ช ปลุกใจ ทรงพระราชนิพนธ์เพลงไพเราะและทรงคุณค่า กองการสังคีต สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ตระหนักถึงคุณค่าของบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีความงดงาม ทั้งด้านดุริยศิลป์และวรรณศิลป์ จัดประกวดขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ครั้งที่ 21 ประจำปี พ.ศ.2566  ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีในฐานะองค์อัครศิลปิน และส่งเสริมให้เยาวชนไทยร่วมสืบสานเพลงพระราชนิพนธ์ พร้อมกับแสดงถึงความสามารถทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ 

14 บทเพลงพระราชนิพนธ์  ได้แก่ เพลงความฝันอันสูงสุด เพลงชะตาชีวิต เพลงแผ่นดินของเรา เพลงในดวงใจนิรันดร์ เพลงลมหนาว เพลง ดวงใจกับความรัก เพลงยามเย็น เพลงสายฝน เพลงแก้วตาขวัญใจ เพลงแสงเทียน เพลงรัก เพลงค่ำแล้ว เพลงอาทิตย์อับแสง และเพลงใกล้รุ่งการประกวด นำมาใช้ในการประกวดครั้งนี้ แบ่งเป็น  3 ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษาอายุไม่เกิน 13 ปี ระดับมัธยมศึกษาอายุไม่เกิน 19 ปี และ ระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า อายุระหว่าง 19-25 ปี

สมบูรณ์ หอมนาน ผอ.สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กล่าวว่า การประกวดขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์เริ่มปี 2545 ปีนี้เพื่อให้เป็นดั่งพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด บทเพลงพระราชนิพนธ์ ด้วยทุกบทเพลงล้วนทรงคุณค่าและมีความหมาย หากได้ศึกษาในบทประพันธ์แต่ละเพลงอย่างลึกซึ้งสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตหรือต่อยอดทักษะทางดนตรีได้ การส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้รักษาเพลงเป็นภารกิจสำคัญ

อ.ประยงค์ ชื่นเย็น นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การประกวดขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ นับเป็นความสำเร็จสูงสุดในวงการเพลงของไทย ตลอดระยะเวลาจัดประกวด 20 ปี เห็นถึงพัฒนาการด้านดนตรีของเยาวชนในการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพราะเป็นเพลงที่มีความยากอาจจะทำให้เยาวชนร้องยากและไม่ตรงโน็ต หลังจากผ่านไป 10 ปี เยาวชนที่ประกวดพัฒนาด้านการร้องดีขึ้นมาก ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้เข้าประกวดและหน่วยงานจัดงานที่ทำให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของบทเพลงพระราชนิพนธ์ การตัดสินจะมีความยุติธรรมใช้มาตรฐานของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย

สุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติ   หนึ่งในคณะกรรมการ กล่าวว่า ความยากของการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์อยู่ที่เมโลดี้ของเพลง มีทั้งการใช้เสียงเพียงครึ่งเสียง หรือมีเสียงแปลกๆ มีทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว ทั้งนักร้องและครูผู้ฝึกสอน อยากให้ยึดหลักการใช้เมโลดี้เป็นสำคัญ เมโลดี้ของบทเพลงพระราชนิพนธ์มีความต่างจากเพลงไทยสากลทั่วไป จงจดจำเมโลดี้ให้แม่น เข้าใจเนื้อหา จะทำให้การร้องและการแสดงออกมาอย่างสมบูรณ์ 

ด.ช.ญาณรินทร์ อื้อตระกูลชัย โรงเรียนช่องฟ้าซินเซิงวาณิชบำรุง แชมป์ระดับประถมศึกษา ปี 65 จากการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ แผ่นดินของเรา เล่าว่า เลือกใช้บทเพลงนี้ประกวด เพราะมีเสียงที่เข้ากับเพลง ในการฝึกฝนต้องเน้นการฮัมให้ตรงกับเมโลดี้ และสร้างเข้าใจกับเนื้อเพลง เพื่อสื่อสารออกมา เวทีนี้ได้พัฒนาต่อยอดทักษะการร้องเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบมาก

น.ส.ธัญทิพ แสงอาภา โรงเรียนหอวัง ระดับมัธยมศึกษา ขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในดวงใจนิรันดร์ เล่าว่า บทเพลงนี้มีความไพเราะ เนื้อหากล่าวถึงความรักอย่างสุดซึ้ง อีกทั้งยังมีท่วงทำนองรายละเอียดของการเล่นเสียงและจังหวะ จึงเลือกบทเพลงนี้มาขับร้อง ทำให้ตนได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงประพันธ์เพลงและทำนองได้อย่างสวยงาม 

น.ส.วรวรรณ โพธิ์เกาะ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ระดับอุดมศึกษา ขับร้องบทเพลงพระราชานิพนธ์ แก้วตาขวัญใจ บอกว่า เป็นเพลงที่เข้ากับเสียงร้องของตนเอง ชอบร้องเพลงลูกกรุง ทำให้ทำความเข้าใจกับบทเพลงได้ง่าย เมื่อผ่านเวทีการประกวดนี้ได้แรงบันดาลใจสานต่ออาชีพร้องเพลง  เพิ่มความมั่นใจในการเดินบนเส้นทางของนักร้องมากยิ่งขึ้น 

เยาวชนที่สนใจเข้าร่วมประกวดสามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ -9 มิถุนายน 2566 โดยส่งใบสมัครได้ทางไปรษณีย์มาที่กองประกวดขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ 55/112 ถ.กำแพงเพชร 6 ข.ลาดยาว ข.จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หรือส่งด้วยตัวเองที่กลุ่มงานดุริยางค์สากล กองการสังคีตฯ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ชั้น 1 อาคารสำนักระบายน้ำ