ไฟประดับตระการตา ’มหัศจรรย์ประทีปแห่งศรัทธามหาบารมี’

ทุกศาสนางอกงามบนแผ่นดินไทยใต้ร่มพระบารมีสถาบันกษัตริย์ เป็นแรงบันดาลใจให้กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับองค์การทางศาสนา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงานมหกรรมศาสนิกสัมพันธ์ สร้างสรรค์เศรษฐกิจและสังคม 2566 เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์ประทีปแห่งศรัทธามหาบารมี” รวมพลังศาสนิกชนทุกศาสนานำหลักธรรมสร้างความสมานฉันท์ในมิติศาสนา สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ในระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อาคารหอศิลป์แห่งชาติ และลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพฯ 

ชัยพล  สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา  กล่าวว่า กรมการศาสนาเตรียมจัดงานมหกรรมศาสนิกสัมพันธ์ แสดงนิทรรศการ “มหัศจรรย์ประทีปแห่งศรัทธามหาบารมี” ในรูปแบบสวนแสงแห่งศรัทธา ตระการตากับการประดับดวงไฟที่งดงามนับหมื่นดวงนำเสนอสัญลักษณ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 5 ศาสนา ที่แสดงถึงความเชื่อ ความศรัทธา ในแต่ละศาสนา ที่ศาสนิกชนได้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับสัญลักษณ์ธรรมจักรแสดงถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สัญลักษณ์กวางหมอบ หมายถึง การแสดงปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้าที่ และพระมหาเจดีย์พุทธคยา ศาสนสถานที่มีความสำคัญที่สุด 1 ใน 4 แห่งของสังเวชนียสถาน เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นโพธิญาณพฤกษาหรือพันธุ์ไม้ที่พระพุทธเจ้าประทับตรัสรู้

ศาสนาอิสลาม นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับมัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดสงขลา มีชื่อเต็มว่า “มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม” เป็นศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยสง่า มีสระน้ำด้านหน้าทอดตัวยาวกว่า 200 เมตร ช่วงพระอาทิตย์ตกจะงดงามตระการตามาก ภายในตกแต่งได้สวยงาม โล่งโอ่โถง เหมาะแก่การทำจิตใจให้สงบ และทำพีธีกรรมต่างๆ ทางศาสนา มัสยิดกลางแห่งนี้โดดเด่นจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่อยู่บนภูเขาในสวนสาธารณะหาดใหญ่ จนได้รับการขนานนามว่า “ทัชมาฮาลเมืองไทย”

ศาสนาคริสต์ นำเสนอเกี่ยวกับศาสนสถานและไม้กางเขน มีความหมายการไถ่บาปให้มนุษย์ของพระเยซู และเป็นสัญลักษณ์สำคัญสำหรับผู้ที่เป็นคริสต์ศาสนิกชนแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระคริสต์อย่างต่อเนื่อง

ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู นำเสนอสัญลักษณ์ โอม เป็นเสียงบูชาและอักขระทางภาษา สัญลักษณ์ของเทพเจ้าสูงสุดทางศาสนา หรือตรีมูรติ เสียงโอมมาจากเสียง อะ สระท้ายสุดของพระศิวะ อุ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า วิษณุ และ มะ คือสระเสียงสุดท้ายของพระพรหม รวมกันเข้าเป็นคำว่า โอม เทพเจ้าทั้งสามพระองค์คือ วัฏจักรชีวิตของโลกที่มีการสร้าง การรักษา และการแตกดับ

ศาสนาซิกข์ นำเสนอวิหารทองคำ เป็นศาสนสถานสีทองที่เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวซิกข์มากว่า 400 ปี ตั้งอยู่ในเมืองอมฤตสาร์ รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย วิหารเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1604 ตั้งอยู่กลางสระน้ำอมฤต ที่ชาวซิกข์ถือเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ภายในวิหารเป็นที่เก็บรักษาพระมหาคัมภีร์คุรุ ครันถ์ ซาฮิบ  อันเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาซิกข์

งานมหกรรมศาสนิกสัมพันธ์ที่จัดยิ่งใหญ่ อธิบดี ศน. กล่าวว่า  เป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ศาสนิกชนทุกศาสนาได้นำหลักธรรมได้ใช้ในชีวิตประจำวัน มีความรักต่อกัน สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และร่วมกันแสดงถึงการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์  ด้วยการรวมพลังความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์งานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม สร้างความสมานฉันท์สามัคคีและสันติธรรมในสังคมไทย

นอกจากเที่ยวชมงานประดับไฟตระการตาแล้ว มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมในมิติทางศาสนาและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์หาชมได้ยากจากชุมชนแต่ละศาสนา  อาทิ ธรรมะอารมณ์ดี การแสดงลำตัด การขับร้องเพลงอนาชีด การแสดงดิเกฮูรู การแสดงนักร้องประสานเสียง ดนตรี orchestra การเต้น Bhangra & Beyond การแสดง Indian Dance และรับชมการแสดงศิลปินดัง เช่น นัน อนันต์ ไมค์ทองคำ, ฟิวส์ กิติกร พระเอกละครไทยหัวใจลูกทุ่ง, หน่อย สุธิษา นักร้องสาวเสียงหวาน, ธัช กิตติธัช เพลงเอก และ โบ๊ท ปรัชญา เพลงเอก งานมีวันที่ 17 – 20 ส.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ณ หอศิลป์แห่งชาติ และลานวัฒนธรรมสร้างสุข วธ.