![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/02/ภาพเด่นสิ่งแวดล้อม.jpg)
สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพฯ ถือว่าเกินค่ามาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพสูงสุดในรอบปี หลายเขตค่าฝุ่นถึงระดับวิกฤตทะลุ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมทุกเขตใน กทม. อ่วมจากฝุ่นปกคลุม แม้ตอนนี้ชาว กทม. พอหายใจหายคอให้สะดวกขึ้น ไม่แสบคอ คันตา เพราะศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) คาดการณ์พื้นที่ กทม.และปริมณฑล จะมีคุณภาพอากาศดีไปถึงสัปดาห์หน้า ประชาชนสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง และออกกำลังกายในช่วงนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลง แต่ไม่ได้หมายความว่าปัญหาฝุ่นพิษได้รับการแก้ไขแล้ว ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดที่เป็นต้นตอฝุ่นจิ๋วภัยเงียบ ต้องเร่งลดการปล่อยมลพิษอากาศอย่างจริงจัง ลดการใช้รถยนต์ งดการเผาทุกชนิดเพื่อให้มีอากาศสะอาดหายใจต่อเนื่อง
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/02/รณรงค์ลด-PM2.5-ในพื้นที่กรุงเทพ.jpg)
ปทุมวันเป็นพื้นที่แรกในกรุงเทพฯ ที่พัฒนาโครงการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone : LEZ) สร้างกลไกความมือจากหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในพื้นที่ วัด มหาวิทยาลัย และชาวกรุงเทพฯ ร่วมลดการระบายมลพิษฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว ปีนี้โครงการเขตมลพิษต่ำ ซึ่งขับเคลื่อนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ (ศวอ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และภาคีเครือข่าย ขยับเข้าสู่ระยะที่ 2 มีการขยายผลเพิ่มอีก 4 เขตในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสูงสุด หรือระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ คลองสาน, ป้อมปราบศัตรูพ่าย,คลองเตย และบางรัก เป้าหมายลดมลพิษอากาศในพื้นที่ โดยจัดพิธีประกาศเจตนารมณ์ภาคีเครือข่ายทั้งหมดที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันก่อน
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/02/ๅ-1.jpg)
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัญหามลพิษทางอากาศ คือ ต้นเหตุสำคัญในการกระตุ้นให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ซึ่งคิดเป็น 3 ใน 4 ของการเสียชีวิตจากทั้งหมดของประเทศ สสส. มุ่งขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น นำมาสู่การพัฒนาโครงการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone : LEZ) จากแนวคิดที่มีต้นแบบจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาประยุกต์ใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เน้นสร้างความร่วมมือหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ วัด และประชาชนร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ต้นทาง
สำหรับโครงการในระยะที่ 1 นำร่องในพื้นที่เขตปทุมวัน นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า พื้นที่ปทุมวันพัฒนานวัตกรรม 3 เรื่อง ประกอบด้วยระบบฐานข้อมูลออนไลน์กรุงเทพธุรกิจอากาศสะอาดต้นแบบ (BMA-BLEZ) รายงานผลการตรวจสอบสภาพรถและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของผู้ที่ใช้รถในเขตปทุมวัน 1,000 คัน จัดบริการรถสาธารณะพลังงานไฟฟ้า พร้อมจุดจอดบริการแก่ประชาชนบริเวณศูนย์การค้า สถานประกอบการในพื้นที่ ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์วัดค่า PM 2.5 ที่แสดงผลทันที ถือเป็นการสร้างมาตรการกลไกการมีส่วนร่วมลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งไฟฟ้าสาธารณะ พลังงานสะอาด ร่วมกับศูนย์การค้าจัดกิจกรรมบำรุงรักษาตรวจสอบสภาพรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด เขตปทุมวันกลายเป็นถนนอากาศสะอาด ลดการปล่อยมลพิษทางอากาศลงถึง 10%
“ เฟส 2 เร่งขยายผลเพิ่ม 4 เขตพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสูงสุด ได้แก่ คลองสาน ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย บางรัก ผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการต้นแบบลดมลพิษทางอากาศเพิ่ม 100 องค์กร ภายในปี 2567 ถือเป็นมาตรการสานพลังทุกภาคส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การสร้างความตระหนักในการฟื้นฟูอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะของประชาชนที่ดีขึ้น “ นพ.พงษ์เทพ กล่าว
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/02/ลดระบายPM2.5-จากรถยนต์.jpg)
ด้าน ไพสิฐ พาณิชย์กุล ผู้อำนวยการ ศวอ. กล่าวว่า ความสำเร็จของโครงการ LEZ เกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถานประกอบกิจการภาคเอกชนในพื้นที่เขตปทุมวัน บริเวณตั้งแต่แยกปทุมวันถึงแยกราชประสงค์ เกิดระยะทางถนนอากาศสะอาดกว่า 1 กม. โดยมีแนวทางลดมลพิษอากาศ 5 ด้าน ได้แก่ 1.นโยบายองค์กร 2.การลดมลพิษอากาศขององค์กรและบุคลากรในองค์กร 3.การลดมลพิษจากไอเสียรถของซัพพลายเออร์ 4.การลดมลพิษจากไอเสียรถของลูกค้า 5.การติดตามประเมินและเผยแพร่ข้อมูล มีผู้ประกอบการต้นแบบในการลดมลพิษทางอากาศพื้นที่กรุงเทพฯ 8 องค์กร
เขตมลพิษต่ำเป็นอีกกลไกหนุนแผนลดฝุ่นปี 2567 ของ กทม.ว่าที่ ร.ต.วิรัช ตันชนะประดิษฐ์ ผอ.กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ ถือว่าเกินค่ามาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสูงสุดในรอบปี อยู่ที่ 47.0-105.0 มคก.ลบ.ม. ซึ่งค่ามาตรฐาน 37.5 มคก.ลบ.ม. มลพิษอากาศในกทม. เกิดจาก 2 สาเหตุหลักคือ การจราจรขนส่งในเขตพื้นที่เมือง และการเผาไหม้ในที่โล่ง โครงการ LEZ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นการพัฒนาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง เกิดพื้นที่นำร่องเขตปทุมวันที่สร้างความตระหนักและมีส่วนร่วมพัฒนานวัตกรรมลดมลพิษอากาศที่เกิดจากการใช้รถและการเผาจากการจุดธูป เทียนในบริเวณวัด ศาลเจ้า นำไปสู่การประยุกต์ใช้แนวทางควบคุมพื้นที่มลพิษต่ำในพื้นที่อื่นๆ ที่สอดคล้องตามแผนการลดฝุ่น 365 วัน ปี 67 ของ กทม.ได้ นอกจากลดฝุ่นที่แหล่งกำเนิด ยังมีแนวทางเพิ่มพื้นที่สีเขียว อย่างสำนักงานเขตคลองเตยพัฒนาพื้นที่เล็กๆ รกๆ ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นสวนหย่อมให้คนพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากเพิ่มพื้นที่สีเขียว ได้สร้างกำแพงกรองฝุ่นพิษด้วย
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/02/เขตคลองเตยสร้างกำแพงกรองฝุ่น.jpg)
ว่าที่ ร.ต.วิรัช กล่าวด้วยว่า ช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 สูง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กทม.ได้ประกาศให้หน่วยงานในสังกัด Work from Home ระหว่างวันที่ 15-16 ก.พ. และขอความร่วมมือภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน 151 แห่ง รวม 60,279 คน ร่วม WFH ช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ค่าเฉลี่ยปริมาณรถยนต์ต่อชั่วโมงลดลงประมาณ 8% การไม่เดินทางออกไปทำงานช่วงที่ฝุ่น PM2.5 สูง นอกจากช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสฝุ่นระหว่างการเดินทางแล้ว ยังลดปริมาณการจราจรบนท้องถนน สาเหตุหนึ่งของมลพิษอากาศ สอดคล้องกับงานวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่พบว่า ที่มาของฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ เกิดจากรถยนต์ดีเซลสูงถึง 57% ฝุ่นทุติยภูมิ 16% การเผาในที่โล่ง 15% รถยนต์เบนซิน 8% และอื่นๆ 4% อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ กทม. วางวิสัยทัศน์ระยะยาวภายในปี 2593 “กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่ มุ่งพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ มีนวัตกรรมที่ยั่งยืน พร้อมรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทุกมิติ”
ทั้งนี้ มีกิจกรรมรณรงค์รู้ทันฝุ่นพิษที่เปิดพื้นที่สื่อสารกับคนกรุง สร้างการมีส่วนร่วมลดปล่อยมลพิษ โดย ศวอ. ร่วมกับ สสส. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลด์ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ กทม. จัดงาน “The Air We Share” เปิดวงเสวนาทางวิชาการ นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะ พร้อมเวิร์คช็อปบอร์ดเกมสร้างความตระหนักรู้เรื่องฝุ่น PM2.5 ระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-3 เม.ย. 2567 ณ บริเวณทางเดินเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมได้และสามารถติดตามข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพจ “รู้ทันฝุ่น” นอกจากนี้ สามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นผ่านเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอป Air4Thai และ Life Dee ซึ่งแจ้งเตือนค่าฝุ่นเรียลไทม์
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/02/นิทรรศการสื่อสารระดับฝุ่นที่อันตราย.jpg)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเดย์ ส.ค. นี้ ลุยปูพรมสำรวจสุขภาพคนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 7 รามาฯ - สธ. – สวรส. - สสส. สานพลัง มหาวิทยาลัย 4 ภาค ลงพื้นที่ประเมินสุขภาพกาย-ใจ
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2567 ที่โรงแรม แกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่นโฮเทล จ.นนทบุรี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ผลักดันกม.ละเมิดในโลกออนไลน์ เยาวชนเผชิญภัยคุกคามพุ่งพรวด
มีความร่วมมือระหว่าง สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา (สำนัก 11) สสส. กับสำนักงานกิจการยุติธรรม (สกธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาร่างบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์
กทม.ประกาศ หยุดเดินรถเส้นทางตลาดน้ำตลิ่งชันชั่วคราว หลังสิ้นสุดสัญญาจ้าง
เฟซบุ๊กเพจ กรุงเทพมหานคร โพสต์แจ้งหยุดเดินรถเส้นทางตลาดน้ำตลิ่งชันชั่วคราว
‘อนุทิน’ สั่ง กทม.เร่งสอบที่มาป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ตและสัญชาติ ย่านห้วยขวาง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ทราบถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เปิดเผยและวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงกรณีมีการติดตั้งป้ายโฆษณาภาษาจีน
เช็กเลย! อากาศ 'กทม.-ปริมณฑล' 4 วันล่วงหน้า
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลพยากรณ์อากาศ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล 4 วันล่วงหน้า (22 - 25 ก.ค.67)
MRT Healthy Station เดินทางสู่เฟซ 3 สสส. สานพลัง BMN ต่อยอดพื้นที่สาธารณะสื่อสารสุขภาพ เนรมิตอุโมงค์บางซื่อ ให้กลายเป็น Walk Stadium เดินฟาสต์ให้ร่างฟิต
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูล์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มุ่งสร้างนวัตกรรมสุขภาพ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs)