สักการะ'พระแท่นวัชรอาสน์'จำลอง หนึ่งเดียวในไทย

ครั้งแรกในรอบ 2,400 กว่าปี ที่มีการจัดสร้างพระแท่นวัชรอาสน์จำลองหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่วัดแหลมแค อ.พานทอง จ.ชลบุรี  พระแท่นวัชรอาสน์ สถานที่ประทับตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานที่พุทธคยา อินเดีย เป็นสถานที่สำคัญหลังจากพระพุทธองค์ตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงใช้หญ้ากุสะปูลาดประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข ณ พระแท่นวัชรอาสน์ หรือโพธิบัลลังก์ ซึ่งมีความหมายว่า “ พระที่นั่งแห่งมหาบุรุษ ผู้ใจเพชร” เป็นสถานที่ที่ชาวพุทธทั่วโลกต้องการไปกราบสักการะ 

แต่ตอนนี้ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงอินเดีย เพราะที่ จ.ชลบุรี มีพระแท่นวัชรอาสน์เช่นกัน โดยพระแท่นวัชรอาสน์องค์นี้จำลองขนาดเท่ากับองค์จริงที่แดนพุทธภูมิ  แกะสลักลวดลายตามแบบอินเดียลงบนหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่ที่ลานธรรมหลวงพ่อทวด วัดแหลมแค เป็นหนึ่งในความยิ่งใหญ่และมีคุณค่าทางพระพุทธศาสนาที่ควรไปกราบไหว้

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธัมมธโช) หรือ “สมเด็จธงชัย” กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กล่าวถึงการจัดงานสมโภช พระแท่นวัชรอาสน์ (จำลอง) ที่วัดแหลมแค อ.พานทอง จ.ชลบุรี ว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ  72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ได้จัดสร้างพระแท่นวัชรอาสน์จำลอง ประดิษฐานที่ลานธรรมหลวงพ่อทวด วัดแหลมแค จ.ชลบุรี จะจัดพิธีสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 10 – 12 พ.ค.2567  ช่วงเช้าและในเวลา 17.00 น. ของทุกวัน จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรจากพระสงฆ์ 500 รูป เพื่อถวายพระแท่นวัชรอาสน์ ต้นศรีมหาโพธิ์ และหลวงปู่ทวด พิธีไหว้บูชาพระราหู และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีในแต่ละวัน จะมีการแจกวัตถุมงคลฟรี ให้กับผู้ร่วมงานด้วย นอกจากนี้ งานสมโภชดังกล่าวยังจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี ในการอัญเชิญ “ปรมัตถสิริมหาโพธิ หน่อเนื้อพุทธางกูร” จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ประเทศศรีลังกา อายุกว่า 2,300 ปี มาปลูกที่ลานธรรมหลวงพ่อทวด วัดแหลมแคด้วย

 “ ตามพุทธประวัติพระเจ้าอโศกมหาราชเกิดความศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้เสด็จมานมัสการสถานที่ตรัสรู้ ให้พระเถระนุเถระได้ช่วยบอกว่า ตรงไหนเป็นที่ตรัสรู้ และทรงให้สร้างพระแท่นวัชรอาสน์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่เป็นที่ตรัสสู้ของพระพุทธองค์ ภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 200 ปี ซึ่งพระแท่นวัชรอาสน์ทิ้งร่องรอยปริศนาธรรมไว้กว่า 2,400 ปี ด้านบนพระแท่นเป็นรูปหัวเพชรสี่เหลี่ยม สื่อความหมาย พระที่นั่งมหาบุรุษผู้มีหัวใจดุจดั่งเพชร ด้านข้างสลักเป็นรูปพญาหงษ์ 2 ตัวไซร้หาอาหารที่ดอกมณฑารพ เป็นดอกไม้สวรรค์ที่โปรยปรายลงมาเมื่อพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้  และปรินิพพานเท่านั้น การแสวงหาอาหารเปรียบกับความวิริยะอุตสาหะแสวงหาธรรม ผู้ที่จะขึ้นมานั่งบนพระแท่นนี้ได้ต้องศึกษาค้นคว้า ถึงจะบรรลุธรรม ส่วนพญาหงส์ทองคู่นั้น เป็นลายแทงกรรมฐาน ตามที่พระเจ้าอโศก และพระอริยสงฆ์เคยสอนไว้ว่า “หงส์ทองทั้งคู่ตัวหนึ่งอยู่ตัวหนึ่งไป ผู้ใดตอบปริศนาธรรมนี้ได้ ผู้นั้นจะสำเร็จ” ผู้ไปกราบพระแท่นวัชรอาสน์ให้ระลึกถึงการกรรมฐานด้วย“ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี  กล่าว

อย่างไรก็ตาม พระแท่นวัชรอาสน์จำลองนี้มีน้ำหนัก 2 ตัน แกะสลักจากหินทรายสีชมพู โดยรังสรรค์จากหินทรายชนิดเดียวกับพระแท่นวัชรอาสน์ประดิษฐานที่อินเดีย โดยใช้ช่างอินเดียจากตระกูลช่างแกะสลักที่สืบทอดมานานนับพันปี นำมาสู่พระที่นั่งงดงามนี้

“ พระแท่นวัชรอาสน์จำลองมาประดิษฐานที่บริเวณต้นปรมัตถสิริมหาโพธิ์ ลานธรรมหลวงพ่อทวด วัดแหลมแค จ.ชลบุรี ครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการสร้างเพื่อให้เห็นว่า เหมือน แต่ต้องการให้ชาวพุทธระลึกถึงวิปัสนากรรมฐานและปริศนาธรรมที่พระแท่นวัชรอาสน์ เพื่อให้เกิดสติปัญญา จากการสืบค้นไม่พบว่ามีการจัดสร้างพระแท่นวัชอาสน์จำลองมาก่อน  คาดว่าจะเป็นชิ้นแรกที่จัดสร้างและอัญเชิญเข้ามาในประเทศไทย ถือเป็นมหามงคลที่ได้จัดสร้างพระแท่นวัชรอาสน์จำลองถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกรณียกิจด้านศาสนามาอย่างต่อเนื่อง และตรัสว่า จะทำอย่างไรให้พระสงฆ์เรียนบาลี และเข้าถึงพระไตรปิฎก ซึ่งหมายถึง การเข้าถึงวิปัสนากรรมฐานนั่นเอง ดังนั้น พระแท่นวัชรอาสน์ที่จัดสร้างครั้งนี้ สื่อถึงหลักธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่ได้มาสักการะบูชา ขอเชิญชวนประชาชนมาเจริญวิปัสนากรรมฐานที่พระแท่นวัชรอาสน์จำลอง มาขอพรเพื่อความสำเร็จของตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ “ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กล่าวถึงบัลลังค์เพ็ชรหนึ่งเดียวในไทย