
เป็นเวลาหลายปีที่ประเทศไทยปักหมุดหมายที่จะเป็น”ครัวโลก” แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่บรรลุเป้าอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ปัจจัยที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลกได้ก็คือ “อาหารไทย” ซึ่งต้องมีพลังขับเคลื่อนในระดับอุตสาหกรรม ที่สามารถส่งออกและมีมูลค่าตลาดที่สูง
ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
นายสุริยะ กล่าวว่า คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ เป็นกลไกสำคัญหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้นโยบายรัฐบาล IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง สามารถประสบผลสำเร็จ ในการยกระดับประเทศไทย สู่ศูนย์กลางเกษตรและอาหารของโลก และส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น 3 เท่า ใน 4 ปี ที่ประชุมฯได้มีมติเห็นชอบ (ร่าง) คำสั่งฯ แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการจัดการด้านอาหารของประเทศไทยระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ในการจัดทำแผนพัฒนาและบริหารจัดการด้านอาหาร สู่การปฏิบัติระดับจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบในหลักการให้กำหนดนิยาม “อาหารอนาคต” และ “ระบบการผลิตสินค้าเกษตรเพื่ออาหารในอนาคต” เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และใช้เป็นแนวทางกำหนดขอบเขตและจัดทำแผนงานการพัฒนาระบบเกษตรเพื่ออาหารในอนาคต ทั้งนี้ ให้ทบทวนและปรับนิยาม“อาหารอนาคต”และแนวทางการดำเนินงานให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยให้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทางด้านภาควิชาการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดเวทีเสวนา “การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ” ครั้งที่ 7 เพื่อสร้างโอกาสอุตสาหกรรมอาหารอนาคตไทยให้ยั่งยืนบนเวทีโลก พร้อมระดมความเห็นจากภาครัฐ เอกชน และภาควิชาการ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนและออกแบบการจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงขับเคลื่อนประเด็นด้านข้อมูลสถานการณ์ของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนนำเสนอประเด็นโจทย์วิจัยสำคัญ และรับข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่าง ๆ ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตของประเทศ ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศให้แข่งขันกับต่างประเทศได้

รศ. ดร. พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่าสำหรับ แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) พ.ศ. 2566 – 2570 ได้มีแผนงานย่อย Flagship F3 (S1P2) ยกระดับการผลิตและการส่งออก Functional Ingredients, Functional Food, Novel Food ซึ่งใช้วัตถุดิบจากภาคเกษตรในประเทศ ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าประเทศไทยจะต้องมีมูลค่าการส่งออกของผลิตภัณฑ์ Functional Ingredients, Functional Food และ Novel Food ซึ่งใช้วัตถุดิบจากภาคเกษตรในประเทศเพิ่มขึ้น โดยการใช้ผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพิ่มขึ้น 4,000 ล้านบาท ในช่วงปี พ.ศ. 2566 – 2570 จากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ซึ่งเวทีเสวนานี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการช่วยกันขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต มุ่งสู่การเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้อย่างยั่งยืน ด้วยการใช้ ววน.
นายวิโรจน์ นรารักษ์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้กล่าวถึง แนวทางการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร ใน 4 หมุดหมาย คือ หมุดหมายที่ 1 เกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 4 การแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 6 อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและอุสาหกรรมดิจิทัล และหมุดหมาย 10 เศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ ที่มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง ที่จะเป็นปัจจัยเร่งให้อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารมูลค่าสูงต้องนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคผ่านการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ซึ่งการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องต้องมีการใช้งานวิจัยและนวัตกรรม
ขณะที่ รศ. ดร. ณัฐดนัย หาญการสุจริต ประธานหน่วยบูรณาการประเด็นยุทธศาสตร์ เพื่อพัฒนา ววน. ด้านอาหารอนาคต สกสว. และ รองคณบดี คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันผลผลิตทางการเกษตรมีมูลค่าค่อนข้างน้อย เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นวัตถุดิบที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือแปรรูปเพียงขั้นต้นเท่านั้น เกษตรกรไทยจึงมีความเปราะบางสูงและมีรายได้น้อย อย่างไรก็ตามเกษตรกรกลับมีต้นทุนการผลิตที่สูง การผลิตยังต้องพึ่งพาปัจจัยทางธรรมชาติ (น้ำ ที่ดิน และสภาพดินฟ้าอากาศ) ที่มีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้นแนวโน้มเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมอาหารจะเน้นไปในเรื่องความยั่งยืน สุขภาพและโภชนาการ ความซื่อตรงและโปร่งใส รวมถึงการใช้ปีญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยในการแก้ปัญหา นอกจากนี้เทรนด์ทางด้านอาหารจะเน้นไปที่อาหารสุขภาพ อาหารฟังก์ชัน อาหารโภชนาการจำเพาะบุคคล โปรตีนทางเลือก รวมถึงการใช้กระบวนการใหม่ ๆ ปัญญาประดิษฐ์ การหมักแบบแม่นยำ และบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ตลอดห่วงโซ่คุณค่า และเพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทรัพยากรบุคคล การวิจัยและพัฒนา กฎระเบียบและมาตรฐาน และผู้บริโภคและการค้า อีกด้วย

โดยภายในเวทีเสวนา ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมเป็นวิทยากรพร้อมแลกเปลี่ยนในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1. การวิเคราะห์สถานการณ์การผลิตภาคเกษตรและความมั่นคงทางอาหารในบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมอาหารอนาคต โดย นางสาวหิรัญญา สระสม ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจการเกษตรระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2. ความท้าทายและการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของอุตสาหกรรมอาหารอนาคตไทย โดย ผศ. ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า 3. แนวโน้มและโอกาสของอุตสาหกรรมอาหารอนาคตไทยในเศรษฐกิจโลก โดย เกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
4. การขับเคลื่อนกฎระเบียบและมาตรฐานเพื่อคุณภาพ ความปลอดภัยและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมอาหารอนาคต โดย เภสัชกรหญิง สุภาวดี ธีระวัฒน์สกุล ผู้อำนวยการกองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 5. ประเด็นที่น่าจับตามองและการรับมือสถานการณ์โลกที่กระทบต่อธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร โดย ดร.พิเชฐ อิฐกอ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 6. นโยบายการพัฒนาและแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารอนาคตของไทย โดย นางสาวสิรินยา ลิม ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจนวัตกรรม สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ 7) ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ในอุตสาหกรรมอาหารอนาคต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดย รศ. ดร. ณัฐดนัย หาญการสุจริต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
พท. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครล็อต 4 ยัน ธ.ค. ครบ 400 เขต ยังอุบแคนดิเดตนายกฯ
'เพื่อไทย' เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัคร สส. ล็อตใหม่เพิ่ม 11 คน นนทบุรีครบทุกเขต 'สมนึก' โผล่ให้กำลังใจ 'จุลพันธ์' ลั่นไม่มีพรรคไหนพร้อมเท่า พท. มั่นใจยังขายได้ ชื่อแคนดิเดตยังไม่ให้หลุดออกมา
เพื่อไทยจ่อเปิด 3 แคนดิเดตนายกฯ ‘สุริยะ’ มาแน่ สะพัดอีก 2 จากตระกูลชิน
พรรคเพื่อไทยเผย เตรียมเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อ ล็อกแล้ว 1 คือ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ขณะอีก 2 รายอยู่ระหว่างทาบทาม “ณัฐพงศ์ คุณา
พท. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเพิ่ม 31 เขต ส่ง 'อดีตเลขาฯปปส.' ชน 'ธรรมนัส'
'เพื่อไทย' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. รอบ 3 อีก 31 เขต ส่ง 'อดีตเลขาฯ ป.ป.ส.' ชน ''ธรรมนัส' ส่วนคู่สมรส 'จักรภพ' ลง กทม. 'จุลพันธ์' มั่นใจได้ตั้งรัฐบาล
'หญิงหน่อย' ชี้เปรี้ยง! รีแบรนด์ พท. ต้องเลิกบริหารแบบครอบครัว
'อดีตปธ.ยุทธศาสตร์เพื่อไทย' ชี้ พท. ต้องเลิกบริหารแบบพรรคครอบครัว-บริษัทจำกัด ถึงจะรีแบรนด์ได้ มอง 'จุลพันธ์' มีโอกาสนั่งหัวหน้าคนใหม่ แต่ตัวจริงคือแคนดิเดตนายกฯ
มนต์ขลัง “ชินวัตร” เสื่อม “แพทองธาร” ยอมถอย สู้ศึกเลือกตั้ง
ท่ามกลางความร้อนแรงในทางการเมืองไทย เหล่าพรรคการเมืองต่างต้องเตรียมการเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในอีก 4 เดือนข้างหน้า ทั้งวางกลยุทธ์ วางสรรพกำลังสู้ศึกเลือกตั้ง


