ก.อ.ไฟเขียวตั้ง 7 กก.สอบวินัยร้ายแรง 'เนตร นาคสุข' ขีดเส้น60วัน

พชร ยุติธรรมดำรง แฟ้มภาพ

คืบหน้า ก.อ. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 'เนตร นาคสุข-อดีตรองอัยการสูงสุด' กรณีสั่งไม่ฟ้อง ทายาทธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ตกเป็นผู้ต้องหารถชนตำรวจเสียชีวิต ก่อนจะหนีคดีออกนอกประเทศ

18 ต.ค.2564 - ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธาน การประชุม ก.อ. โดยมีวาระสำคัญ การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา คดีขับรถชนตำรวจจราจรสน.ทองหล่อเสียชีวิต

นายพชร เปิดเผยว่า หลังจากที่การประชุม ก.อ.ครั้งที่แล้ว นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธานคณะกรรมการ ในวันนี้ตั้งคณะกรรมการสอบเพิ่มเติมขึ้นอีก 6 คน รวมเป็น 7 คน และย้ำให้ดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะเป็นการสอบสวนเพิ่มเติมจากคราวที่แล้ว ที่เคยตั้งเรื่องความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ซึ่ง ก.อ.มีความเห็นว่า ควรจะเป็นความผิดวินัยร้ายแรงจึงตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพราะฉะนั้น ข้อเท็จจริงของเป็นไปตามเดิม คงไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่า สอบให้รัดกุมมากขึ้น ว่าการผิดวินัยร้ายแรงเป็นอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมายที่กำหนด แต่ตอนคิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน

สำหรับคณะกรรมการสอบฯ ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คนคือ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ (ก.อ.สายบำนาญ) เเละกรรมการ ประกอบด้วย นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุด (ก.อ.โดยตำเเหน่ง) ,นายเชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ อธิบดีอัยการภาค 4 รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ , นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานปกครองเพชรบุรี รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 7 (ก.อ.) , นายอนุชา วัฒนวิภา อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการอัยการ รักษาการในตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ, พ.ต.ต.สันติ มุริจันทร์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น และนายมั่นเกียรติ ธนวิจิตรพันธ์ ผู้ตรวจการอัยการ ซึ่งทุกท่านผ่านงานราชการมามาก มีทั้งผู้ที่เคยผ่านสำนักงานคดีพิเศษและบางคนเป็นคณะกรรมการร่างกฎหมายหลายฉบับ เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องการสอบสวน เชื่อว่าคณะการการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข จะสอบสวนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 60 วัน ซึ่งสามารถขอขยายเวลาสอบเพิ่มได้อีก 2 ครั้ง รวมแล้วไม่เกิน 180 วัน

นายพชร กล่าวอีกว่า เราต้องการสอบสวนให้รัดกุมเพื่อจะขยายไปถึงอัยการที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์ของนายวรยุทธ หรือ บอส และถ้าหากรู้ว่าเป็นใครก็จะต้องกรรมการสอบสวนชั้นต้น อัยการคนนั้นอีกครั้ง เพื่อแยกกันดำเนินการให้รวดเร็ว โดยการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนชุดนี้มีความอิสระ ให้อำนาจพิจารณาอย่างเต็มที่

สำหรับกระแสข่าวเรื่องการขอลาออกของนายเนตร นาคสุข และอัยการอีกคนนั้น ตนทราบว่าอัยการสูงสุดยังไม่เซ็นอนุมัติให้ลาออก แต่ถึงลาออกไป ก็ไม่น่ามีปัญหาเรื่องการสอบสวน เพราะกฎหมายให้อำนาจสอบสวนภายใน 180 วัน

เมื่อถามถึง เรื่องการโปรดเกล้าฯ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ขึ้นเป็นผู้ตรวจการอัยการนั้น นายพชรก ล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่โปรดเกล้าฯลงมา จะทรงโปรดเกล้าฯหรือไม่ก็เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 'จักรภพ' 23 พ.ค. เจ้าตัวแย้มจ่อลุยการเมือง

อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 'จักรภพ เพ็ญแข' ครอบครองอาวุธสงคราม 23 พ.ค.นี้ เจ้าตัวเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม จ่อลุยการเมืองหลังพ้นคดี ชี้ ‘ยิ่งลักษณ์’ ควรได้ความเป็นธรรมเหมือนทุกคน

‘จักรภพ’ เดินสายรายงานตัวอัยการ รับทราบข้อหาคดีอาวุธสงครามที่ฉะเชิงเทรา

จักรภพ แจ้งจะไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับอาวุธสงครามที่พบในจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อหลายปีก่อน

คณะทำงานคดีอุ้มทรมานลุงเปี๊ยก ฟันตำรวจอรัญฯ ข้อหา ม.157-พรบ.อุ้มหาย

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนตามมาตรา 31 แห่ง พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ร่วมประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ใ

คดีถึงที่สุด! อัยการสูงสุดไม่ยื่นฎีกา หลัง 2 ศาลยกฟ้องพันธมิตรฯปิดล้อมสภาปี 51

นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการสูงสุดมีความคืบหน้าคดีสำคัญที่สังคมและสื่อมวลชนให้ความสนใจโดยเป็นคดีที่อัยการสูงสุดไม่รับรองให้ฎีกาคดีฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับพวก เป็นผลให้คดีถึงที่สุด