รมว.สาธารณสุข “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เปิดโครงการเสริมพลัง อสม.สู่ผู้เชี่ยวชาญ ที่ จ.นนทบุรี ขอบคุณช่วยนับคาร์บทะลุ 26 ล้านคน ประกาศเตรียมเพิ่มสิทธิค่าตรวจสุขภาพฟรีหากถึงเป้า พร้อมดัน พ.ร.บ.อสม. เข้าสภาฯ หวังสร้างความมั่นคงให้ อสม. และสาธารณสุขไทยเข้มแข็ง
18 เมษายน 2568 - ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการเสริมพลังความรู้ อสม. สู่ อสม.เชี่ยวชาญ เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs จังหวัดนนทบุรี โดยมีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนนทบุรี น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวง ผู้บริหารกระทรวง ผู้บริหารท้องถิ่นและอสม.เข้าร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วย และการเสียชีวิตของคนไทย ก่อให้เกิดความสูญเสียจำนวนมาก ทั้งค่ารักษาทางตรง และมูลค่าทางเศรษฐกิจทางอ้อม กระทรวงสาธารณสุข จึงกำหนดนโยบาย คนไทยห่างไกล NCDs โดยมี อสม.เป็นหัวใจสำคัญ ในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ประชาชน ผมจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด โครงการเสริมพลังความรู้ อสม. สู่ อสม.เชี่ยวชาญ เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs จังหวัดนนทบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวันนี้ ขอขอบคุณพี่น้อง อสม.ที่ชวนประชาชนนับคาร์บ รวมกันได้แล้วกว่า 26 ล้านคน นับว่าก้าวหน้ามาถึงครึ่งทาง ของเป้าหมาย 50 ล้านคนแล้ว และเมื่อเราสามารถดำเนินการได้ครบ เราจะเพิ่มสิทธิตรวจสุขภาพ ให้พี่น้อง อสม. ฟรีทันที ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 เท่าของสิทธิแบบเดิม ผู้ชายจากเดิมได้ค่าตรวจรวม 335 บาท จะปรับเพิ่มเป็น 855 บาท ผู้หญิงจากเดิมได้ค่าตรวจรวม 585 บาท จะปรับเพิ่มเป็น 1,105 บาท ทั้งนี้ ก็เพื่อให้พี่น้อง อสม. มีสุขภาพที่ดีขึ้น สมกับความทุ่มเท ในการทำงานอย่างหนักเพื่อประชาชน อสม. ถือเป็นความภาคภูมิใจ ของกระทรวงสาธารณสุขเสมอมา ตนต้องการให้พี่น้อง อสม. ได้รับการดูแลที่ดีอย่างทั่วถึง จึงได้เตรียมการ สร้างกลุ่มงานดูแล อสม. ในสาธารณสุขจังหวัด ให้ชัดเจนขึ้น ภายใต้ชื่อ “กลุ่มงานการดูแลสุขภาพภาคประชาชน” เพื่อให้พี่น้อง อสม. ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด จากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีที่จะแจ้งให้พี่น้อง อสม. ทราบว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติ อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. อสม. และส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ก่อนจะประกาศใช้เป็นกฎหมาย ตามขั้นตอนต่อไป ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะช่วยเพิ่มสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความมั่นคง ในการปฏิบัติหน้าที่ของพี่น้อง อสม. ได้ เพราะอสม.เป็นบุคคลที่มีคุณค่า กฎหมายที่ทำออกมาจึงให้มีบัญชีรองรับ หากท่านช่วยลดคนป่วยลง มีบทบาทช่วยประชาชนนับคาร์บ ตนก็จะไปคุยกับ สปสช.เพื่อให้เงินส่วนหนึ่งเข้าบัญชีพวกท่าน นอกจากนี้การออกกำลังกายก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ทำให้อายุยืนยาว ทั้งนี้ เมื่อสภาฯ เปิดก็จะผลักดัน พ.ร.บ.อสม.ให้ออกมาใช้ประโยชน์ได้ ถ้าอสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมศักดิ์' ระวัง! ไม่อยากติดคุก อ่านข้อบังคับแพทยสภาให้ดี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "คุณสมศักดิ์ต้องอ่านถ้าไม่อยากติดคุก" โดยระบุว่า ผมอยากให้คุณสมศักดิ์
เปิดเบื้องลึกประชุมแพทยสภา ชี้ อนุฯเสนอลงโทษหมอ 4 คน
แพทยสภานัด12 มิ.ย. รอ”สมศักดิ์”วีโต้หรือเอาด้วย เผย อนุกรรมการสอบสวนเสนอลงโทษหมอ 4 คน แต่คนที่ 4 รอด หลังปิดห้องถกสามชั่วโมง สุดท้าย เอาผิด3 คน
ปชน. ล็อกคอ 'อิ๊งค์' ยอมรับมติแพทยสภา ตามที่เคยลั่นวาจาไว้กลางสภา
'ลิซ่า' ย้อนคำ 'นายกฯ' ลั่นเองกลางสภา ให้ยอมรับผลสอบแพทยสภา กรณีพ่อป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ หวังรักษาคำพูด ไม่ใช้อำนาจแทรกแซง 'รมว.สธ.' ยับยั้งมติ
'หมอสมิทธิ์' แจงขั้นตอนหลังแพทยสภาฟันแก๊งชั้น 14 เคยมีเคส 'รมว.สธ.' วีโต้มติ
'หมอสมิทธิ์' อธิบายขั้นตอน หลังแพทยสภามีมติฟันแพทย์สามคนรักษา 'ทักษิณ' เผยเคยมีกรณี 'รมว.สธ.' วีโต้ พร้อมแจงเหตุผลยังไม่สามารถเปิดชื่อคนถูกลงโทษได้
อย่ากังวล! ‘หมอวรงค์’ ชี้หาก ‘สมศักดิ์’ ใช้อำนาจยับยั้งมติแพทยสภา ต้องใช้ผลการแพทย์พิสูจน์
ถ้านายสมศักดิ์ใช้อำนาจยับยั้ง แต่ไม่สามารถอธิบาย เหตุผลทางการแพทย์ได้ ผมยืนยันว่า ผู้ใดที่ใช้อำนาจช่วยเหลือ จะอยู่ในตำแหน่งไม่ได้แน่นอน ดังนั้นอย่ากังวลใจ
ผลสอบ-มติ “แพยสภาฯ” แรงสั่นสะเทือนถึงศาลฎีกา “สมศักดิ์” จิ๊กซอว์พลิกเกม!
แม้การเสาะหาข้อเท็จจริงปม ป่วยทิพย์ นักโทษเทวดา ทักษิณ ชินวัตร ถึงตอนนี้โมเมนตัมจะเทไปที่ ศาลฎีกา หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับเรื่องไว้ไต่สวน และจะเปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.