ยกระดับ ‘ข้าวหมากไทย’ เมนูหมักดองรสเลิศ  สู่ตลาดโลก

ข้าวหมากไทย

อาหารไทยมีความโดดเด่นทั้งในด้านรสชาติที่หลากหลายและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละภูมิภาค โดยสามารถผสานรสเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ดได้อย่างกลมกล่อม สะท้อนถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมการกินอันลึกซึ้งของคนไทย หนึ่งในภูมิปัญญาทางอาหารที่น่าสนใจคือ “การหมักดอง” ซึ่งแต่ละภูมิภาคต่างมีวิธีการที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นและกระบวนการธรรมชาติในการถนอมอาหาร แม้จะแตกต่างกันในรายละเอียด แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือยืดอายุการเก็บรักษา ลดการสูญเสียอาหาร พร้อมทั้งเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น และยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่ดีต่อสุขภาพ

ในยุคที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและการบริโภคอย่างยั่งยืน โครงการ Thai Power Probiotics เพื่อส่งเสริม “อาหารหมักดองไทย” ซึ่งมีจุลินทรีย์โพรไบโอติกตามธรรมชาติโดยเฉพาะ‘ข้าวหมาก’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภูมิปัญญา การหมักดั้งเดิมของไทยที่ให้ประโยชน์ทั้งต่อระบบย่อยอาหาและสุขภาพลำไส้และเริ่มเป็นที่สนใจในเวทีโลกมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  สถาบันอาหาร ทีเอ็มบีธนชาตหรือ ทีทีบี (บัตรเครดิต ttb)  และแพลตฟอร์มชิมไทยเดินหน้ายกระดับอาหารหมักดองจากวัตถุดิบไทยชู “ข้าวหมาก” ให้เป็น Soft Power ด้านอาหารเชิงสุขภาพ ผ่านโครงการ Thai Power Probiotics เพื่อผลักดันมรดกภูมิปัญญาไทยสู่เวทีโลก พร้อมเปิดตัวแคมเปญ เส้นทางท่องเที่ยว Flavor of Thai Food: Health & Wellness รสไทยสู่สุขภาพที่ยั่งยืนที่ผสานอาหาร พื้นบ้านกับมิติการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างยั่งยืนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สำหรับ ข้าวหมากไทย คือขนมพื้นบ้านที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่นิยมในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำจากข้าวเหนียวหมักด้วย “ลูกแป้ง” ซึ่งมีจุลินทรีย์ธรรมชาติ มีรสหวาน กลิ่นหอมอ่อน ข้าวหมากจึงถูกยกให้เป็นซูเปอร์ฟู้ด ที่เชื่อมโยงสุขภาพและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว  โดยพบสายพันธุ์จุลินทรีย์โพรไบโอติกในข้าวหมาก เช่น สายพันธุ์  Lactobacillus plantarum และ Lactobacillus rhamnosus มีคุณสมบัติทนกรด ทนเกลือน้ำดี และยึดเกาะผนังลำไส้ได้ดี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้

ศศิฑอณร์ สุวรรณมณี

สายพันธุ์ Saccharomyces cerevisiae ยีสต์สายพันธุ์สำคัญที่มีบทบาทในการหมัก ช่วยในการย่อยอาหารและเสริมสุขภาพลำไส้ และ Pediococcus pentosaceus เป็นแบคทีเรียกรดแลกติกที่สามารถยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียก่อโรค เมื่อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ทำงานอย่างสมดุล สมองจะทำงานดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน ทำให้ข้าวหมากกลายเป็นอาหารพื้นบ้านที่น่าสนใจในยุคที่ทุกคนใส่ใจการทานเพื่อสุขภาพมากขึ้น

ศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม  กล่าวว่า โครงการ Thai Power Probiotics ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริม Soft Power ไทย โดยใช้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณค่าของอาหารไทยสู่ตลาดโลก เพราะอาหารไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหาร แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชน และเป็น ทุนวัฒนธรรมที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล

ศศิฑอณร์ กล่าวต่อว่า อาหารหมักดองไทยถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพมาอย่างยาวนาน ในปัจจุบัน อาหารหมักดองที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในระดับโลก โครงการนี้จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาอาหารหมักดองของไทยให้สามารถก้าวสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะเมนูข้าวหมากไทย ซึ่งไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังเป็นอาหารที่ “มีชีวิต” เพราะอุดมด้วยจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ ข้าวหมากจึงถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สำคัญของไทย สะท้อนทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาดั้งเดิมในการดูแลสุขภาพที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และพร้อมจะก้าวไกลในฐานะ Functional Food ที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมแน่นแฟ้น พร้อมศักยภาพทางสุขภาพที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

เชฟเอ็กซ์-อรรถพล ไนโต ถังทอง

ศักยภาพข้าวหมากไทยสู่ตลาดโลก นุชจรินทร์ เกตุนิล ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายนวัตกรรมอาหารสถาบันอาหาร (NFI)  กล่าวว่า ข้าวหมากไทยทำจากข้าวเหนียว ซึ่งเป็นพืชที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ โดยข้าวเหนียวไทยหลายสายพันธุ์ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) การนำข้าวเหนียวเหล่านี้มาแปรรูปเป็นข้าวหมากไม่เพียงสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ยังเพิ่มคุณค่าในด้านสุขภาพด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

“เพื่อผลักดันข้าวหมากไทยสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างยั่งยืน อาจต้องมีการปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์จากข้าวหมากสดเป็นข้าวหมากแห้ง โดยใช้เทคโนโลยีฟรีซดราย (Freeze-Dried Technology) เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องมีการควบคุมกระบวนการผลิตให้ปลอดภัยในทุกขั้นตอน พร้อมตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อน และประเมินชนิดของจุลินทรีย์ทั้งที่เป็นประโยชน์และอาจก่อให้เกิดโทษ เพื่อให้ข้าวหมากไทยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทั้งปลอดภัย มีคุณภาพ และพร้อมแข่งขันในระดับสากล” นุชจรินทร์ กล่าว

6 เมนู ผสมผสานวัตถุดิบจากข้าวหมาก

ในด้านการท่องเที่ยว อาชวันต์ กงกะนันท์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการ Thai Power Probiotics ได้เริ่มดำเนินการนำร่องใน 5 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สมุทรสงคราม และประจวบคีรีขันธ์ โดยมุ่งสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ผสานความอร่อยของอาหารไทยเข้ากับคุณประโยชน์ด้านโพรไบโอติกส์ พร้อมเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตและเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทำอาหารไทยอย่างใกล้ชิด

ข้าวหมากสู่วัตถุดิบอาหารรสเลิศ เชฟเอ็กซ์-อรรถพล ไนโต ถังทอง Executive Chef ประจำโรงแรม Bangkok Marriott The Surawongse ได้รังสรรค์เมนูที่มีข้าวหมากเป็นส่วนผสม ได้แก่  ลุยสวนดอกไม้ซอสข้าวหมากงาคั่ว เมี่ยงคำลูกกะปิผักกาดดอง พานาคอตต้าข้าวหมาก แซนวิชหมูทอดคัตสึ ซอสตาต้ามะแขว่นดองเกลือ อกไก่พันเบคอนซอสครีมสับปะรดไซเดอร์ แซลมอนซูชิสอดไส้หน่อกระวานดอง

มะเดื่อดอง

“ใน 6 เมนูที่ได้นำข้าวหมากเป็นวัตถุดิบ อย่าง พานาคอตต้าข้าวหมาก ซึ่งบางคนอาจจะทานยาก แต่เมื่อนำมาผสมกับโยเกิร์ตทำให้ทานง่ายขึ้น และที่สำคัญคือ การเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามการจะผลักดันให้ข้าวหมากไปสู่ระดับสากลได้ คนที่ไม่ใช่เชฟจะต้องสามารถทำทานได้ด้วย” เชฟเอ็กซ์ กล่าว

นอกจากนี้ยังมีอาหารหมักดองที่น่าสนใจอีก เช่น ผักกาดดองน้ำซาวข้าว เพราะนํ้าซาวข้าว วัตถุดิบเรียบง่ายในครัวไทยที่หลายคนมองข้าม แต่ในภูมิปัญญาท้องถิ่นกลับถูกนำมาใช้เป็น หัวใจในการหมักผักกาดดอง ให้ได้รสเปรี้ยว นุ่มละมุน กลิ่นหอมรรรมชาติ และมีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) จากการหมักแบบดั้งเดิม และอีกเมนูไซเดอร์สับปะรด เครื่องดื่มหมักจากสับปะรดสยาม โกลด์  มีรสเปรี้ยวหวานหอมดื่มแล้วสดชื่น ซ่าเบา ๆ แบบไร้แอลกอฮอล์ อุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีสูง เป็นเครื่องดื่มแนว Functional Drink ที่ไม่ใช่แค่ดับกระหายแต่ยังดูแลลำไส้และสุขภาพโดยรวมด้วย และยังมีเมนูอื่นๆที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย

ผักกาดดองน้ำซาวข้าว

ติดตามโครงการThai Power Probiotics & Flavor of Thai Food.Health.Wellness เพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Thaipowerprobiotics.

กระวานดอง 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สวธ.สำรวจภูมิปัญญาท้องถิ่น‘บ้านทะเลน้อย’ พัทลุง ต่อยอดอัตลักษณ์ชุมชน

นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ลงพื้นที่ ณ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

สวธ.คว้ารางวัลด้านส่งเสริมผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดียตอกย้ำศักยภาพเผยแพร่วัฒนธรรม

นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เข้าร่วมงานประกาศรางวัล Thailand Social Awards ครั้งที่ 13 เพื่อรับรางวัล Finalist ของกลุ่มรางวัล Best Brand Performance on Social Media สาขา Promotion and Support Agency

สวธ.จัดงานวันศิลปินแห่งชาติครบ 4 ทศวรรษ เผยแพร่ผลงานทรงคุณค่า 12 ศิลปินแห่งชาติ ปี 66

วันที่ 24 ก.พ.2568 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จัดงานวันศิลปินแห่งชาติ ครบรอบ 4 ทศวรรษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ผู้ทรงเป็นพระปฐมบรมศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์