ทบทวนระบบเตือนภัยรับมือฤดูฝน สร้างพิมพ์เขียวแก้น้ำท่วม'เชียงใหม่-เชียงราย'

สัญญาณชัดเจนฝนปีนี้มาเร็ว เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา สอดรับข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ฝน ONE MAP ทั้งประเทศในช่วงฤดูฝนปี 2568  ช่วงเดือนพฤษภาคม–กันยายน 2568  จะมีปริมาณฝนค่อนข้างมาก และฤดูฝนจะมาเร็ว คาดว่า กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนช่วงกลางเดือนนี้เป็นต้นไป ผลกระทบจากน้ำท่วมนั้นมีความรุนแรง จำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องเตรียมแนวทางป้องกันและรับมือน้ำท่วมเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยมหาอุทกภัยปี 2554 น้ำท่วมใหญ่เชียงราย-เชียงใหม่ ปี 2567  

ในการประชุมครั้งแรกของคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการความร่วมมือแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมในระดับพื้นที่ระหว่างกระทรวงมหาดไทย (มท.)  กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยนวัตกรรม(อว.)  และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)    ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายชยชัย แสงอินทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ รองผู้อำนวยการ สกสว. พร้อมคณะทำงานฯ เข้าร่วม ณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เมื่อวันก่อน  

ที่ประชุมนำเสนอแผนงานแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมและเป้าหมายสำคัญบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมน้ำแล้งใน 100 ตำบล ในพื้นที่เป้าหมาย 10 จังหวัด แน่นอนว่า จ.เชียงใหม่และเชียงรายที่เสียหายหนักจากวิกฤตน้ำท่วมปีที่แล้วอยู่ในลิสต์  แล้วยังมี จ.ลำพูน พะเยา น่าน กำแพงเพชร ขอนแก่น ชัยภูมิ สงขลา พัทลุง และน่าน  ลดจำนวนครัวเรือนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม ลดรายจ่ายของภาครัฐในการบรรเทาทุกข์น้ำท่วม น้ำแล้งในพื้นที่ ขณะเดียวกันเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่

ศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ รอง ผอ. สกสว. กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยต้องเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ เป็นประเด็นท้าทายอย่างมาก สกสว.จึงจัดรายงานความคืบหน้าในการเตรียมการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมในระดับพื้นที่ของ มท. และแผนงานรองรับ รวมทั้งการสนับสนุนด้านนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมในระดับพื้นที่ของกระทรวง อว. โดย สกสว. จะเป็นโซ่ข้อกลางประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนงานวิชาการ โดยเฉพาะการสนับสนุนแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. เรื่อง “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” ในปีงบประมาณ 2568 โดยมีสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นหน่วยขับเคลื่อน

สำหรับสถานการณ์และการคาดการณ์สถานการณ์น้ำของประเทศไทยในปัจจุบัน  รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ เลขานุการคณะทำงานฯ และผู้อำนวยการแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า ไทยยังอยู่ในช่วงลานีญาที่มีค่าความเป็นกลาง ต้องเฝ้าระวัง  จากการคาดการณ์รายฤดู แนวโน้มปีนี้จะมีฝนมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยในพี้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ส่วนช่วงเดือนกรกฏาคมจะมีฝนตกมากในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในช่วงเดือนสิงหาคมจะมีฝนมากในภาคกลางและใต้ ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมฝนจะลงในภาคใต้  แต่ปีนี้ฝนจะตกเป็นจุดๆ และตกหนัก แนวโน้วน้ำท่วมใหญ่ไม่มี แต่จะท่วมเป็นกระจุกๆ

“ ทีมวิจัยศึกษา พบว่า ปีที่แล้วน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่  นอกจากฝนตกมากแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องความตื้นเขินของแม่น้ำและระดับการคาดการณ์น้ำในแม่น้ำเพื่อเตือนภัยที่ต้องทบทวน เพราะผิดหมด  ทำให้การคาดการณ์ผิดเพื่อ ไม่สามารถเตือนภัยให้ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวเข้าใจ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้  อย่างระดับน้ำปิงที่สะพานนวรัตน์  แนวทางแก้ปัญหาภายใน 2 ปีนี้ เราเสนอขุดลอกแม่น้ำปิง บำรุงรักษาร่องน้ำปิง และรื้อฝายเก่า  เงินงบประมาณเพิ่งออกเดือนเมษายนที่ผ่านมา หวังว่าจะเสร็จก่อนหน้าฝนที่กำลังจะมาถึง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ  “

รศ.ดร.สุจริต กล่าวต่อว่า จะแก้น้ำท่วมเชียงใหม่ เชียงรายอย่างยั่งยืน ต้องทำนายน้ำท่วมใหม่ ภายใต้เงื่อนไขใหม่   นักวิจัยจะหาแนวทางจัดการน้ำและเตรียมพื้นที่ล่วงหน้าจากระบบเตือนภัย เพราะระบบเตือนภัยปัจจุบันเป็นภาพรวม ไม่ได้เตือนภัยลงระดับพื้นที่หรือซอยย่อย คลองย่อยไม่มีบอก อีกทั้งลักษณะฝนตกในปัจจุบันไม่เหมือนเมื่อก่อน ความหลากหลายของฝนเป็นอีกปัจจัย   ประกอบกับไทยมีสถานีวัดระดับน้ำขนาดเล็กเพียง 200 แห่ง เทียบกับญี่ปุ่นมี 20,000 แห่ง  ข้อมูลตรวจวัดจึงมีข้อผิดพลาด  ซึ่งนักวิจัยจะจัดระบบเตือนภัยน้ำท่วมใหม่ มีตารางเตือนภัยในพื้นที่ทันสมัยขึ้นจากการปรับปรุงมาตรวัดภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อลดความเสียหาย ส่วนเชียงรายจะขุดลอกแม่น้ำกกและลำน้ำสาย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันถ้าฝนมาเยอะเหมือนปีที่แล้ว ทีมวิจัยคาดน้ำท่วมซ้ำแน่นอน แต่ชาวบ้านจะรู้ทันภัยล่วงหน้า อพยพ ลดสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินเสียหายน้อยที่สุด   ทั้งนี้ ทีมวิจัยจะสร้างแบบพิมพ์เขียวของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการในระยะต่อไปในพื้นที่เทศบาลเมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงราย และเมืองขอนแก่น ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปีด้วย   

นอกจาก 9 มาตรการรับมือฤดูฝนที่ สทนช.กำหนดแล้ว ผอ.แผนงานฯ น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง เน้นย้ำสภาพอากาศที่แปรปรวน การแกว่งของน้ำจากนี้ไปรุนแรง มาตรการทางโครงสร้างขนาดใหญ่ใช้เวลานานกว่าจะแล้วเสร็จ เราไม่ปฏิเสธโครงการใหญ่ แต่ชาวบ้าน ชุมชนและท้องถิ่นในพื้นที่ควรเตรียมการดูแลภัยธรรมชาติอย่างมีข้อมูลความรู้และมีส่วนร่วม ต้องปกป้องตัวเอง เพิ่มความเข้มแข็งชุมชน จะรอพึ่งรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้

 ขณะที่จังหวัดต้องมีแผนบูรณการเพื่อการจัดการน้ำอย่างมีเป้าหมาย  ใช้น้ำที่มีอยู่ให้คุ้มค่า ใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดการ ส่งเสริมเกษตรเพิ่มมูลค่าการใช้น้ำ  ใช้ปั้มน้ำโซลาร์เซลล์ให้น้ำพืชแบบแม่นยำสูง ปลูกไม้ผล ไม้ดอก ที่มีมูลค่าสูง ใช้งานวิจัยขยายผล   โดย อว.จะช่วยสนับสนุนด้านวิชาการ ข้อมูล รวมทั้งวางแผนการจัดการน้ำในเขตเมืองและจัดทำแผนบูรณการน้ำของจังหวัด ให้ลดภัย ลดเสี่ยง พร้อมมีมาตราการสร้างรายได้เสริม โดยใช้นวัตกรรมเข้าช่วย  

ทั้งนี้ นักวิจัยจะมีการติดตามงานเพื่อนำเสนอคณะทำงานฯ ทุก 3 เดือน โดยมีโครงการนำร่อง เช่น ระบบป้องกันน้ำท่วมในเขตเมือง  ส่วนน้ำแล้ง มุ่งเน้น อบจ. อบต.พัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก สร้างฝายขนาดเล็ก บ่อน้ำบาดาล โดยเฉพาะเพื่อน้ำประปา จัดทำระบบเชื่อมโยงกับทางน้ำที่มี เพื่อเพิ่มความสามารถเก็กกักน้ำ  และทำแปลงผักในช่วงฤดูแล้งเพื่อเป็นรายได้เสริม ประมาณ 100 โครงการ ในระยะเวลา 2 ปี อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมี 45 จังหวัดที่เจอปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม โครงการฯ นี้คัดเลือกพื้นที่ 10 จังหวัดเชื่อมโยงกับลุ่มน้ำสำคัญ  ในส่วนจังหวัดที่เหลือเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยต้องขับเคลื่อนขยายผลต่อไป

ด้านนายชิษนุวัฒน์ มณีศรีขำ นักวิจัยที่ร่วมทำแผนพัฒนาจัดการน้ำระดับตำบลป้องกันน้ำท่วมที่ อบต.บ่อสวก จ.น่าน กล่าวว่า  จังหวัดน่านมีปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและแล้งซ้ำซาก  เพราะสภาพพื้นที่นอกจากลำน้ำน่านแม่น้ำสายหลัก ยังมีลำน้ำสายย่อยๆ กระจายเต็มพื้นที่ แต่ปัจจุบันสภาพป่าเสื่อมโทรมและมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน การยกระดับให้ตำบลและอปท.  ลุกขึ้นมาจัดการน้ำช่วยบรรเทาปัญหาได้ ที่ผ่านมา ถูกจัดการโดยคนนอก ปัจจุบันกลไกจัดการน้ำติดตั้งในตำบล  เราไปเติมความรู้ เพิ่มบทบาท อปท. ทำงานร่วมกัน จะเกิดโครงการเหมาะสมกับพื้นที่    ถ้าทุกตำบลมีระบบสารสนเทศน้ำตำบล จะนำไปสู่การวางแผนที่การจัดการน้ำและอาชีพมีประสิทธิภาพ ช่วยแก้ปัญหาตามเป้าหมายและตอบโจทย์นโยบายพัฒนาประเทศ

นักวิจัยกล่าวต่อว่า ที่บ่อสวกชาวบ้านและอบต.สำรวจแหล่งน้ำ รวบรวมข้อมูลแหล่งน้ำ ทำผังน้ำ และเส้นทางน้ำ วิเคราะห์ข้อมูล GIS ปริมาณฝนและอุณหภูมิพื้นที่ ทำแผนบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ พัฒนากลไกจัดการน้ำ  นำไปสู่การปรับปรุงรูปแบบการผลิตสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำเกิดอาชีพหลังฤดูทำนา  รวมกลุ่มปลูกพืชในพื้นที่ร่วม  มีการประสานกับข้อมูลน้ำกรมอุตุนิยมวิทยา สสน. สทนช.  และจะเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลการพยากรณ์น้ำท่วมกับ ปภ. 

“ ระดับพื้นที่จัดทำฝายแกนดินซีเมนต์ เป็นแนวทางสำคัญในการตัดยอดน้ำบนพื้นที่สูงสู่พื้นที่ราบและหน่วงน้ำ ดักน้ำ ไม่ให้มวลน้ำไหลลงสู่ลุ่มน้ำน่านเร็วเกินไป กรณีมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นอกจากลดความรุนแรงของการไหลบ่าของน้ำที่รวดเร็วแล้ว ยังช่วยกักน้ำลงดินมีน้ำใช้เพื่อการเกษตร ปัจจุบันสร้างฝายแกนดินซีเมนต์เสร็จแล้ว 100 ฝาย จากทั้งหมด 200 กว่าฝาย  นอกจากนี้ จัดทำสถานีตรวจวัดน้ำฝนในพื้นที่ หากปริมาณน้ำเกินมาตรฐาน พร้อมอพยพหนีภัย สามารถจัดการน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่ด้วยตนเอง และเชื่อมประสานหน่วยงานภายนอกสนับสนุน “ นายชิษนุวัฒน์ กล่าว

สำหรับน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด กระทรวงอว. สนับสนุนทีมงานนักวิจัยท้องถิ่นและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่จาก 10 มหาวิทยาลัย จำนวน 200 คน  นวัตกรรมและเทคโนโลยีมากกว่า 15 เรื่อง  หลักสูตรอบรมผลักดันองค์กรผู้ใช้น้ำ สร้างนายช่าง อบต.ที่วางแผนเรื่องน้ำ สร้างคน กระบวนการจัดทำแผนจัดการน้ำระดับจังหวัดระยะ 5 ปี ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเดินหน้าสนับสนุนสร้างแบบพิมพ์เขียวแก้น้ำท่วมระยะยาวในเมืองเชียงใหม่ เชียงราย และขอนแก่น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลั่นฆ้องส่งมอบโครงการขุดลอกแม่น้ำปิง บรรเทาอุทกภัยคนเชียงใหม่

นายกฯ ลั่นฆ้องส่งมอบโครงการขุดลอกแม่น้ำปิง ชื่นชมทุกหน่วยงานร่วมกันเข้มแข็งจนสำเร็จ บรรเทาอุทกภัยคนเชียงใหม่ ขอสานต่อพลังความร่วมมือรักษาต่อไป ชี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น บอกรัฐบาลพร้อมหนุนโครงการทุกจังหวัด

ครบ 1 ปี ภัยพิบัติเชียงราย จัดเวทีระดมข้อเสนอแก้สารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำ ชงรัฐบาลใหม่

ระดมข้อเสนอแก้ปัญหาสารพิษปนเปื้อนแม่น้ำกกสายรวกโขงชงรัฐบาลใหม่ ภาคประชาชนเชียงรายจัดงานครบ 1 ปีภัยพิบัติน้ำท่วม-โคลนถล่ม หวั่นข้าวนาปีนับแสนไร่รับผลกระทบ-จี้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพจัดวงหารือประเทศภูมิภาค

เปิดภาพ 'จันทรุปราคา' เต็มดวงเหนือฟ้าเมืองไทย รอชมอีก 3 มี.ค. 69

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผยภาพปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงเหนือฟ้าเมืองไทย