
ในยุคที่ความรู้ไม่จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน “เมือง” กำลังกลายเป็นระบบการเรียนรู้ที่มีชีวิต มีผู้คนเป็นหัวใจ และมีวัฒนธรรมแห่งการให้และการแบ่งปันเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ พื้นที่สาธารณะจึงไม่ใช่แค่ฉากหลังของชีวิตประจำวัน แต่เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พบปะ แบ่งปัน และเรียนรู้ร่วมกันอย่างเท่าเทียม
ด้วยแนวคิดนี้ สถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และเครือข่ายพันธมิตรกว่า 70 องค์กร จัดงาน เทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ ครั้งที่ 3 “Learning Fest Bangkok 2025” ภายใต้แนวคิด “Givetopia: อุดมการ(ณ์)ให้” เพื่อเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำใจ ความร่วมมือ และความหลากหลาย
สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศของ TK Park ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักของงาน ได้กลายเป็นศูนย์รวมของจุดเรียนรู้กว่า 120 รายการ ที่ถ่ายทอดการเรียนรู้ผ่านการให้ ในรูปแบบต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยกิจกรรมออฟไลน์จัดเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.Tour เปิดมุมมองใหม่ของกรุงเทพฯ ผ่านกิจกรรมภาคสนาม เช่น เป็นสายตานักเขียน Walk-shop โดย Fathom Bookspace ที่พาเดินสำรวจสวนพลูในมุมมองของนักเขียน และเที่ยวเพลินเดินบ้านครัว โดยคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร ที่พาผู้ร่วมกิจกรรมสัมผัสวิถีชุมชนผ่านวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่น

2.Workshop เวิร์กช็อปหลากหลายที่เปิดโอกาสให้ลงมือทำจริง เช่น Sunshine Class Game โดย BlackBox, สำรวจต้นไม้สำรวจใจ โดยมูลนิธิรักษ์ไม้ใหญ่ 3.Showcase นิทรรศการที่ถ่ายทอดเรื่องราวของการให้ ผ่านศิลปะ เช่น The Happily Unusual Spirit House (H.U.S.H) โดย CREAM Bangkok x NidNok และกิจกรรม Give your heart a chance to love โดยสมาคมสื่อสารอย่างสันติ
4.Arts ศิลปะที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน เช่น The Missing Flower in Bangdung Conference ณ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน และ Fleurissimo การแสดงศิลปะเสียง ณ ปากคลองตลาด โดยสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา 5.Special ประสบการณ์เรียนรู้ที่แปลกใหม่ เช่น TALK & TOUCH กับทีมสุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย และกิจกรรม Play IBGL โดยสถาบันบอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้ และ6.ห้องเรียนแห่งความเป็นไปได้ โดย Saturday School และ Positive Parenting โดย Soulful Parent

ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD กล่าวว่า เทศกาล Learning Fest มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมการเรียนรู้รูปแบบใหม่ในสังคมไทย โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ เมื่อปี 2566 และได้ขยายแนวคิดการเรียนรู้เพื่อทุกคน ไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น นครศรีธรรมราชและนครราชสีมา โดยปี 2568 จะมุ่งหน้าสู่จังหวัดลำปาง สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจน ซึ่งผู้คนในชุมชนเริ่มลุกขึ้นมามีบทบาทในการออกแบบระบบการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของตนเองมากยิ่งขึ้น
“สำหรับแนวคิดGivetopia ที่ผสมผสานระหว่างคำว่า Give (การให้) และ Utopia (เมืองในอุดมคติ) เพื่อสร้างภาพฝันของเมืองที่ทุกคนมีบางสิ่งให้แบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นเวลา ความรู้ ทักษะ หรือพลังใจ และเพื่อชี้ให้เห็นว่าพื้นที่การเรียนรู้สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดสังคมที่เชื่อมโยง เข้าใจ และเติบโตไปด้วยกัน ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน และสังค ดังนั้นเทศกาลนี่ ไม่ใช่แค่กิจกรรมประจำปี แต่คือพื้นที่แห่งการมีส่วนร่วม ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ และแรงบันดาลใจ เพื่อร่วมกันวางรากฐานของสังคมไทยบนหลักของความเข้าใจ ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพ” ดร.ทวารัฐ กล่าว
วัฒนชัย วินิจจะกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK Park กล่าวว่า เทศกาลนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่กลางสำหรับเครือข่ายการเรียนรู้จากทั่วประเทศให้ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยน และนำเสนอกระบวนการเรียนรู้ที่ไม่จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน แต่เป็นการเรียนรู้ที่สนุก เข้าถึงง่าย และเปิดกว้างสำหรับทุกเพศ ทุกวัย และทุกสถานะ ซึ่งผู้จัดงานย้ำว่าเทศกาลนี้ต้องการแสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นภายใต้กรอบของการสอบแข่งขันเท่านั้น เพื่อ ให้ผู้คนในสังคมหันกลับมาตระหนักถึงคุณค่าของการแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ โอกาส หรือความเข้าใจ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีมากพอถึงจะสามารถให้ได้ เพราะการให้ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของความเป็นมนุษย์

“ยกตัวอย่าง เรื่องเล่าจากนักมานุษยวิทยาชื่อดัง มาร์กาเร็ต มีด ที่ชี้ว่า จุดเริ่มต้นของอารยธรรมมนุษย์ไม่ได้มาจากการค้นพบเครื่องมือหรืออักษร แต่เกิดจากการพบโครงกระดูกขาหักที่มีร่องรอยของการรักษา ซึ่งสะท้อนถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่หวังผลตอบแทน นั่นคือหัวใจของความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง และแม้กิจกรรมหลักจะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 5,000 คน ยังไม่รวมช่องทางออนไลน์ สิ่งที่น่าจับตาคือกระแสตอบรับจากต่างจังหวัด เช่น โคราช หรือล่าสุดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีผู้เข้าร่วมแต่ละรอบกว่า 100 คน รวมตลอดงานกว่า 1,000 คน สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยทั่วประเทศยังมีหัวใจของผู้เรียนรู้พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ เพียงแค่ต้องมีพื้นที่และโอกาสให้พวกเขาได้เข้าถึง”วัฒนชัย กล่าว
วัฒนชัย กล่าวต่อว่า เทศกาลการเรียนรู้จึงไม่ได้เป็นเพียงเวทีของกิจกรรม แต่คือการขับเคลื่อนวาระทางวัฒนธรรมในระยะยาว ที่มุ่งเปลี่ยนการเรียนรู้ ให้กลายเป็นสิทธิร่วมของทุกคน และเป็นพลังสำคัญในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเท่าเทียม เพราะเมืองที่น่าอยู่ในศตวรรษนี้ไม่ได้วัดจากขนาดเศรษฐกิจหรือโครงสร้างพื้นฐานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นเมืองที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้เรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต โดยที่การเรียนรู้ไม่ใช่เพียงเครื่องมือพัฒนาทักษะ แต่คือรากฐานของการอยู่ร่วมกันในสังคม และแม้ Givetopia จะยังไม่ปรากฏอยู่บนแผนที่ หากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน และประชาชน พร้อมใจกันลงมือให้และร่วมมือกัน เทศกาลการเรียนรู้ก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเมืองแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘มาดามหยก’ นำ Indy Team ต้อนรับเยาวชนไทยในสหรัฐฯ เยือนแผ่นดินแม่
"มาดามหยก" นำชมรม Change Together & Indy Team ร่วมเลี้ยงต้อนรับ คณะเยาวชนไทยในสหรัฐฯ เยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 14 พ
อันตราย! เด็กไทยเผชิญครอบครัวบุหรี่ไฟฟ้า
เด็กไทยเสี่ยงรับสารพิษจากกลิ่นบุหรี่ไฟฟ้าที่ติดเสื้อผ้าพ่อแม่นักสูบ สสส. สานพลัง ธปท. เปิดพื้นที่ ชวนเด็กGen Z เรียนรู้ภัยบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านนิทรรศการคอนเซ็ปต์ใหม่ FAKE OR FRESH? งานวิจัยพบ เด็กที่มีพ่อแม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีโอกาส 2 เท่าหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น
สานฝันเยาวชน 'TESA'จัดบอล7คนU12 เฟ้นแข้งเจ๋งลุยเกาหลีใต้
TESA แพลตฟอร์มในการพัฒนานักกีฬารุ่นเยาว์ให้ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาชั้นนำ จัดศึกลูกหนัง 7 คน “ยูไนเต็ด ฟุตบอล ชาลเลนจ์ คัพ 2025” รุ่น U12 รวม 5 สนาม เฟ้นนักเตะเข้าสู่ระบบ FA Thailand Talent ID พร้อมได้สิทธิ์ไปเข้าแคมป์ฝึกซ้อมที่เกาหลีใต้
เยาวชนชาย-หญิงไทยสร้างชื่อ ผงาดครองแชมป์ เทนนิส'เซาท์อีสต์ เอเชีย'
การแข่งขันเทนนิสเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเภททีมชาย และทีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี (ยู-12) รายการ "เอทีเอฟ ทเวลฟ์ แอนด์ อันเดอร์ ทีม คอมเพทติชั่น - ซัพพอร์ทเต็ด บาย เคทีเอฟ รีเจียนัล ควอลิฟายอิ้ง เซาท์อีสต์ เอเชีย อีเวนท์" ณ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2568 เป็นวันสุดท้าย
'ออมสิน'จัดกีฬาธนาคารโรงเรียน2568 ปั้นเยาวชนสู่เส้นทางอาชีพ ชิงเงินรวมกว่า4.6ล้าน
นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มยุทธศาสตร์และสื่อสารเพื่อความยั่งยืนเป็นประธานงานแถลงข่าวเปิดการแข่งขัน “มหกรรมกีฬาธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน ประจำปี 2568” หรือ GSB Youth Sports Festival ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 4.6 ล้านบาท พร้อมทั้งเป็นการเสริมทักษะด้านกีฬา พัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน และเปิดโอกาสก้าวสู่เส้นทางนักกีฬามืออาชีพในอนาคตกับ 3 ชนิดกีฬา ยอดนิยม ได้แก่ ฟุตบอล, บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล โดยมี นายกรวิชญ์ ทะสา (กองหน้าทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน), นายอิมานูเอล ชิเนดุ เอเจสุ (นักบาสเกตบอลทีมชาติไทย) และนางสาวธนวรรณ อรุณเมือง (นักวอลเล่ย์บอล ทีมสุพรีม ทิพย ชลบุรี-อี.เทค) ร่วมงานเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม