วปอ.บอ.เสริมทักษะอาชีพเด็กจบใหม่พบยอดสมัครงานพุ่ง 1.4 ล้านครั้ง แต่รับแค่2.2แสน

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรที่ส่งผลให้แรงงานในระบบลดลง ขณะที่ความต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหา Mismatch of Skills หรือภาวะทักษะไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้เกิดวงจรการจ้างงานของนักศึกษาจบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยข้อมูลของ JobThai .com พบว่าสถิติการสมัครงานนักศึกษาจบใหม่ใน 6 เดือนแรกของ 2568 สูงถึง 1,486,604 ครั้ง และพบว่ามีตำแหน่งงานเปิดรับนักศึกษาจบใหม่จำนวน 220,000 ตำแหน่งงาน หรือเพียง 20% จากประกาศงานทั้งหมด

ปัญหาดังกล่าว ได้กลายเป็นโจทย์สำคัญในการขับเคลื่อนตลาดแรงงานและการหางานของนักศึกษาจบใหม่ ล่าสุดหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.)  วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ร่วมกับภาคีภาครัฐและเอกชนมากกว่า 50 บริษัทชั้นนำของไทย ผลักดันการฝึกงานรับมือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงาน และแก้ปัญหา Mismatch of Skill ผ่านโครงการ Future Ready by Future Leader โอกาสจากพี่ เพื่อโอกาสแห่งอนาคต ที่จัดทำขึ้นโดยนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 2 นำร่องคัดเลือกนักศึกษาจบใหม่ในหลากหลายทั่วประเทศ รวมถึงยังนำร่องร่วมมือกับ ศอ.บต. เปิดโควตาเยาวชนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคาดว่าจะสามารถพัฒนาแรงงานดังกล่าวสู่การเป็นพนักงานประจำได้ไม่ต่ำกว่า 10%

ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กล่าวว่า หลักสูตร วปอ.บอ. ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างผู้นำที่มีความเข้าใจในมิติเชิงลึกของสังคมไทย และพร้อมจะก้าวข้ามบทบาทผู้นำองค์กรทั่วไป สู่การเป็นผู้นำที่กล้าขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในระดับเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยบูรณาการองค์ความรู้ด้านความมั่นคงในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ธุรกิจ หรือบริการสาธารณะ เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับทั้งบริบทโลกและบริบทในประเทศ

“การสร้างความมั่นคงในยุคปัจจุบัน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ความมั่นคงทางทหารอีกต่อไป แต่รวมถึงความมั่นคงของชีวิตคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและแรงงานรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพราะคน คือทรัพยากรที่มีคุณค่าสูงสุดของประเทศ” พลโท ทักษิณ กล่าว

พลโท ทักษิณ กล่าวต่อว่า โครงการนี้ของนักศึกษาหลักสูตรรุ่นที่ 2 เป็นโครงการเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนจากทั่วประเทศได้เข้าร่วมฝึกงาน เรียนรู้ทักษะวิชาชีพในสายงานจริงจากผู้เชี่ยวชาญในบริษัทชั้นนำอย่างเท่าเทียม เพื่อเตรียมความพร้อมด้านทักษะ สร้างคุณภาพฝีมือแรงงาน และเสริมศักยภาพให้เยาวชนก้าวสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมั่นใจ ซึ่งจะกลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ด้าน พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และ นักศึกษาหลักสูตร วปอ. บอ.รุ่นที่ 2 กล่าวว่า หัวใจของโครงการนี้ คือการใช้ศักยภาพของเครือข่ายที่มีอยู่ รวมถึงความเชี่ยวชาญของผู้ร่วมโครงการแต่ละคน ในการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มเยาวชนที่เข้าไม่ถึงโอกาสเหล่านี้อย่างแท้จริง

“ในการลงพื้นที่หลากหลาย และพบว่าเยาวชนจำนวนมากที่มีศักยภาพ แต่ยังขาดทรัพยากรและโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา หรือการทำงานที่มีคุณภาพ ในขณะเดียวกัน ปัญหาที่พบในระบบแรงงานปัจจุบัน คือผู้ประกอบการเองก็ต้องการแรงงานที่มีทักษะเฉพาะ แต่กลับหาคนที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการไม่ได้ นักศึกษาที่จบใหม่ ก็ยังไม่มีทักษะที่ตอบโจทย์ตลาด โครงการนี้จึงพยายามเชื่อมโยงทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน ในรูปแบบการฝึกงานฝ on the job training เพื่อให้เรียนรู้ทักษะตรงกับที่ภาคธุรกิจต้องการ และเมื่อจบกระบวนการฝึกงานแล้ว พร้อมมอบโอกาสการจ้างงานจริงให้ด้วย” พราวพุธ กล่าว

พราวพุธ กล่าวต่อว่า โดยในช่วงเริ่มต้นโครงการตั้งเป้านักศึกษาเข้าร่วม 100 ราย แบ่งเป็นเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 30 คน โดยทั้ง 50 บริษัทเครือข่าย มีอัตรารองรับการฝึกงานอยู่ที่ 200 อัตรา ซึ่งผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับการฝึกงานเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนภายใต้การดูแลจากพี่เลี้ยงมืออาชีพสถานประกอบการชั้นนำ เพื่อเสริมสร้างทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนั้นหวังว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบ หรือ ไกด์ไลน์ ในการแก้ปัญหาแรงงานของประเทศอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเฉพาะกลุ่ม แต่เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในภาพรวมอย่างยั่งยืน

แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของ JobThai กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลสถิติการสมัครงานนักศึกษาจบใหม่ในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 พบว่ามีตำแหน่งงานที่พร้อมเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ 20% จากประกาศงานทั้งหมด หรือเพียง 220,000 ตำแหน่ง และมีการสมัครงานของเด็กจบใหม่ 1,486,604 ครั้ง

โดยสายงานที่เด็กจบใหม่สมัครมากที่สุด 1. งานผลิต/ควบคุมคุณภาพกว่า 200,000 ครั้ง 2. งานวิศวกรรมกว่า 173,000 ครั้ง 3. งานช่างเทคนิคกว่า 171,000 ครั้ง 4. งานธุรการ/จัดซื้อกว่า 167,000 ครั้ง 5. งานทรัพยากรบุคคลกว่า 90,000 ครั้ง ขณะที่กลุ่มสายงานที่เปิดรับเด็กจบใหม่มากที่สุดได้แก่ 1.งานขายกว่า 54,000 ตำแหน่ง   2.งานช่างเทคนิคกว่า 18,000 ตำแหน่ง  3.งานผลิต/ควบคุมคุณภาพกว่า 13,000 ตำแหน่ง   4.งานวิศวกรรมกว่า 12,000 ตำแหน่ง 5.งานธุรการ/จัดซื้อกว่า 11,000 ตำแหน่ง

แสงเดือน กล่าวต่อว่า ในแต่ละปีมีนักศึกษาจบใหม่ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานกว่า 300,000 คน แต่จากข้อมูลของการสมัครงานและกลุ่มบริษัทที่เปิดรับงานค่อนข้างที่จะสวนทางกัน อย่าง ตำแหน่งงานขาย ที่เปิดรับจำนวนมาก แต่นักศึกษาจบใหม่อาจไม่อยากทำงานตำแหน่งนี้ เป็นต้น ซึ่งโลกการทำงานในปัจจุบันต้องการทักษะใหม่ๆ อยู่ตลอด ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะต้องเก่งด้านวิชาการแล้ว ด้านทักษะ Soft Skills ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำงานจริง เช่น การทำงานเป็นทีม การสื่อสารกับคนต่างวัย หรือผู้บริหาร ทักษะเหล่านี้เกิดจากการลงมือทำจริง ดังนั้นการส่งเสริมให้ฝึกประสบการณ์ทำงานจริง จะเป็นโอกาสเพื่อเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน

ทั้งนี้ทาง JobThai จึงได้พัฒนาเว็บไซต์ทางการสำหรับโครงการนี้ ภายใน JobThai Platform เพื่อให้องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเปิดรับสมัครนักศึกษาจบใหม่ฝึกงาน สามารถเข้ามาลงทะเบียนและกรอกข้อมูลสมัครฝึกงานได้อย่างสะดวก

สำหรับเครือข่ายภาคีภาครัฐ เอกชนและองค์กรชั้นนำทั่วประเทศ มากกว่า 50 บริษัท  ครอบคลุมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve กลุ่มภาคการผลิต อุตสาหกรรมดิจิทัล การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ เช่น บมจ. กัลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (Gulf), บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub), บมจ.แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี (AIT), กลุ่มไทยรุ่งเรือง, กลุ่มบริษัท พราว กรุ๊ป, บริษัท Asia Pulp & Paper (APP) ฯลฯ

สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าไปกรอกใบสมัครได้ที่ www.JobThai.com/Futureleader โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มของโครงการได้ที่ www.facebook.com/ndcfutureleader หรือ LINE ID : NDCFL